ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

‘อัลติคอร์ อิงค์’ตอกย้ำผู้นำขายตรงโลก เผยยอดปี’54 ปิดที่ 10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ



บริษัทแม่แอมเวย์ประเทศไทย “อัลติคอร์ อิงค์” แถลงผลประกอบการทั่วโลกปี’54 ปิดยอดขายที่ 10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโต 17% จากปีก่อนที่มียอดขาย 9,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เผยเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ประกาศพร้อมนำสิ่งดีๆ สู่คนทั่วโลก ตอกย้ำผู้นำขายตรงโลก...ด้านเครื่องสำอาง “อาร์ทิสทรี” จากแอมเวย์ เสริมภาพลักษณ์ดึงดาราฮอลลีวู้ด “เทเรซา พาล์มเมอร์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์...ส่วนแอมเวย์ไทยเผยเตรียมแคมเปญใหญ่บุกตลาดความงาม ดึงเจ้าหญิงซีรี่ย์เกาหลี “ยุน อึน เฮ” เสริมทัพเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีกลุ่มเพียวไวท์ ต้อนรับสาวเอเชียที่ต้องการหน้าขาวใส
...เชื่อว่าหลายๆ คน ในที่นี้ หลังจากที่ทราบตัวเลขผลประกอบการของบริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยอย่าง “แอมเวย์” ไปแล้ว ที่ปิดยอดขายอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท หรือเติบโตอยู่ที่ 8% นั้น คงอยากที่จะทราบว่าแล้วบริษัทแม่แอมเวย์ประเทศไทย “อัลติคอร์ อิงค์” ปิดยอดตัวเลขผลประกอบการอยู่ที่เท่าไหร่!...โดยทางด้าน “มร.สตีฟ แวน แอนเดล” ประธานกรรมการ แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการทั่วโลกของแอมเวย์ในปี 2554 นั้น มียอดขายอยู่ที่ 10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งตลาด 9 ประเทศใน 10 อันดับแรกของแอมเวย์ ที่เติบโตเป็นที่น่าพอใจ ประกอบด้วย จีน อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย รัสเซีย ไทย ไต้หวัน ยูเครน และสหรัฐ อเมริกา ส่วนตลาดที่มียอดจำหน่ายเติบโตเป็นเลขสองหลักในปีนี้ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี ไต้หวัน ตุรกี เวียดนาม และประเทศในกลุ่มละตินอเมริกา
“ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาของแอมเวย์ทั่วโลก แอมเวย์ถือเป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยประสบ การณ์ในตลาดขายตรงที่สำคัญของโลก อาทิ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และไทย อีกทั้งยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมขายตรงโลกอีกด้วย โดยหากพิจารณายอดจำหน่ายในปีที่แล้ว ส่วนแบ่งการตลาดของแอมเวย์เพิ่มขึ้นกว่า 10% ความสำเร็จนี้เกิดจากความพยายามของนักธุรกิจแอมเวย์กว่า 3 ล้านคนในกว่า 80 ประเทศและเขตการปกครองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและสินค้าอันทันสมัยที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีธุรกิจเป็นของตัวเองและยังช่วยให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย”
ด้านมร.ดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัท แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันนี้ แอมเวย์ถือเป็นเหมือนศูนย์รวมผู้คนที่มีความหวังและมีความฝันที่แตกต่างกันออกไป ผ่านการสร้างธุรกิจของตัวเองที่ใช้ต้นทุนน้อย ซึ่งในการทำธุรกิจของแอมเวย์จะมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน และเพื่อเป็นการสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์อย่างต่อเนื่อง บริษัทได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมขายตรงโลก โดยปัจจุบันมีผู้ทำธุรกิจขายตรงมากกว่า 87 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงตลาดในประเทศต่างๆ ที่แอมเวย์ดำเนินธุรกิจอยู่ โดยผู้บริหารของแอมเวย์หลายคนก็ได้รับตำแหน่งต่างๆ ในฐานะผู้นำในธุรกิจมากกว่า 50 ตำแหน่งทั่วโลก และตัวผมเองปัจจุบันดำรงตำแหน่งเหรัญญิกของสมาพันธ์การขายตรงโลก”
