ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

‘แอมริช’ทุ่มสื่อ 80 ล้าน ดันผลิตภัณฑ์ ‘ออไรท์’ ‘เอกพิสิฐ’จัดหนักแจกไม่อั้น หวังยึดตลาด ‘ภายในผู้หญิง’


เปิดประเด็นร้อน “ค่ายแอมริช” ขายตรงคลื่นลูกใหม่ ระเบิดความแรงเกินพิกัด หลังได้ผลิตภัณฑ์ “ออไรท์” ใช่เลย เพื่อภายในผู้หญิง “สูตรดั้งเดิม” เพิ่มนวัตกรรมใหม่เหนือกว่าเดิมเสริมทัพ...“เอกพิสิฐ บุญชะนะ” ประกาศทุ่มงบ 80 ล้าน ลงสื่อทีวีดาวเทียม ควบคู่วิทยุชมชนกว่า 1,200 สถานี จุดกระแส “ดีเดย์” ปูพรมพร้อมกันทั่วประเทศ เมษายน 2555 นี้...ตะลึงในวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ออไรท์” 24 มีนาคม ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำเครือข่ายที่ใช้สื่อทีวี และวิทยุชุมชนเป็นหัวหอกจากค่ายต่างๆ แห่ร่วมงานเพียบ...ยอดขายทะลุ 20,000 กล่อง “เอกพิสิฐ” ย้ำชัดภายในปี 2555-2556 นี้ “แอมริช” จะกวาดยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เพราะเชื่อมั่นใน 4 ประสาน แถมคึกสุดๆ ที่ได้ “ออไรท์” ซึ่งผลิตจาก บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บฯ ซึ่งเป็นเจ้าตำรับผลิตภัณฑ์ “ฟิตกระชับ” สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะมาทำตลาดอุ่นเครื่องแคมเปญ 2 เดือนขาย 1 แสนกล่อง แจกเบนซ์ 1 คัน มูลค่า 4 ล้านบาท หรือเงินสดให้ผู้สปอนเซอร์สูงสุด

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะมีเรื่องอะไรชุลมุนไปกว่าสินค้า “ฟิตกระชับ” สำหรับภายในผู้หญิงอย่าง “ซัน คลาร่า” ซึ่งผลิตมาจาก “บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บ อินดัสตรี่ จำกัด” จัดจำหน่ายโดย “บริษัท สตาร์ ซันไชน์ จำกัด เห็นจะไม่มี เพราะเป็นสินค้า “ทอล์คออฟเดอะทาวน์” ที่มีการกล่าวถึงนานเกือบ 2 ปีเต็มๆ เนื่องจากน่าจะเป็นเพียงหนึ่งเดียวของสินค้าไทย ที่มียอดขายสูงสุดในระบบเครือข่ายขายตรงในช่วงกลางปี 2554 ที่ผ่านมา นั่นคือ เดือนละกว่า 700,000 กล่องหรือ 480 ล้านบาท / เดือน

ด้วยกระแสที่ “ซัน คลาร่าฟีเวอร์” ส่งผลให้มีผู้ผลิตสินค้าปลอม และสินค้าลอกเลียนแบบออกมาจำหน่ายแข่งในตลาดเป็นจำนวนมาก ขายตัดราคากันแหลกลาญ จนทำให้ยอดขาย “ซัน คลาร่า” ลดฮวบเหลือเดือนละไม่ถึงแสนกล่อง

