ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

อัลติคอร์ อิงค์ ปิด 10,900 ล้านดอลลาร์ย้ำแบรนด์ผู้นำแผ่อานิสงส์ส่งสาขาลูกอู้ฟู่ตาม



“อัลติคอร์ อิงค์” บริษัทแม่แอมเวย์ประเทศไทย แถลงผลประกอบการทั่วโลกปี 2554 ด้วยยอดขาย 10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 17% จากปีก่อนที่มียอดขาย 9,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน และยอดขายแอมเวย์เติบโต 11 ครั้งในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา

มร.สตีฟ แวน แอนเดล ประธานกรรมการ แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “อัลติคอร์ อิงค์ ยินดีที่จะเปิดเผยตัวเลขความสำเร็จในปี 2554 ด้วยยอดจำหน่าย รวมทั่วโลก 10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตลาด 9 ประเทศใน 10 อันดับแรกของแอมเวย์เติบโตเป็นที่น่าพอใจ ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย รัสเซีย ไทย ไต้หวัน ยูเครน และสหรัฐอเมริกา ส่วนตลาดที่มียอดจำหน่ายเติบโตเป็นเลขสองหลักในปีนี้ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี ไต้หวัน ตุรกี เวียด นาม และประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกา”

“ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาของ แอมเวย์ทั่วโลก แอมเวย์ถือเป็นผู้นำที่เปี่ยม ด้วยประสบการณ์ในตลาดขายตรง ที่สำคัญ ของโลก อาทิ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และไทย ทั้งยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมขายตรงโลก อีกด้วย โดยหากพิจารณายอดจำหน่ายใน ปีที่แล้ว ส่วนแบ่งการตลาดของแอมเวย์เพิ่มขึ้นกว่า 10% ความสำเร็จนี้เกิดจากความ พยายามของนักธุรกิจแอมเวย์กว่า 3 ล้านคนในกว่า 80 ประเทศและเขตการปกครอง ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงการมีแบรนด์ที่แข็ง แกร่งและสินค้าอันทันสมัยที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีธุรกิจเป็นของตัวเองและยังช่วย ให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย”

มร.ดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัท แอม เวย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “แอมเวย์เป็น เหมือนศูนย์รวมผู้คนที่มีความหวังและมีความฝันที่แตกต่างกันออกไป ผ่านการสร้างธุรกิจของตัวเองที่ใช้ต้นทุนน้อย ซึ่งในการทำธุรกิจของแอมเวย์จะมุ่งเน้นการ สร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน และเพื่อ เป็นการสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์อย่างต่อเนื่อง บริษัทได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมขายตรงโลก ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ทำธุรกิจขายตรงมากกว่า 87 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงตลาดในประเทศต่างๆ ที่แอมเวย์ดำเนินธุรกิจอยู่ โดยผู้บริหารของ แอมเวย์หลายคนก็ได้รับตำแหน่งต่างๆ ในฐานะผู้นำในธุรกิจมากกว่า 50 ตำแหน่งทั่วโลก และตัวผมเองปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เหรัญญิกของสมาพันธ์การขายตรงโลก (World Federation of Direct Selling Associations (WFDSA)”

“สำหรับการลงทุนในแบรนด์ผลิต ภัณฑ์ระดับโลกอย่างนิวทริไลท์และอาร์ ทิส ทรีมีส่วนเป็นอย่างมากในการสร้างยอดจำหน่ายด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และความงามให้กับนักธุรกิจแอม เวย์ ปัจจุบันนิวทริไลท์เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภท วิตา มินอันดับ 1 ของโลก ซึ่งปีที่ผ่านมานิวทริไลท์มียอดจำ หน่ายอยู่ที่ 4,700 ล้านเหรียญ สหรัฐ และยอดขายมากกว่า 1 ใน 3 มาจากผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์ นิวทริโปรตีน และนิวทริไลท์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์

“ในส่วนผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและเรือนร่างสามารถ สร้างยอดจำหน่ายได้เกือบ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์อาร์ทิสทรีซึ่งได้รับการยอม รับว่าเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิวระดับ พรีเมี่ยมที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 1 ใน 5 ของโลก เป็นผลิตภัณฑ์หลัก และประเทศที่แบรนด์อาร์ทิสทรีเติบโตสูงสุดคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับผลิตภัณฑ์ เด่นของอาร์ทิสทรีในปีที่ผ่านมาได้แก่ อาร์ทิส ทรี อินเท็นซีฟ สกินแคร์ รีนิววิง พีล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ดูแลผิวด้วยตนเองที่บ้าน แต่มีประสิทธิภาพดุจการได้รับทรีตเมนต์จากผู้เชี่ยวชาญ”

“ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมีการเติบโตด้วยยอด ขาย 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้สูงอย่างต่อเนื่องได้แก่ เครื่องกรองน้ำอีสปริง และเครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใน ครัวเรือนอื่นๆ ส่วนผลิต ภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผลิต ภัณฑ์เสริมอาหาร ความงาม และครัวเรือนนั้นมียอด จำหน่ายรวมอยู่ที่ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ” มร.เดอโวส กล่าวเพิ่มเติม

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1282 ประจำวันที่ 10-3-2012 ถึง 13-3-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น