![]() |
นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัทในเครือไทยเฮลท์กรุ๊ป เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ว่า ต้องยอมรับบริษัทใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดแบบผสมผสาน โดยเฉพาะที่ไม่ได้ใช้สื่อวิทยุ โทรทัศน์ เพียงอย่างเดียว แต่ในสื่อออนไลน์ เราจะพยายามรุกเข้าไปในสื่อดังกล่าวนี้ด้วย เนื่องจากสื่อออนไลน์ถือเป็นยุคของโลกสมัยใหม่ ทำให้บริษัทฯขนาดเล็กมียอดขายเกิดขึ้น ซึ่งถือว่า เป็นช่องทางไปสู่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า การจะนำระบบสื่อออนไลน์เข้ามาใช้กับริษัทฯ ขนาดเล็กคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
"ระยะเวลาในการทำสื่อออนไลน์นั้น ในส่วนของบริษัทฯ คงใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากเราก็มีสื่อในมืออยู่แล้ว รวมไปถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีเดียต่างๆ โดยเฉพาะใช้กลยุทธ์ช่องทางการแข่งขันพิเศษ รวมถึงการสร้างแบรนด์ใหม่ ซึ่งบริษัทฯ จะวางงบประมาณในการทำตลาดสื่อออนไลน์ไว้ปีละ 10-20 ล้านบาท ถือเปแนการเพิ่มช่องทางการรับรู้ในเรื่องของแบรนด์ไปสู่ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งบางบริษัท การใช้งบการทำตลาดผ่านสื่อดังกล่าวนี้ อาจจะต้องลงเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจถึง 100 ล้านบาท ก็เป็นไปได้เช่นกัน"นายพันธ์ยศ กล่าว
สำหรับการสร้างแบรนด์ให้มีคุณภาพ นั้น บริษัทฯ เองมีความพยายามในการผลักดัน เน้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งช้อปปิ้งๆ หรือร้านค้าเพื่อสุขภาพสะดวกซื้อ จากผลงานในช่วงไตรมาสแรกนั้น บริษัทฯ สามารถทำยอดขายไปได้ 100 ล้านบาท ตนมั่นใจในสิ้นปีนี้ บริษัทฯ จะสามารถปิดยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 500 ล้านบาท ตรงนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าที่บริษัทกำหนดเอาไว้
จัดโปรฯ 5 หมื่นรหัสแรก
"ทรูไลฟ์โกลด์" หนึ่งในบริษัทน้องใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ โดย นายเกียรติคณัตฐ์ ภคพลธนกุล ประธานที่ปรึกษา มองว่า กลยุทธ์สำคัญของบริษัทน้องใหม่อยู่ที่การสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค อย่างเช่นทุกวันนี้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้คนไม่กล้าใช้จ่าย ดังนั้นทำอย่างไรให้คน รู้สึกว่าการซื้อสินค้าแล้วรู้สึกคุ้มค่า
"กลยุทธ์ของเราในช่วงแรกของการก่อตั้งบริษัทคือ เมื่อมีการสมัครสมาชิกเพียง 300 บาท แต่ได้สินค้าไปทดลองมูลค่า1,000 บาท ใน 50,000 รหัสแรก จุดนี้จะทำให้เขารู้สึกคุ้มค่า กล้าที่จะควักเงินจ่าย เกิดการทดลองสินค้าเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าสินค้าดีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้ามาทำตลาดระบบเครือข่าย"
ประธานที่ปรึกษา บอกอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ บริษัทต้องมีระบบสนับสนุนความสำเร็จของนักธุรกิจ โดยทรูไลฟ์โกลด์ มีระบบซัพพอร์ตที่จะทำให้ทุกคนไปสู่เป้าหมายของตนเอง โดยปลูกฝังแนวคิดของความเป็นผู้ประกอบการ ผสานแนวคิดการยายเครือข่ายในระยะยาวเติบโตไปด้วยกันกับบริษัท เรียกว่าระบบ4+คือ 1.ตัวบริษัทที่มีความมั่งคง 2.ระบบนำทางคนเครือข่ายไปสู่เป้าหมาย 3.ทีมงานที่มีความชัดเจนในตนเองต่อการทำงานร่วมกับบริษัท 4.แต่ละคนวางเป้าหมายและความต้องการของตนเองเพื่อให้สามารถเดินไปสู่เป้าหมายพร้อมๆ กัน
