จากการประกาศความ มุ่งมั่นของท่าน “อัศวิน วัฒนปราโมทย์” นายกคนใหม่ ของ สมาคมอุตสาหกรรมขายตรง ไทย ว่าต้องการรวม 3 สมาคม ขายตรงไทยที่มีอยู่เข้าด้วยกัน เป็น 1 สมาพันธ์ เห็นทีจะกลาย เป็นเรื่องเพ้อฝัน เมื่ออีก 2 สมาคมดู จะไม่มีท่าที ตอบสนอง สอดคล้องกับความเห็นของกูรูขายตรง ที่ชี้ว่า เป็น ไปได้ยาก!
หลังจากเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยคนใหม่ ของท่าน “อัศวิน วัฒนปราโมทย์” ก็ตาม มาด้วยกระแสข่าวมากมาย จากการที่ท่านผู้นี้เสนอไอเดียบรรเจิดว่าต้องการรวม 3 สมาคม เข้าเป็น 1 สมาพันธ์ ทำให้ กลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ถึงความเป็นไปได้
โดยก่อนหน้านี้ นายอัศวิน วัฒนปราโมทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยคนใหม่ เปิดเผยในวันแถลงข่าวการขึ้นรับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ว่า ตนหวังอยากจะให้มีสมาพันธ์ขายตรงแห่งประเทศไทย คือ รวม 3 สมาคม เป็นหนึ่งสมาพันธ์ขายตรงแห่งประเทศไทย เพื่อให้ การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายในประเทศไทยเป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชนอย่างแท้จริง
“ตนอยากจะมุ่งทลายกำแพงแห่งความเป็นเขา เป็นเรา หรือการเลือกเอาระบบการตลาดมาเป็นตัวแบ่งแยก เนื่อง จากตนคิดว่า แผนการตลาดใดๆ ก็ตามถือเป็นเพียงหนึ่งในแค่แผนธุรกิจทำการตลาดเท่านั้น จะมาแบ่งแยกสมาคมเพราะแผน การดำเนินธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้ ดังจะเห็นได้ว่า เป้าหมายหลักของทุกสมาคม คือการสร้างอุตสาหกรรมขายตรงในประเทศไทยให้เป็น อุตสาหกรรมที่คนทั่วไปสามารถพึ่งพิงได้ หรือคาดหวัง ให้คนภายนอก เกิดการเชื่อถือ เลิกอคติกับ ธุรกิจนี้ ให้นักธุรกิจขายตรงทุกคน เมื่อเดินเข้าไปหาใครแล้ว เขาไม่หลีกหนี ซึ่งแนวทาง การสร้างสมาพันธ์ดังกล่าว เริ่มแรกสมาคม อื่นๆ อาจจะยังไม่เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายจริงๆ ของเรา เพราะแนวคิดนี้ยังไม่เคยสื่อออกไป ดังนั้น หลังจากตนได้จัดตั้งคณะกรรมการ สมาคมอุตฯ ชุดใหม่ และวางกรอบนโยบาย การบริหารเรียบร้อยแล้ว ตนจะเข้าไปอธิบาย ถึงจุดมุ่งหมายของการจัดตั้งสมาพันธ์ฯ กับ สมาคมต่างๆ ด้วยตนเอง”
“ทั้งนี้ หากใครจะคิดว่าตนมุ่งหวังเพื่อ เป็นนายกสมาพันธ์ หรือหวังผลประโยชน์ใดๆ ก็ขอให้เลิกคิดไปได้ เพราะตนเองไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการสร้างเกียรติประวัติของวิชาชีพขายตรง สร้างความ ถูกต้อง และถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไป และประการ สำคัญตนมองว่า บ้านเรามีบ้านเดียว คือ ประเทศไทย จึงควรสร้างความเป็นหนึ่ง เพื่อ ให้เป็นที่น่าเชื่อถือในระดับนานาชาติ ฉะนั้น ใครจะทำหน้าที่บริหารสมาพันธ์ก็คงต้องร่วมกัน คัดเลือกในขั้นต่อไป” นายอัศวิน กล่าว
ในส่วนของการจัดตั้งคณะกรรมการสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยชุดใหม่ “อัศวิน” เปิดเผยว่า ตนอยากได้คนที่มีความ ตั้งใจ เป็นคนที่มีศีลธรรม และมีความคิดเป็น อันหนึ่งอันเดียวกับสมาคม หลังจากนั้นจำเป็นที่คณะทำงานต้องร่วมกันปรึกษาเพื่อ สร้างองค์กรให้มีการบริหารจัดการที่ชัดเจน แล้ว จึงสื่อไปสู่บริษัททั้งหลาย ให้เข้าร่วมเป็น หนึ่งเดียวกับสมาคมอุตสาหกรรมขายตรง ไทย โดยเฉพาะบริษัทที่ดำเนินกิจการมาแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสมาคมฯ จะต้องรีบดำเนินการช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขาฟื้น สภาพกลับมาโดยเร็วที่สุด