เรื่องนี้เดือดร้อนไปถึงโรงงานผู้ผลิต “ซัน คลาร่า” อย่าง “ธนอรรถ ตรีธิติธัญ” ที่ยอดผลิตลดฮวบจนน่าใจหาย เพราะถูกสินค้าปลอม และเลียนแบบตีท้ายครัว ถึงกับออกมาลงประกาศให้ “แฟนคลับ ซัน คลาร่า” ตัวจริงเสียงจริงให้รับรู้ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 นี้เป็นต้นไป “ซัน คลาร่า” จะเปลี่ยนกล่องในรูปโฉมใหม่ สดใสกว่าเดิม พูดง่ายๆ กล่องแบบเก่าจะไม่มีวางจำหน่ายอีกต่อไป ที่แน่ๆ “แบรนด์” ซัน คลาร่า อาจเปลี่ยนมือจาก “สตาร์ ซันไชน์” กลายเป็นของค่ายอื่นซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง เนื่องจาก“ธนอรรถ ตรีธิติธัญ”ไม่ค่อยจะ “แฮ็ปปี้” สักเท่าไหร่ ที่ “สตาร์ ซันไชน์” ออกผลิตภัณฑ์ชื่อคล้ายกัน คือ “คลาร่า พลัส” โดยจ้างโรงงานอื่นผลิตสินค้าให้ ทั้งนี้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ค่ายสตาร์ ซันไชน์ อ้างกับสมาชิกว่า บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บฯ ไม่ผลิต “ซัน คลาร่า” ให้ ก็เลยต้องใช้สินค้า “คลาร่า พลัส” แทน

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารค่ายสตาร์ ซันไชน์ ก็ไม่ค่อยจะพอใจ “ธนอรรถ ตรีธิติธัญ” เช่นเดียวกัน ที่ไปผลิตสินค้าลักษณะเดียวกัน คือ “เอฟ-ทู” ป้อนให้ บริษัท โอทูฯ เข้ามาแชร์ตลาด แต่ก็ดูดฐานสตาร์ ซันไชน์ไม่ค่อยสำเร็จมากนัก เนื่องจากแนวทางการทำงาน และแผน การจ่ายผลตอบแทนของสองค่ายนี้ต่างกันคนละฟิวส์

ที่แน่ๆ ก่อนหน้านี้ บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บฯ ก็ได้ผลิตสินค้าในลักษณะนี้ให้กับบริษัทขายตรงจำหน่ายมาแล้ว 7-8 ค่ายด้วยกัน แต่ไม่ดัง

มาถึงตรงนี้ก็พอสรุปได้ว่า ระหว่างเจ้าของโรงงานผลิตซัน คลาร่า กับผู้จำหน่ายอย่าง “สตาร์ ซันไชน์”ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกัน เข้าข่าย “ผัวเมียทะเลาะกัน” คือ ต่างฝ่ายก็ต่างหันหลังให้กันไม่ยอมพูดจาหาทางออกร่วมกัน ในที่สุด ก็ต้องลงเอยด้วยการต่างฝ่ายต่างก็มี “กิ๊ก” หรือคู่ค้ารายใหม่นั่นเอง

เปิด “กิ๊กใหม่” เนเจอรัล เฮิร์บฯ ควง“แอมริช”...“เอกพิสิฐ” นำทัพลุย

สตาร์ ซันไชน์” ไม่ไว้ใจใน “เนเจอรัล เฮิร์บฯ” ที่ชอบปันใจไปให้หญิงอื่นหลายค่ายในที่สุด “โกสิทธิ์ ผะลิวรรณ” ผู้บริหาร สตาร์ ซันไชน์ ก็ไปมีกิ๊กบ้าง ด้วยการไปจ้างโรงงานผลิต “โควิก” ผลิตสินค้า “คลาร่า พลัส” ให้ เพื่อออกมาทำตลาดประชดเจ้าของ “ซัน คลาร่า”นี่คือ ที่มาของบท “พ่อแง่แม่งอน” ระหว่าง “ธนอรรถ กับ โกสิทธิ์” ซึ่งประเด็นมีอยู่นิดเดียวจริงๆ

ก็ต้องยอมรับว่า สมรภูมิการแข่งขันในธุรกิจขายตรงในปัจจุบัน หากไม่มีกุนซือมือฉมัง คอยให้คำปรึกษา แนะแนวทางกลศึก วางเกมรบ และพลิกสถานการณ์ให้โอกาสที่จะแจ้งเกิดสำหรับน้องใหม่ไม่ใช่ของง่าย