"เรามีเครื่องมือที่จะนำพาให้นักธุรกิจประสบความสำเร็จ การมีสินค้าทดลองใช้ ทำให้คนที่เข้ามาทำงานไม่เสียขวัญ มีกำลังสู้ เหมือนเรามอบอาวุธที่ทรงพลังแก่นักรบเพื่อการต่อสู้ในสมรภูมิขายตรงที่แข่งขันอย่างดุเดือด อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเราอยากเป็นบริษัทขายตรงที่มีความมั่นคง เรามีระบบการจ่ายผลตอบแทนแบบไบนารี่ วันนารี่หรือโตขาเดียวก็มีรายได้ หรือแบบโนนารี่ หรือ ไม่มีสายงานก็มีสิทธ์สร้างรายได้"
สำหรับสินค้าของทรูไลฟ์โกลด์ ที่จะนำร่องทำตลาดคือ กลุ่มอาหารเสริม เพื่อสุภาพสตรี นอกจากนั้นจะมีสินค้ากลุ่มสุภาพบุรุษ กลุ่มเพื่อดูแลรักษาสุขภาพของผู้ป่วย และมีกลุ่มคอลลาเจน นอกจากนี้บริษัทกำลังพัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมบำรุงสมอง และจะมีไลน์สินค้าเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆตามความเหมาะสม
เออาร์เอส เป้า 50 ล.ต่อเดือน
จะเห็นได้ว่าการแข่งขันในธุรกิจขายตรงที่ดุเดือด สวนทางกันกับสภาพเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยการเติบโตของบริษัทน้องใหม่ นายวันกอมารุดดีน แวยูโซะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์เอส โกลบอล เน็ตเวิร์ค จำกัด มองว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสินค้าต้องตอบโจทย์ได้ทั้งสมาชิกแต่ผู้บริโภค ต่อมาคือ แผนการตลาดที่เอื้อให้นักธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ดังเช่น เออาร์เอสแม้บริษัทจะเป็นน้องใหม่ในวงการขายตรงเมืองไทย โดยเปิดตัวมาแล้วยังไม่ถึงหนึ่งปีแต่ก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยการเติบโตของบริษัทมาจากสินค้านำร่องเพียง 2 ตัวเท่านั้น
"บริษัทเราจำหน่ายสินค้าที่เป็นสเตมเซลล์จากผลไม้ เป็นเจ้าแรกที่นำเข้ามา เมื่อสินค้าดี ตอบโจทย์ ทุกคนพอใจ ก็สามารถทำตลาดได้เลย ที่สำคัญสินค้าเราราคาไม่แพง โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดับเบิ้ล สเต็มเซลล์ สารสกัดจากแอปเปิ้ลและองุ่น มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ส่วนอีกตัวที่เปิดตลาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาคือ ทริปเปิ้ลสเต็มเซลล์ ซึ่งเราเพิ่มส่วนผสมของคอลลาเจนจากโมรอคโคเข้าไป ก็มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ที่ผ่านมามีขายตรงเจ้าอื่นเอาสินค้าที่เป็นสเต็มเซลล์เข้ามาบ้างแต่มาในรูปแบบของเครื่องสำอาง"
นายวันกอมารุดดีน กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยับขยายเปิดสำนักงานแห่งใหม่ ที่อาคารพร้อมพันธุ์ ย่านลาดพร้าว ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมๆกับการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในวาระครบรอบ 1 ปีด้วย โดยคาดว่าบริษัทจะมียอดขาย 50 ล้านบาทต่อเดือนขึ้นไป
Credit By :http://www.ryt9.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น