ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข่าวเหม่ หลัว อินเตอร์เนชั่นแนล (Merro International Biology) : Xclusive interview หลี่ จี้ หยาง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เหม่ หลัว อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอโลยี (ประเทศไทย) จำกัด







Capture (Mobile)


สิ่งที่บริษัทขายตรงจากจีนจำเป็นต้องปรับตัว หากต้องการจะเข้ามาขยายตลาดในไทย คือ การมี วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เพราะหากบริษัทขายตรง จากจีนนำวัฒนธรรมขายตรงของจีนมาใช้กับคนไทย แบบทั้งระบบ อาจทำให้การทำงานไม่สามารถเชื่อมต่อ กันได้ ส่งผลให้การเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งหลายๆ บริษัทขายตรงของจีน เป็นบริษัทที่มีศักยภาพไม่ว่า จะเป็นเรื่องของทุน และมีผลิตภัณฑ์ที่ดี มีเพียงแต่ วัฒนธรรมการทำงานที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น หากปรับ ตรงจุดนี้ได้เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างแน่นอน


หากดูจากยอดขายของ เหม่ หลัว ในไทย ในช่วง 2 เดือน- ที่ผ่านมา (เมษายน-พฤษภาคม 2556) ถือว่ามีอัตราการเติบโต สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน แซงหน้าเวียดนามเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว โดยในช่วง 2 เดือนดังกล่าว มียอดขายเฉลี่ย 800,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20 กว่าล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมา เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนได้ เพราะดูจากปัจจัยต่างๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรฐานขายตรงไทยที่มีรูปแบบที่ดี ศักยภาพของผู้นำในไทยมีมากกว่า และตลาดขายตรงไทยใหญ่ กว่าหลายๆ ประเทศ


ภาพความสำเร็จของบริษัทขายตรงจากแดนมังกรนามว่า บริษัท เหม่ หลัว อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ หมอหลี่ หรือ หลี่ จี้ หยางประธานกรรมการบริหาร ที่ดูแลตลาดเมืองไทยมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน ถือว่าเติบโตไม่หวือหวามากนัก แต่บริษัทแม่ในจีน กลับมองว่า เป็นการพัฒนาที่ถูกต้อง เพราะเป็นการวางแนวทาง การเติบโตแบบมั่นคง ซึ่งแนวทางดังกล่าวเริ่มปรากฏเห็นผลลัพธ์ ชัดเจนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤษภาคม 2556) เพราะยอดขายของเหม่ หลัว เติบโตเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญ


วันนี้หนังสือพิมพ์ เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค ได้รับ เกียรติจาก หมอหลี่ หรือ หลี่ จี้ หยาง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เหม่ หลัว อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงภาพรวมของ เหม่ หลัว


ตลอด ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พอใจกับภาพความสำเร็จ ในประเทศไทยหรือไม่


ในช่วงปีแรกการเติบโตของ เหม่ หลัว ไม่เป็นไปตาม เป้าหมายที่ตั้งไว้มากนัก เนื่องจากในช่วงเริ่มต้นบริษัทใช้แผน การตลาดแบบสแตร์สเตป ซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมใน ประเทศไทย แต่หลังจากบริษัทได้ปรับแผนการตลาดใหม่ เพื่อให้ เข้ากับพฤติกรรมของสมาชิกในไทย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดี ขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ แม้ เหม่ หลัว จะเป็นบริษัทขายตรงยักษ์ ใหญ่จากประเทศจีน แต่ภาพความสำเร็จในไทยยังถือว่าไม่เติบโต มากนัก สืบเนื่องจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้ทำการ โฆษณา และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เลย เนื่องจากต้องการ ปูฐานตลาดผู้บริโภคให้แน่นก่อน


วางกลยุทธ์ในการรุกตลาดขายตรงครึ่งปีหลัง อย่างไร


หลังจากนี้เป็นต้นไปบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยหันมาเน้นการทำตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น เช่น การ ลงสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างแบรนด์ และ ภาพลักษณ์ของเหม่ หลัว ให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ผ่านทางสื่อต่างๆ ซึ่งต่อจากนี้ไปจะมีการอัพเดตข่าว ความเคลื่อนไหวของบริษัท และการแนะนำ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นบริษัท ยังมีแผนจะให้การสนับสนุนการทำงานให้กับ สมาชิกที่ออกไปขยายงาน โดยจะมีการวางแผน การทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น


