[gallery link="file" columns="2"]
ทรูแมน ฮันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส อิงค์ อเมริกา เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา นู สกิน เป็น บริษัทที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับจากทีั่วโลก เป็นผลมาจากนโยบายและแผนการดำเนินงานที่สอดประสานกันอย่างดีเยี่ยมของ คณะผู้บริหารและผู้แทนจำหน่ายของ นูสกิน ทั่วโลก ทำให้ปีนี้ นู สกิน ได้รางวัลจากการจัดอันดับจาก หนังสือพิมพ์อินเวสเตอร์ส์ บิสซิเนส เดลี่ หรือ ไอบีดี (Investor's Business Daily's or IBD) ให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทที่ดีที่สุด(Best of 2011) โดย นู สกิน ได้รับการจัดให้อยู่ในดันดับที่ 51 ด้วยราคาหุ้นประจำปีที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า 60% นอกจากนั้นยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 1,000 บริษัทมหาชนที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก ประจำปี 2555 จาก ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส ไทมส์ หรือไอบีที (The International Business Times or IBT) โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ในช่วงระยะเวลา 3 ปี อยู่ที่ 10.1 เปอร์เซ็นต์ และติดอันดับท็อปเท็น สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลที่มีการเติบโตเร็วที่สุด
"การที่เราได้รับรางวัลครั้นี้ถือเป็นเกรียติอย่างสูง และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพลังความแข็งแกร่งและศักยภาพอันโดดเด่นของผู้แทนจำหน่ายจาก นู สกิน ทั่วโลก โดยปัจจัยความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชรา เอจล็อค ที่เป็นลุขสิทธิ์เฉพาะ และด้วยโอกาสทางะุรกิจที่ทรงประสิทธิภาพของ นู สกิน ได้มาซึ่งความสำเร็จก้าวใหม่อีกขึ้น จนสามารสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปีซ้อน และคาดว่าจะสามารถทำสถิติต่อเนื่องได้เป็นปีที่ 3 ในปีนี้ สำหรับเป้าหมายความสำเร็จในปี 2555 บริษัท ยังคงมุ่งพัฒนาและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้เทคโนโลยีเอจล็อคที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ นู สกิน เข้าสู่ตลาด ซึ่งจะสามารถสร้าง อัตราการเติบโตของยอดขาย ขยายฐานผู้บริโภคในตลาดใหม่ รวมทั้งสร้างผลกำไรและสถานะทางการเงินของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก" ทรูแทน ฮันท์ กล่าว
ด้าน ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับ นู สกิน ประเทศไทย ที่ผ่านมาเราได้ดำเนินแผนการตลาดและประกาศจุดยืนของการเป็นบริษัทผู้นำด้านการต่อต้านความเสื่อมชรา (Anti-aging Company) ไม่ว่าจะเป็นการนำผลิตภัณฑ์เอจล็อค ทรานส์ฟอร์เมชั่น มาใช้เป็นสินค้าหลักในการทำตลาด รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภึอย่างดี เห็นได้จากยอดขายของผลิตภัณฑ์เอจล็อคที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนับจากการเปิดตัวไป เมื่อปี 2010 จนถึงปั จจุบัน ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมของบริษัทเติบโตไปด้วยเช่นกัน
สำหรับ 2 รางวัลที่ บริษั ท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส อิงค์ ได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ที่เกิดจากการทุ่มเททั้งแรงการแรงใจ และความมุ่งมั่น ของทั้งผู้บริหาร ผู้แทนจำหน่าย ตลอดจนพนักงานของ นู สกิน ทั่วโลก รวมทั้ง นู สกิน ประเทศไทย เช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นของบริษัท
นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนกว่า 350 ล้านบาท ในการซื้อกรรมสิทธิ์ครอบครองสถาบันไลฟ์เจน เทคโนโลยี รวมทั้งทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้นคว้าวิจัยยีนเพื่อการต่อต้านความเสื่อมชราเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชราระดับสุดยอดนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมความแข็งแกร่งในจุดยืนของบริษัท และสร้างความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า นู สกิน จะมีการเติบโตที่ดี และก้าวสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องแน่นอน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: Business Owner Magazine
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น