>> TDSA สงวนท่าที บอกรอความเห็นส่วนใหญ่
หลังจากที่นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงคนใหม่ได้ออกมากล่าวในประเด็นรวม 3 สมาคม ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายจับตามอง เนื่องจากทั้ง 3 สมาคม ขายตรง ต่างมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันในแต่ละสมาคม ถึงแม้ทั้ง 3 สมาคมจะมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ การยกระดับวงการขายตรงก็ตามทางทีมข่าว “สยามธุรกิจ” จึงได้สอบถามไปยังภาคส่วนต่างๆ ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้
โดยนายอิทธิศักดิ์ อำพันธ์ยุทธ์ นายกสมาคมการขายตรงไทย หรือ TDSA ได้เปิดเผยเกี่ยวกับประเด็นที่ นายอัศวิน วัฒนปราโมทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรม ขายตรงไทย ที่ต้องการรวม 3 สมาคมขายตรงใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทย ให้เป็น 1 สมาพันธ์ กับ “สยามธุรกิจ” ว่า เรื่องของการรวม 3 สมาคมนั้น เป็นเรื่องที่ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการอะไร ส่วนข่าวที่ออกมาของทางสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงนั้น ก็เป็นการพูดคุยผ่านสื่อ ในวันเข้ารับตำแหน่ง ของนายกคนใหม่ของ TDIA เท่านั้น
“เรื่องของการจัดตั้งสมาพันธ์ขายตรง ไทยนั้น เป็นเรื่องที่ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่โดยส่วนตัวมองว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ไม่ง่ายนัก เนื่อง จากทั้ง 3 สมาคมล้วนแล้วแต่เป็นสมาคมที่ตั้งขึ้นจากความร่วมมือของหลายบริษัทสมาชิก ซึ่งในเรื่องนี้ดูจะยังไม่ถึงเวลาในการ รวมตัวกัน”
อย่างไรก็ดี “อิทธิศักดิ์” ยังกล่าวต่อ ว่า “ปัจจุบันหลายประเทศที่มีตลาดของธุรกิจ ขายตรงขนาดใหญ่ ก็ล้วนแต่มีหลายสมาคม อยู่ในประเทศเดียว ซึ่งการตั้งสมาคมขึ้นมา แต่ละสมาคมก็จะมีสมาชิกเป็นบรรดาบริษัท ขายตรงแบรนด์ต่างๆ ที่มีอุดมการณ์คล้ายกันเข้ามารวมตัวกัน ถึงแม้จะมีหลายสมาคม แต่ทุกสมาคมก็สามารถทำงานเดินไปด้วยกันได้โดยไม่มีปัญหาอะไร”
หากมองกันอีกแง่หนึ่ง หากมีการรวม ตัวกันเกิดขึ้นมาจริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และ ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมขายตรงของไทย แต่จะรวมกันหรือไม่อย่างไรนั้น คง จะต้องมีการประชุมกับสมาชิกของสมาคม และฝ่ายต่างๆ ก่อน เพื่อหาข้อสรุปกันต่อไป
ด้าน พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ในฐานะเลขาธิการ สมาคมการขายตรงไทย ซึ่งเป็นอดีตนายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว ตนก็ทราบผ่านสื่อมาบ้างแล้ว แต่ ในส่วนของการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งสมาพันธ์นั้น ยังไม่ทราบเรื่องอย่างเป็นทางการ อะไร ส่วนเรื่องที่จะรวมตัวเพื่อทำให้กลุ่มขายตรงของประเทศไทยสามารถสู้ในเวทีอาเซียน หรือสากลได้นั้น คงไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะการที่จะลงแข่งขันในตลาดสากล ได้นั้น เป็นเรื่องของบริษัทนั้นๆ เอง ว่าจะสามารถทำได้ดีแค่ไหนในการเปิดเกมรุกสู่ตลาดที่กว้างกว่าตลาดในประเทศ