บริษัทแม่ในจีนให้การสนับสนุนธุรกิจ ในไทยอย่างไร


บริษัทแม่ในจีนได้ให้ความสำคัญในการ ขยายธุรกิจในไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งบริษัทแม่เคย ระบุว่า หาก เหม่ หลัว ในไทยเจริญเติบโตตาม เป้าหมายที่วางไว้ อาจจะมีการก่อสร้างโรงงาน ผลิตในไทย เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิต สินค้าป้อนให้กับ เหม่ หลัว ในภูมิภาค อาเซียน อย่างไรก็ตาม การจะก่อสร้างโรงงาน ผลิตในไทยได้บริษัทจะต้องมียอดขายหลายร้อยล้านบาท ต่อปี ซึ่งดูจากแนวโน้มแล้ว เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่บริษัท แม่จะลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าในประเทศไทย


หากดูจากยอดขายของ เหม่ หลัว ในไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤษภาคม 2556) ถือว่า มีอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน แซงหน้า เวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในช่วง 2 เดือนดังกล่าว มียอดขายเฉลี่ย 800,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20 กว่าล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ไทยถือว่าเป็นประเทศที่มี ศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนได้ เพราะ ดูจากปัจจัยต่างๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรฐานขาย- ตรงไทยที่มีรูปแบบที่ดี, ศักยภาพของผู้นำในไทยมีมากกว่า และ ตลาดขายตรงไทยใหญ่กว่าหลายๆ ประเทศ


ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้ไว้อย่างไร


จาก ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤษภาคม 2556) ยอดขายของ เหม่ หลัว เติบโตอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็น ผลมาจากในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้มีนักธุรกิจจากไทย เดินทางไปร่วมงานประดับเข็มเกียรติยศที่บริษัทแม่ในประเทศ- จีนจำนวน 55 คน ซึ่งหลังจากผู้นำเหล่านี้ได้ไปเห็นถึงความ มั่นคง และภาพความสำเร็จจากผู้นำประเทศต่างๆ ที่เดินทาง มาร่วมงาน ทำให้เกิดความมั่นใจในการทำงาน เมื่อพอกลับมา จากงานดังกล่าวก็ได้ลุยขยายตลาดกันอย่างเต็มที่จนทำให้ ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ในช่วงเดือน ตุลาคมนี้ บริษัทแม่จะจัดงานใหญ่ประจำปีในประเทศจีน คาดว่าจะมีผู้นำจากไทยเดินทางไปร่วมงานดังกล่าว เป็นจำนวนมากกว่า 100 คน ดังนั้น เมื่อผู้นำเหล่านี้ กลับมา เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้น ให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 200 ล้านบาท


อะไรคือปัจจัยที่บริษัทขายตรงจากจีนเข้ามา รุกตลาดในไทย


ปัจจัยที่ทำให้บริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่จาก ประเทศจีนให้ความสำคัญเข้ามารุกตลาดในไทย เป็นจำนวนมาก เนื่องจากไทยมีจุดยุทธศาสตร์ที่ดีใน การเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของภูมิภาคอาเซียน และเป็น ประเทศที่มีธุรกิจขายตรงได้มาตรฐานมากกว่าประเทศ อื่นๆ ในภูมิภาคนี้ ทำให้บริษัทขายตรงของจีนให้ความ สำคัญ และตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามาเปิดตลาดในไทยก่อน เป็นอันดับแรก


สิ่งที่บริษัทขายตรงจากจีนต้องปรับตัวมีอะไรบ้าง


สิ่งที่บริษัทขายตรงจากจีนจำเป็นต้องปรับตัว หาก ต้องการจะเข้ามาขยายตลาดในไทย คือ การมีวัฒนธรรม ที่แตกต่างกัน เพราะหากบริษัทขายตรงจากจีนนำวัฒนธรรม ขายตรงของจีนมาใช้กับคนไทยแบบทั้งระบบ อาจทำให้ การทำงานไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ส่งผลให้การเติบโต ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งหลายๆ บริษัทขายตรงของจีน เป็นบริษัท ที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทุน และมีผลิตภัณฑ์ที่ดี มีเพียงแต่วัฒนธรรมการทำงานเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน หาก ปรับตรงจุดนี้ได้เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างแน่นอน




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 224 ประจำวันที่ 1-15 มิถุนายน 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น