ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

พลิกตำราฝ่ากำลังซื้อตก "แอมเวย์-กิฟฟารีน-คังเซน" ทุ่มงบปลุกตลาด







mlm


เศรษฐกิจชะลอตัว "สินค้า-บริการ" พาเหรดขยับราคาขึ้น ส่งผลกำลังซื้อของผู้บริโภคถดถอย ร้อนถึงผู้ประกอบการ MLM แทบ ทุกบริษัทต้องออกแรงกระตุ้นตลาด "แอมเวย์" เตรียมแผน 2-3 ปั่นยอดขาย ช่วงท้ายปี ด้าน "กิฟฟารีน" ทุ่มงบตลาด 100 ล้านผ่านหนังโฆษณา 3 ชุด มุ่งเน้นฉายภาพนักธุรกิจเป็นหลัก ฝั่ง "คังเซน-เคนโก" เร่งปรับฐานบริษัท ใช้คลินิก ความงาม "เบอร์รี่ เฮาส์" เป็นกำลังเสริม


"แอมเวย์" ดันแผนสำรองดันยอดขาย


นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพิษเศรษฐกิจยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบ ทำให้ภาพรวมของวงการขายตรงปีนี้ ไม่สามารถเติบโตได้เหมือนปีก่อนๆ โดยจะเติบโตได้เพียงประมาณ 5% จากมูลค่าการตลาดรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากโตได้เพียงเท่านี้ ก็จะถือเป็นการเติบโตที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี จากที่เคยเติบโตในแต่ละ ปีที่ 7-10%


"ธุรกิจขายตรงต้องพบกับการเติบโต ที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ก็เป็นผลมาจากพิษ เศรษฐกิจภายนอกประเทศ แต่สำคัญกว่านั้นคือปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะนโยบายรถคันแรก และนโยบายอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาส่งผลให้ประชาชนลดการซื้อ ซื้อช้าลง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทขายตรงต่างๆ ทำให้กลุ่มบริษัทขายตรงต้องออกกิจกรรมส่งเสริมการ ขายรวมถึงหาวิธีการกระตุ้นตลาดเพิ่มขึ้น" กิจธวัช เผย


โดยในส่วนของ "แอมเวย์" เอง ขณะนี้ บริษัทได้มีการปรับแผนปรับกลยุทธ์ในการกระตุ้นยอดขาย โดยเริ่มใช้แผน 2 ซึ่งการทำงานของบริษัทเราจะวางแผน 1, 2 และ 3 ในทุกปี เพื่อรองรับกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป้าของยอดขายสะดุด อย่างไรก็ดี บริษัทได้วางงบการตลาด ทั้งปี 56 ไว้ที่ 800 ล้านบาท โดยผ่านช่วงครึ่งปีแรก บริษัทยังเหลืองบอีกมาก ซึ่ง "แอมเวย์" จะใช้งบที่เหลือกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง


ล่าสุด "แอมเวย์" ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ในกลุ่ม "นิวทริไลท์" โดย "กิจธวัช" เผยว่า เทรนด์ของผู้บริโภคยังคงตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลร่างกายให้แข็งแรงมีสุขภาพดี และยอมรับให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพพื้นฐานมากขึ้น


"กิฟฟารีน" อัดโฆษณากระตุ้นคนร่วมธุรกิจ


ทางด้าน พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เผยว่า ปีนี้บริษัทได้ทำการก่อสร้างศูนย์ธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งศูนย์ย่านมีนบุรีใช้พื้นที่ 1 ไร่ งบการก่อสร้างทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 75 ล้านบาท และในปีหน้าก็จะสร้างเพิ่มที่หาดใหญ่ จ.สงขลา อีกหนึ่งที่ โดยศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนที่เป็นศูนย์ใหญ่ปัจจุบันมีแล้ว 20 ศูนย์ ซึ่งบริษัทต้องการ สร้างเพิ่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งงบไว้ที่ 66 ล้านบาท ซื้อที่ดินขยาย โรงงานในนิคมฯ นวนคร เพื่อรองรับการเติบโต ของธุรกิจกิฟฟารีน


สำหรับทิศทางการตลาดโดยรวมใน ปี 2556 นี้ กิฟฟารีนได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,500 ล้านบาท โดยทุ่มงบการตลาดถึง 100 ล้านบาท ผ่านภาพยนตร์โฆษณาซีรี่ส์ 3 ชุด เรื่อง "WE" "TRUST" และ "SUPPORT" ภายใต้แนวคิดความตั้งใจจริงของธุรกิจที่ดำเนินมานานกว่า 17 ปี พร้อมสัญญาว่าจะทำให้ทุกท่านได้มีโอกาสเป็นเจ้าของในสิ่งที่ตัวเองสร้าง และมีโอกาสสร้างในสิ่งที่ตัวเองเป็นเจ้าของ


บริษัทมีความพร้อมที่จะสนับสนุน สมาชิกทุกท่านให้ประสบความสำเร็จได้อย่าง ง่ายดาย และใช้เวลาไม่นาน โดยภาพยนตร์ โฆษณาทั้ง 3 เรื่อง เน้นในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ทางธุรกิจผ่านเครื่องมือทาง การ ตลาดแบบครบวงจร ทั้ง Above the line และ Below the line โดยเฉพาะ "กิฟฟารีน แชนแนล" ที่พร้อมออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทางอินเตอร์เน็ต เพื่อแสวงหากลุ่มเป้าหมาย ใหม่และการขยายเครือข่ายไปสู่คนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งกระตุ้นผู้สมัครใหม่ให้ใช้สินค้าอย่าง ต่อเนื่องด้วยโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ ตลอดจนการตอบแทนผลกำไรคืนสู่สมาชิก ในรูปแบบใหม่ๆ


"โฆษณาทั้ง 3 ชุดที่กล่าวมา บริษัทต้องการที่จะใช้เพิ่มจำนวนนักธุรกิจของบริษัท จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วประมาณ 5 แสนรหัสที่เป็นกลุ่มนักธุรกิจ จากตัวเลขสมาชิกของบริษัททั้งหมดที่มีอยู่ 6.5 ล้านรหัส ซึ่งบริษัทต้องการใช้โฆษณาที่มีเนื้อหา ในการถ่ายทอดให้เห็นถึงโอกาสเป็นเจ้าของ ธุรกิจกิฟฟารีนสำหรับทุกคนมาเป็นตัวเพิ่ม นักธุรกิจของบริษัท โดยเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มนักธุรกิจของบริษัทได้ประมาณ 5-6 หมื่น รหัสในปีนี้"


"คังเซน-เคนโก" รักษานักขายเก่า


ในส่วนของนายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรมากพอสมควร โดยช่วงต้นปีมีการแก้ไขจุดอ่อน และปรับจุดแข็งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมยอดขาย จำนวนสมาชิก ซึ่งทุกอย่างกำลังดีขึ้น โดยถือว่ากำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายสมาชิกใหม่ๆ เข้ามาสู่องค์กร และบริษัทก็ พยายามมุ่งเน้นให้องค์กรช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันให้ดี


"ในส่วนของกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ตอนนี้ เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เรายังเดินตามแผนเดิม เพราะได้ปิดจุดอ่อน และเร่งพัฒนาสมาชิกให้มีความเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น เพราะจะขายอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้องมีการขยายองค์กรให้เป็น เริ่มจากการชักชวนอย่างไรให้ได้ผล โดยต้องการให้สมาชิกสามารถกำหนดทิศทางได้เองว่าจะเติบโตได้ ขนาดไหน ที่สำคัญต้องมีความซื่อสัตย์ต่อองค์กรด้วย"


สำหรับทิศทางธุรกิจของปี 2556 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายผลักดันการเติบโตให้ได้ประมาณ 5-10% เนื่องจากต้องค่อยๆ เป็น คอยๆ ไปทีละสเต็ปที่วางแผนไว้ โดยเชื่อว่า ยังมีคนจำนวนมากที่ต้องการมีรายได้เพิ่ม โดยสมาชิกของคังเซน-เคนโก ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 5 แสนคน เป็นสมาชิกที่แอ็กทีฟ ประมาณ 30%


"ทั้งนี้ บริษัทยังมีคลินิกด้านความงาม "เบอร์รี่ เฮาส์" ที่ดำเนินธุรกิจความงามมาได้ปีเศษๆ โดยคังเซนฯ ตั้งใจอยากจะบริการ ลูกค้าที่เกษียณแล้ว โดยที่นี่มีคอร์สเกี่ยวกับ ความงามทุกรูปแบบ อย่างที่ทราบกันดีว่า ตลาดความงามมีการแข่งขันกันสูงมาก ทำให้บริษัทเตรียมที่จะซื้อที่ดินด้านหลัง อาคาร คังเซน เพลส ประมาณ 150 ตร.ว. เพื่อเปิดคลินิกรองรับสมาชิกคังเซนฯ โดยเฉพาะ เพราะการมาเสริมความงามที่นี่ยังจะ ได้ PV ของ "คังเซน-เคนโก" เพิ่มด้วย อีกทั้งคลินิกที่ว่ายังมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลเป็นอย่างดี"





Credit By :http://www.siamturakij.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น