มร.ดั๊ก เดอโวส กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการลงทุนในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างนิวทริไลท์และอาร์ทิสทรีมีส่วนเป็นอย่างมากในการสร้างยอดจำหน่ายด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ ปัจจุบันนิวทริไลท์เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินอันดับ 1 ของโลก ซึ่งปีที่ผ่านมานิวทริไลท์มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดขายมากกว่า 1 ใน 3 มาจากผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์ นิวทริ-โปรตีน และนิวทริไลท์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์
ส่วนผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและเรือนร่าง สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้เกือบ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์อาร์ทิสทรีซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิวระดับพรีเมี่ยมที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 1 ใน 5 ของโลกเป็นผลิตภัณฑ์หลัก และประเทศที่แบรนด์อาร์ทิสทรีเติบโตสูงสุดคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับผลิตภัณฑ์เด่นของอาร์ทิสทรีในปีที่ผ่านมา ได้แก่ อาร์ทิสทรี อินเท็นซีฟ สกินแคร์ รีนิววิง พีล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ดูแลผิว
ด้านผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมีการเติบโตด้วยยอดขาย 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้สูงอย่างต่อเนื่องได้แก่ เครื่องกรองน้ำอีสปริง และเครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนอื่นๆ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ความงาม และครัวเรือนนั้นมียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ
“มร.สตีฟ แวน แอนเดล” กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีที่ 9 ของแคมเปญ One by One ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมของแอมเวย์ที่รวมพลังจากนักธุรกิจแอมเวย์และพนักงาน ในการให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส โดยในปี 2554 ที่ผ่านมา ได้สร้างประโยชน์ให้แก่เด็กๆ ทั่วโลกถึง 1.5 ล้านคน มีเงินบริจาคกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอาสาสมัครสละเวลาช่วยเหลือราว 200,000 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อนับย้อนไปตั้งแต่ก่อตั้งแคมเปญในปี 2546 เราได้ช่วยเหลือเด็กแล้ว 9.5 ล้านคน มีเงินบริจาคทั้งสิ้น 166 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอาสาสมัครสละเวลาทำงานช่วยเหลือถึง 2.5 ล้านชั่วโมง
“ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของแอมเวย์ คือ ไม่ว่าแอมเวย์จะไปทำธุรกิจ ณ ที่ใดก็ตาม แอมเวย์มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น นักธุรกิจแอมเวย์จะเป็นผู้นำในการช่วยเหลือเด็กๆ ในเมืองหรือชุมชนของตนเองผ่านแคมเปญ One by One และบริษัทก็ได้อุทิศทรัพยากรทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ เพื่อที่จะสะท้อนถึงปัญหาต่างๆ ของเด็กและเยาวชนในเวทีโลก ในปี 2554 แอมเวย์ได้เปิดตัวกิจกรรมเพื่อสังคมระดับโลกที่มุ่งเน้นไปที่ปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กผ่านผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “นิวทริไลท์ ลิตเติ้ล บิทส์” ที่มีการแจกจ่ายให้แก่เด็กๆ ในประเทศเม็กซิโกและแซมเบียเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการในเด็ก โดยแอมเวย์มีแผนต่อยอดกิจกรรมนี้ด้วยการแจกจ่ายนิวทริไลท์ ลิตเติ้ล บิทส์ ให้แก่เด็กๆ ในกว่า 20 ประเทศทั่วโลกภายใน 3 ปี”

“อาร์ทิสทรี”เสริมภาพลักษณ์แบรนด์
เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่