เฉกเช่น ค่ายขายตรงน้องใหม่ อย่าง “บริษัท แอมริช กรุ๊ป จำกัด” ภายใต้การนำทัพของ “เอกพิสิฐ บุญชะนะ” แม่ทัพใหญ่ใจนักเลง ที่ประกาศเปิดเกมรุก บุกธุรกิจขายตรงอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างบริษัทฯ ให้เติบโตในระยะเวลาที่สั้นที่สุด โดยได้สินค้าดีชื่อ “ออไรท์” สำหรับภายในผู้หญิงยุคใหม่ ได้ “บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บ อินดัสตรี่ จำกัด” ของ “ธรอรรถ ตรีธิติธัญ” ผู้ผลิตซัน คลาร่า คอยป้อนสุดยอดนวัตกรรมใหม่ให้

“เอกพิสิฐ” เหมือนพยัคฆ์ติดปีก” พอได้สินค้า “ออไรท์” ใช่เลย สำหรับ “มดลูก” ผู้หญิงเพียง 2 อาทิตย์เศษๆ ประกาศลงสนามแข่งเต็มพิกัด โดยใช้ “สื่อทีวีดาวเทียม และวิทยุชุมชน” เป็นหัวหอกในการรุกรบ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้นทุนเดิมๆ ของ “เอกพิสิฐ บุญชะนะ” สไตล์บริหารธุรกิจเครือข่าย ถึงลูกถึงคนนิยมใช้แผนการตลาดแบบไบนารี่ “เขย่าวงการแรง” ความกล้าได้กล้าเสียของ “เอกพิสิฐ” น่าจะเป็นใบเบิกทางอย่างดีที่จะทะลุทะลวงตลาดเครือข่ายไทยได้ไม่ยาก ยิ่งได้สินค้าดีระดับแถวหน้าอย่าง “ออไรท์” ยิ่งทำให้นักบริหารหนุ่มผู้นี้เกิดอาการ “ฮึกเหิม” อย่างเห็นได้ชัด

ทุ่มสื่อหนัก “ปูพรม”กระหึ่ม! เปิดเกมแรง “ดีเดย์” เมษายนนี้

นายเอกพิสิฐ บุญชะนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอมริช กรุ๊ป จำกัด เปิดเผย “ตลาดวิเคราะห์” ว่า บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นมาจากการร่วมกลุ่มของบุคคลที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการขายตรงมานานหลาย 10 ปี โดยมีการวางกลยุทธ์หลัก ในการขยายฐานธุรกิจคือ การใช้สื่อทีวีดาวเทียม 3-4 ช่อง วิทยุชุมชนอีก 1,200 สถานี ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สตาร์ทเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 - 2556 ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อจุดกระแสผลิตภัณฑ์ “ออไรท์” เพียงตัวเองเท่านั้น สมาชิกจะได้ขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น

“ยุคนี้การทำขายตรงมันต้องรุกรบเร็ว ส่วนจุดขายของบริษัทฯ คือ การรวมเอาจุดเด่นๆ ที่สำคัญในวงการมาผสมผสาน และปรับใช้เพื่อให้เหมาะกับ ผู้นำ นักขาย และสมาชิก นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของสินค้าที่โดดเด่น มีคุณภาพ สามารถขยายตลาดได้ง่าย อย่าง “ออไรท์” ซึ่งเพิ่งเปิดตัวใหม่ๆ โรงงานผู้ผลิตมีตำนาน เราได้จับมือกันเพื่อทำตลาดเต็มรูปแบบ”

เปิดศึกบุกตลาด “มดลูก” ส่งสินค้าใหม่“ออไรท์”เอาใจสตรี

นายเอกพิสิฐกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ออไรท์” ให้ผู้นำเกือบ 500 คนได้รับทราบ เพราะที่ผ่านมามีบริษัทฯ แห่งหนึ่งที่ขายสินค้าประเภทนี้ จากโรงงานเดียวกันนี้ สร้างกระแสจนโด่งดัง มียอดขายต่อเดือนสูงถึง 700,000 – 800,000 กล่อง และสามารถทำยอดขายต่อเดือนสูงถึง 480-500 ล้านบาท

