![]() |
30 เมษายนของทุกปี เป็นวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย ซึ่งในปี 2556 นี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) ในฐานะองค์กรกลาง คุ้มครองผู้บริโภคของชาติระดับสากล ครบรอบ 34 ปี ที่ผ่านมา สคบ. ได้ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล มาโดยตลอด และสำหรับงานวันคุ้มครองผู้บริโภคในปีนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานของ สคบ.ที่มุ่งสู่ยุทธศาสตร์ของประเทศ ภายใต้แนวคิด "คุณภาพไทย อัตลักษณ์ไทยสู่อาเซียน" โดย สคบ. จะบูรณาการงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ และภาคประชาชน เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคมีประสิทธิภาพในระดับสากล รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน
งานวันคุ้มครองผู้บริโภคในปีนี้จัดขึ้น 2 วัน คือ วันที่ 30 เมษายน-1 พฤษภาคม 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน ผู้บริโภคสนใจและรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้าน การคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งตระหนักในการปกป้องสิทธิของตนมากขึ้น โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นประธานในการเปิดงาน "วันคุ้มครองผู้บริโภคไทย 2556" ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของ สคบ. ตลอดระยะ เวลา 34 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนชาวไทย ในฐานะผู้บริโภคได้รับสิทธิในการบริโภค อุปโภคอย่างเต็มที่ และทำให้ประชาชนมีความอุ่นใจในการซื้อ และรับบริการสินค้าด้านต่างๆ
ในส่วนของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน หรือ AEC รัฐบาลได้เตรียมความ พร้อม และพยายามให้ความร่วมมือไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค โดยอนาคตรัฐบาลต้องการสนับสนุนเรื่องของการส่งออกสินค้าสู่กลุ่มประเทศอาเซียน โดยอยากให้ผู้ประกอบตระหนักว่า ตนก็เป็น หนึ่งในผู้บริโภคที่ต้องมีการซื้อกิน หรือใช้บริการ ซึ่งควรที่จะนึกถึงเรื่องนี้ และไม่เอาเปรียบผู้บริโภค
การจัดงานดังกล่าว ได้รับความร่วมมือ จากหลายภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาค เอกชน และรัฐวิสาหกิจ ที่จะบูรณาการร่วม กันในการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบ ธุรกิจ กิจกรรมสำคัญคือ สคบ. ได้มอบตรา สัญลักษณ์การคุ้มครองผู้บริโภค (Consumer Protection Garantee) ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบ ธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจทองรูปพรรณ ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา และธุรกิจขายตรง ซึ่งจะเป็นการการันตีแก่ผู้บริโภคว่าจะได้รับ การเยียวยาทันทีที่ได้รับความเสียหายหรือถูกเอาเปรียบจากการใช้สินค้าและบริการ
สำหรับ 3 ประเภทกลุ่มธุรกิจที่ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว ได้แก่ ผู้ประกอบการ ธุรกิจทองรูปพรรณ จำนวน 64 ราย ธุรกิจ โรงเรียนกวดวิชาจำนวน 5 โรงเรียน และ ผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงจำนวน 29 บริษัท รวม 98 บริษัท
ในส่วนของธุรกิจที่มีการรับมอบ "ตราสัญลักษณ์ สคบ." นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยืนยันว่าจะพยายามสร้างความเข้มแข็ง เพื่อที่จะ ผลักดันธุรกิจออกไปสู่ตลาดอาเซียน โดยหลังจากที่มีการมอบตรา สคบ. ให้กับ 3 ธุรกิจ อย่างธุรกิจทองรูปพรรณ ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา และธุรกิจขายตรงเป็น กลุ่มแรกแล้ว ต่อไปในอีก 6 เดือน สคบ.ก็จะพยายามเร่งรัดกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ให้เข้ามา ขอรับตราดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างความ เชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคต่อไป
Credit By :http://www.siamturakij.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น