…นอกจากนี้ ทางด้านนางแคนเดซ แมทธิวส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ยังได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ “อาร์ทิสทรี” เอง ยังได้ประกาศความร่วมมือกับนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง “เทเรซา พาล์มเมอร์” นักแสดงสาวชาวออสเตรเลียเจ้าของผลงานภาพยนตร์ชื่อดัง อาทิ I Am Number Four, Sorcerer’s Apprentice, Bedtime Stories ในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในทุกประเทศทั่วโลก (โกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์) ให้กับผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีสกินแคร์และอาร์ทิสทรีสีสัน
โดยพาล์มเมอร์ได้รับการคัดเลือกให้รับหน้าที่นี้ ด้วยบุคลิกของเธอที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด โดดเด่น รวมถึงความสำเร็จจนเป็นที่น่ายกย่องในฐานะนักแสดงที่มีทั้งความเข้มแข็งและสง่างาม อีกทั้งยังสวยในหลากหลายสไตล์จนเหลือเชื่อ นอกจากนั้น พาล์มเมอร์ยังเป็นผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเซ็กซี่ที่สุดในโลก จากนิตยสาร WHO เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2554ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จจากผลงานภาพยนตร์จนเป็นที่รู้จักทั่วโลก
นางแคนเดซ เผยต่อว่า การตัดสินใจใช้บุคคลผู้มีชื่อเสียงเพื่อโปรโมทภาพลักษณ์ของแบรนด์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการที่อาร์ทิสทรีกำลังก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งระดับโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามระดับพรีเมี่ยม ด้วยการปรับโฉมของแบรนด์ใหม่ มีบรรจุภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ และคิดค้นผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่เน้นนวัตกรรมและประสิทธิภาพที่เห็นผล โดยได้รับการคิดค้นขึ้นให้เหมาะกับสภาพผิวที่มีลักษณะเฉพาะตัวของคนเชื้อชาติต่างๆ ทั่วโลก
การตัดสินใจที่จะเปิดตัวแบรนด์ในโฉมใหม่ครั้งนี้ เกิดขึ้นในจังหวะที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยที่รูปแบบการค้าปลีกกำลังเปลี่ยนแปลงไป และการบอกต่อปากต่อปากกลายเป็นส่วนสำคัญ ในการสร้างแบรนด์ได้มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และแอมเวย์ก็เป็นธุรกิจที่เติบโตขึ้นจากแรงขับเคลื่อนด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้ และเวลานี้ คือ เวลาเติบโตของแบรนด์อาร์ทิสทรีแล้ว
โดยทางด้านนางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้กล่าวเสริมว่า นอกจากการเสริมความแข็งแกร่งด้านภาพลักษณ์แบรนด์พรีเมี่ยมระดับโลกแล้ว ประเทศไทยยังได้เตรียมแคมเปญใหม่ที่จะบุกตลาดความงาม โดยได้เชิญนักแสดงสาวฉายาเจ้าหญิงแห่งซีรี่ย์เกาหลี และอดีตสมาชิกวงเกิร์ลแบนด์ชื่อดัง Baby V.O.X ได้แก่ ‘ยุน อึน เฮ ’ มาเสริมทัพเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาร์ทิสทรี เพียวไวท์ ใน 3 ประเทศ คือ ไทย ไต้หวัน และจีน โดยยุน อึน เฮ นั้น มาพร้อมด้วยบุคลิกที่โดดเด่นและเปล่งประกายความเชื่อมั่นสู่คนรอบข้างตลอดเวลา ด้วยผิวขาวเนียน กระจ่างใส เป็นที่ใฝ่ฝันของหญิงสาวเอเชีย
“สำหรับแอมเวย์ประเทศ ไทยเตรียมแคมเปญสำหรับเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้ง 2 ท่านอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดทั้งสำหรับกลุ่มนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภคที่จะมีการจัดขึ้นภายในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยจะเปิดตัวยุน อึน เฮ พร้อมผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรี เพียวไวท์ ในไตรมาสที่สองของปีนี้ และเปิดตัว เทเรซา พาล์มเมอร์ ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแอมเวย์มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างแน่นอน”

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 316 ประจำวันที่ 16 - 31 มีนาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น