ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

'โฟกัส' ขายตรง: ปฏิวัติขายตรงเข้าระบบภาษี







tax (Mobile)


"รถหรู" หรือรถยนต์ที่พวกไฮโซชอบซื้อเก็บสะสมกลายเป็นประเด็นร้อนไปเสียแล้ว หลังจากกระแสข่าวออกมาเป็นรายวัน ถึงเรื่องการหลบหลีกในเรื่องการเลี่ยงภาษีศุลกากร ด้วยการแอบไปจดทะเบียนเป็นรถแยกชิ้นส่วน และแอบไปตีเลขเครื่องยนต์ใหม่เพื่อทำให้ถูกต้องกฎหมาย

อันนี้ถือเป็นวิธีกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่คนมีสตางค์เหลือเฟือ(บางคน) เขานำมาใช้กันย้อนกลับเข้ามาในธุรกิจเครือข่ายขายตรงกันบ้าง ต้องยอมรับ ธุรกิจขายตรงนับวันยิ่งมีผู้ประกอบการเข้ามาสู่ในระบบธุรกิจ MLM กันมากมายก่ายกอง จนแยกไม่ออก บริษัทไหนเป็นของแท้ และบริษัทไหนเป็นของเทียม

จำนวนพันกว่ารายที่เข้ามาทำธุรกิจตรงนี้ เนื่องจากตัวเลขภาพรวมของธุรกิจขายตรงมีมากมหาศาลในช่วงไม่กี่ปี ปัจจุบันมีถึงแสนกว่าล้านบาท อันนี้หลายๆ ค่ายอ้างอิงตัวเลขออกมาจากปาก

ทำไมวันนี้ "หนุ่มเซลล์แมน" ถึงเปรยเริ่มต้นเรื่อง "รถหรู" เนื่องจาก ในตัวธุรกิจขายตรง หลายบริษัทฯ มียอดขาย กำไร กันออกมาเป็นกอบเป็นกำ พูดกันง่ายๆ ธุรกิจขายตรง "เปิดง่าย ขายคล่อง" เงินสะพัด นั่นเอง

แต่มุมกลับกัน ยังมีหลายๆ บริษัท ที่ยังไม่ทำธุรกรรมให้ถูกต้อง โดยเฉพาะ การเลี่ยงจ่ายภาษี หรือจ่ายภาษีไม่ตรงตามความเป็นจริงจะมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ทำถูกต้อง โดยเฉพาะบริษัทรายใหญ่ๆ ที่แบรนด์ติดตลาดในบ้านเรา เขาทำถูกต้อง จ่ายภาษีครบถ้วน พูดกันง่ายๆ ว่า เกือบ 90% ในธุรกิจขายตรง ยังมีการจ่ายภาษีน้อยเกินไป!!!

จากการที่จะจ่ายให้สมน้ำสมเนื้อของรายได้ ยกตัวอย่าง จ่ายให้รัฐ 30% ที่เหลือ 70% เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง อย่างนี้ไม่แฟร์สำหรับผู้ประกอบการที่จ่ายครบถ้วนให้กับรัฐ หากล้วงลึก ล้วงลูกในธุรกิจขายตรง ถือเป็นธุรกิจขายง่าย ขายคล่อง รับเงินกันสดๆ กันเป็นก้อนๆ ต้องยอมรับโดยสดุดี ธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ขนาดสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ต้องเร่งจัดระเบียบธุรกิจดังกล่าวนี้อย่างเร่งด่วน หรือแม้กระทั่งสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ต้องรีบต้อนผู้ประกอบการเข้ามาร่วมสังกัดเป็นสมาชิก ฉันท์ใดฉันท์นั้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจขายตรง

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ โดยเฉพาะวงการขายตรง มองหน้าก็รู้ใจ แต่ละปีนำเงินเข้ารัฐเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น ว่ากันว่า ใครมีเงิน 1-2 ล้านบาท ก็สามารถเปิดดำเนินธุรกิจขายตรงได้อย่างสบาย เนื่องจากธุรกิจนี้ มันเปิดกว้าง ใครมีสมัครพรรคพวก นายทุน ย่อมได้เปรียบ ก่อนหน้านี้หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรมสรรพากรเอง ก็เคยเปรยๆ ออกมาบ้าง แต่ไม่ค่อยดังมากนัก เหมือนเป็นเพียงแค่เขียนเสือให้วัวกลัว ถือไม้เรียวไว้ขู่

ได้ฤกษ์แล้ว! ที่สรรพกร ต้องเข้าตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะอย่างน้อยหากสามารถนำเงินภาษีจากธุรกิจขายตรงเข้าหลวงได้มากเท่าไหร่ ก็ทำให้สภาพเศรษฐกิจของประเทศยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะจากตัวเลขมูลค่าธุรกิจขายตรงที่มีถึงแสนล้านบาท ต้องลองนั่งนับนิ้วกันดู หากเก็บได้ตามความเป็นจริง จะมีมูลค่าเท่าไหร่! ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจขายตรงต้องปฏิวัติ ไม่ใช่ทำธุรกิจหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ใช่ปฏิวัติแค่เพียงขายสินค้ามีคุณภาพเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคุมคุณภาพทุกอย่าง หากทำเพิกเฉยในการเป็นผู้ประกอบการที่ดี ทุกอย่างต้องอยู่ในขั้นตอนกฎเกณฑ์

พอสรุปได้ ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจขายตรงต้องรีบปฏิวัติ อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ หรือเข้ามาในระบบแล้ว ต่างกอบโกยผลประโยชน์กันอย่างโจ๋งครึม โดยไม่แยแสเสียงสังคมที่เขาจ้องจับตามอง ถึงเวลาที่ต้องปฏิวัติธุรกิจขายตรงให้เข้ามาสู่ระบบการจ่ายภาษีอย่างถูกต้องนะครับ




Credit By :http://www.ryt9.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น