ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าวสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) : TDSA ย้ำจุดยืนกูรูขายตรงตัวจริง ชี้ไม่เกิน 3 ปี MLM ไทยแตะ 3 ล้าน







L_kr (Mobile)


TDSA จัดงานฉลองใหญ่ครบรอบ 30 ปี ชูนโยบายเป็นเสาหลักของธุรกิจขายตรง ยึด 4 ข้อ เสริมภาพลักษณ์-สมาชิกคุณภาพ-มีธรรมาภิบาล-ศูนย์กลางความรู้ด้าน MLM ด้าน กิจธวัช ฟันธงไม่เกิน 3 ปี มูลค่าตลาดรวมทะลุแสนล้านบาทหาก AEC เปิด เหตุมีกลุ่มทุนนอกไหลเข้าไทย ขณะที่ข้อมูลจากสมาพันธ์ขายตรงโลกระบุตลาดอาเซียนเนื้อหอมแค่ 6 ประเทศ มีมูลค่ารวมกันสูงถึงหมื่นล้านเหรียญ


กิจธวัช ฤทธีราวี นายกสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมได้ดำเนินงานมาครบรอบ 30 ปี ทางสมาคมฯ ได้จัดงานสัมมนาเพื่อให้ความรู้กับนักธุรกิจและประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจเกี่ยวหับธุรกิจขายตรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทขายตรงที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อย่างเป็นทางการประมาณ 380 บริษัท แต่ยีงมีบริษัทขายตรงที่ดำเนินธุรกิจแบบสุ่มเสี่ยงในลักษณะมันนี่เกม หรือแชร์ลูกโซ่ออกจำนวนมาก ดังนั้น สมาคมฯ จึงต้องการให้บุคคลทั่วไปสามมารถตรวจสอบได้ว่าบริษัทไหนดำเนินธุรกิจในลักษณะใด


ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ยึดกลยุทธ์หลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมขายตรงไทย ซึ่งประกอบด้วย 4 ข้อหลัก ได้แก่ 1.เสริมสร้างภาพลักษณ์ 2.สมาชิกคุณภาพ 3.ธรรมาภิบาล และ 4.ศูนย์กลางความรู้ ดังนั้น ด้วย ประสบการณ์ของบริษัทสมาชิกของสมาคมฯ จำนวน 35 บริษัท ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนาน ซึ่งมียอดขายรวมกันคิดเป็น 70 % ของตลาดรวม ดังนั้น หากภาครัฐและภาคประชาชนทั่วไปที่ต้องการอยากได้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจขายตรงอย่างถูกต้อง ทางสมาคมกล้าพอที่จะบอกว่าเราเป็นกูรูทางด้านขายตรงอย่างแท้จริง


กิจธวัช กล่าวอีกว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมขายตรงในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2016 มูลค่ารวมของอุตสาหกรรมขายตรงไทยจะสูงถึง 1 แสนล้านบาทซึ่งหากมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาสนับสนุน เช่นการเปิด AEC ซึ่งจะมีกลุ่มทุนจากต่างประเทศเข้ามาที่ตลาดไทยเพิ่มขึ้นดังนั้น เชื่อว่าแสนล้านบาทน่าจะไม่ถึง 3 ปี ตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ในปี 2012 ที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6.87 หื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 9.48% ซึ่งเติบโตสูงกว่า GDP ของประเทศที่เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 5.76% ปัจจัยที่จะทำให้มูลค่ารวมของอุตสาหกรรมขายตรงไทยเติบโตเพิ่มขึ้น มาจากบริษัทขายตรงทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น


โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้มีอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกับภาพรวมของอุตสาหกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 10% ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อม และพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจุบันผู้บริโภคหันมาดูแลเรื่องสุขภาพมากขึ้น


กิจธวัช กล่าวในงานสัมมนาในหัวข้อ ธุรกิจเครือข่าย...โอกาสไร้พรมแดนสู่ AEC ที่จัดโดยสมาคม TDSA ว่า ข้อมูลจากสมาพันธ์ขายตรงโลก (WFDSA) ได้ระบุว่า หลังจากที่กลุ่มประเทศในแถบอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้มูลค่ารวมของอุตสาหกรรมขายตรงใน 6 ประเทศ ในแถบภูมิภาคอาเซียนจะเพิ่มสูงขึ้น และกลายเป็นกลุ่มประเทศที่น่าสนใจในอนาคต โดยในปี 2012 ที่ผ่านมา มูลค่ารวมของอุตสาหกรรมขายตรงทั้งหมด 6 ประเทศรวมกันมีมูลค่าสูงถึง 10372 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตรา การเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2009-2012 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.7%


โดยประเทศมาเลเซียมีมูลค่ารวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 4,667 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 16.4% อันดับ 2 ไทย มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2,947 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 9.1% อันดับ 3 อินโดนีเซีย มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,088 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 10.3% อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,011 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 22.9% อันดับ 5 สิงคโปร์ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 367 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 6.4 % อันดับ 6 เวียดนาม มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 292 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโต 21.7%





ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 230 ประจำวันที่ 1-15 กันยายน 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น