“ในทางกลับกัน หากการรวมตัวที่ว่านี้ จะเกิดขึ้น เพื่อเป็นการจรรโลงธุรกิจ เป็นการ ยกระดับอุตสาหกรรมขายตรง ก็ถือเป็นเรื่อง ที่ดี แต่ทั้งหมดทั้งมวลคงต้องมีการปรึกษาหารือกันในหลายภาคส่วน ซึ่งคงไม่สามารถ ตอบอะไรได้มากมายนัก” หมอต้อย เผย
>> TSDA มองไปข้างหน้าขอเป็นหัวดึงสมาชิกอาเซียน ตั้งสหพันธ์ฯ
ด้านสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย หรือ TSDA โดย นายอนุวัฒน์ ธรมธัช นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมกำลังมีความคิดที่จะสร้าง “สหพันธ์ ขายตรงแห่งอาเซียน” เพื่อเป็นผู้นำวงการขายตรงแห่งอาเซียน ซึ่งมีประเทศสมาชิกถึง 10 ประเทศ มีจำนวนประชากรกว่า 500 ล้านคน โดยจะมีการเชิญบรรดาบริษัทขาย ตรงในอาเซียนเข้าร่วม ผ่านแบรนด์ขายตรง ที่เป็นสมาชิกของสมาคม ที่ปัจจุบันแต่ละบริษัทสมาชิกก็เริ่มมีการขยายออกไปในประเทศต่างๆ ของอาเซียนบ้างแล้ว
“ความคิดที่จะตั้งสหพันธ์ขายตรงอาเซียนขึ้นนี้ หลักการที่สำคัญก็เพื่อเป็นการ ยกระดับอุตสาหกรรมขายตรงของอาเซียน สร้างส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทสมาชิกให้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญหากสหพันธ์ดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นได้จริง ก็จะทำให้วงการขาย ตรงสามารถมีส่วนแบ่งในธุรกิจค้าปลีกเพิ่มมากขึ้น” อนุวัฒน์ กล่าว
ส่วนเรื่องของการที่สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยต้องการรวม 3 สมาคม เป็นหนึ่งเดียว ทาง “อนุวัฒน์” ก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรที่ชัดเจนมากนัก
>> “พิศิษฐ์ แทนทิว” ชี้ รวม 3 ส.ยากจะเป็นจริง
ทั้งนี้ ด้านนายพิศิษฐ์ แทนทิว ผู้อำนวยการ บริษัท กรีนรอยเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทหนังสือพิมพ์ราย 3 วัน “สยามธุรกิจ” ในฐานะผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจขายตรงของไทยมาร่วม 20 ปี ได้แสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นรวม 3 สมาคม ว่า เรื่องนี้เป็นเพียงแค่แนวคิด แนวคิดหนึ่ง เท่านั้น ซึ่งหากมองถึงการรวมกันของทั้ง 3 สมาคม หากสามารถทำได้จริงก็จะเป็นเรื่อง ที่ดี เพราะจะเป็นการผนึกกำลังที่ยิ่งใหญ่ และจะทำให้ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างสูง
“เรื่องนี้คงเป็นเพียงแนวคิดใหม่เท่านั้น ส่วนจะเป็นจริงขึ้นได้ คงจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากทั้ง 3 สมาคม ก็มีวิธีการทำงานที่ต่างกัน มีกฎระเบียบที่ต่างกัน อีกทั้งความคิด ของทั้ง 3 สมาคม ก็เป็นความคิดที่แตกต่าง แบ่งเป็นกลุ่ม เป็นก๊ก อีกทั้งความสัมพันธ์ก็ ดูจะไม่ได้กลมเกลียวมากนัก เรื่องของการรวม 3 สมาคม เป็นหนึ่งสมาพันธ์คงเกิดขึ้น ได้ยาก” นายพิศิษฐ์ เผย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1281 ประจำวันที่ 7-3-2012 ถึง 9-3-2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น