กระแสความแรงของสินค้าในกลุ่มนี้ ทำให้บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นในตลาดนี้ให้ได้ภายใน 3-6 เดือน โดยบริษัท เนเจอรัล เฮิร์บ อิดัสตรี่ จำกัด ผลิต “ออไรท์” ให้คุณสมบัติเน้นมดลูกและภายในผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า บริษัทฯ นี้คือ เจ้าตำรับสินค้าฟิตกระชับสำหรับผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียว“แอมริช” จึงได้ออกแบรนด์ “ออไรท์” เข้ามาทำตลาดในระบบเครือข่ายแผนไบนารี่ โดยมีนายทหารใหญ่ท่านหนึ่งชักนำให้รู้จักกับเจ้าของโรงงานดังกล่าวเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ขณะเดียวกัน บริษัท แอมริชฯ ยังมีการนำกลยุทธ์ทางการตลาดยุคใหม่ เข้ามาขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อ 4 ประสาน ประกอบไปด้วย
1. แผนการตลาด ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกได้ไม่ยาก
2. โรงงานการผลิต ที่ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ทางบริษัท เนเจอรัล เฮิร์บฯ ในเรื่องของมดลูกถือเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 อยู่แล้วต่อให้โรงงานอื่นผลิตสินค้าเลียนแบบอย่างไรคุณภาพก็สู้โรงงานนี้ไม่ได้
3. หลังจากตกลงกับทางโรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เข้าไปปรึกษาหารือกับคุณกาย ไพรินทร์ ซึ่งรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาเกือบ 10 ปีแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำที่ดีมาก ก็เลยใช้สื่อทีวีดาวเทียมรวมแล้วก็ 3-4 ช่องด้วยกันเป็นตัวเจาะตลาด
นอกจากนี้ยังได้ทุ่มงบกับสื่อวิทยุชุมชมอีกกว่า 1,200 สถานี เพื่อจุดกระแสพร้อมๆ กันทั่วประเทศ รวมเบ็ดเสร็จกับแผนการรบโดยใช้สื่อครั้งนี้ บริษัทฯ วางเดิมพันไว้ที่ 80 ล้านบาท เพื่อผลิตรายการทีวี และยิงสปอตโฆษณาอีกวันละกว่า 100สปอต เป็นอย่างต่ำ
4. บริษัท แอมริช เอง ซึ่งถือเป็น 4 ประสาน ซึ่งได้ผู้นำเข้ามารวมตัวกันจำนวนมาก นับเป็นการลงตัวที่สมบูรณ์ที่สุด คาดว่าถ้าเดินเกมรบอย่างที่วางแผนไว้นั้น ภายในปี 2556 น่าจะทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท “ที่แน่ๆ แค่ออร์เดิร์ฟภายใน 1 เดือนครึ่งนี้ บริษัทฯ วางยอดขายไว้ที่ 1 แสนกล่อง สมาชิกท่านใดสปอนเซอร์ได้สูงสุด รับรถเบนซ์มูลค่า 4 ล้านบาทไปได้เลย ยอมรับว่า กระแสออไรท์แรงมาก แค่เปิดตัววันแรกมียอดขายกว่า 20,000 กล่องเลยทีเดียว” นายเอกพิสิฐกล่าว

ถ้าจะว่าไปแล้ว นี่คือ...ปฏิบัติการรุกที่บ้าระห่ำ เพื่อสร้างบริษัทให้เติบโตในระยะเวลาอันสั้น การที่ “แอมริช” วางหน้าตักเดิมพันไว้สูง กล้าทุ่มงบกับสื่อมากถึงเพียงนี้ น่าจะเป็น “ศึกใหญ่” ที่สมรภูมิรบหนึ่งในวงการเครือข่ายขายตรงไทย ให้ร้อนระอุขึ้นมาอีกในช่วงเมษายนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย สงครามชิงตลาดสินค้ามดลูกครั้งนี้ ค่ายไหนได้ “กุนซือ” วางเกมรบได้ลึกซึ้ง และแหลมคมกว่า ค่ายนั้นมีโอกาส “ผงาด” ในยุทธจักรนี้อย่างไม่ต้องสงสัย...ที่แน่ๆ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าตลาดสินค้าภายในผู้หญิงขึ้นมาอีกในปี 2555 นี้ รวม “ของปลอม” ที่เข้ามาสู่สนามรบจนฝุ่นตลบแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ศึกนี้ห้ามกะพริบตาเด็ดขาด!!


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 317 ประจำวันที่ 1 - 15 เมษายน 2555

1 ความคิดเห็น: