คำว่าความสำเร็จ เมื่อเข้ามาวันแรกคงไม่มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ต้องเริ่มเรียนรู้ เริ่มแสวงหา และลงมือทำอย่างจริงจัง หากเราไม่ตั้งใจจริง หรือไม่ลงมือทำอย่างเพียงพอ ท้ายที่สุดแล้ว “ความสำเร็จ” ก็จะไกลเกินเอื้อม แต่หากลงมือทำอย่างจริงจังความสำเร็จก็จะตามมาในภายหลังเอง
ธุรกิจเครือข่าย” น้อยคนนักที่จะเข้าใจและทำความรู้จักได้อย่างลึกซึ้ง!..แต่หากใครได้ลองเข้ามาลิ้มรสอันโอชะในธุรกิจนี้ ล้วนแล้วต้องติดบ่วง หลงเสน่ห์กันทุกราย...มาวันนี้ มนต์เสน่ห์แห่งธุรกิจเครือข่ายที่ก่อตัวขึ้น ได้ถูกนำมาเป็นโจทย์ที่ต่างกล่าวขานกันมา จนกลายเป็นธุรกิจที่มาแรงเป็นอันดับ 1 ณ เวลานี้...ดังปรากฏได้จากการที่เริ่มมีค่ายต่างๆ ก่อร่างสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมามากมายราว “ดอกเห็ด”...สิ่งนี้จึงกลายเป็นบทพิสูจน์ฝีมือการวาดลวดลายของค่ายเก่าๆ ว่าจะเก๋า และสามารถอยู่ยงคงกระพัน พร้อมท้ารบกับค่ายใหม่ๆ ได้หรือไม่...
และหนึ่งในธุรกิจเครือข่าย ที่น่าจับตามองในเวลานี้นั่นก็คือ “บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ที่ได้มีการก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2554...โดยเน้นสินค้าสมุนไพร และสินค้าเพื่อสุขภาพ เป็นตัวชูโรงให้กับบริษัท...และล่าสุด “บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ก็ได้จัดงาน “12 ปีทอง นีโอ ไลฟ์ ก้าวไกลสู่อาเซียน” ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมงานประดับเข็มของบริษัท เพื่อเป็นการประกาศศักดาความสำเร็จของ “นีโอไลฟ์” ว่าสามารถโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจเครือข่าย มาได้ยาวนานถึง 12 ปี...อีกทั้งเป็นการการันตีได้ว่า ใครๆ ก็ประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน...
...ปักษ์นี้คอลัมน์ “คลับเงินล้าน” จึงขอพาท่านผู้อ่านมาร่วมเปิดม่านความสำเร็จของเหล่าขุนพลทั้ง 6 ชีวิต แห่ง “บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ที่ล้วนมาจากเส้นทางชีวิตคนละสาย...แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ความสำเร็จ ความร่ำรวย และการมีชีวิตที่ดีขึ้น...
...เริ่มต้นกันที่ “ประทูล นันทภู” ผู้ที่ไม่เคยท้อ ก่อนจะประสบความสำเร็จ...เขาผู้นี้จบเพียงแค่ชั้นมัธยมศึกษา และด้วยฐานะทางบ้านที่ยากจน จึงต้องดิ้นรนหางาน อะไรที่ทำได้ก็ต้องทำไปก่อน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น...โดยการก้าวสู่ความสำเร็จนั้น “ประทูล” มองว่า “ถ้าเราเปิดโอกาสให้ตัวเอง และมองดูความฝันของเราที่ต้องการมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการมีรถ มีบ้าน มีเงิน ได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนได้มาจากการทำงานบวกกับความขยัน แต่งานบางประเภทถึงแม้เป็นงานที่เรารัก แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความฝันของเราเป็นจริงได้...จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้ามาร่วมธุรกิจกับ “นีโอไลฟ์”
ซึ่งในช่วงแรก “ประทูล” ยังไม่รู้สึกรักในอาชีพนี้ เบื้องต้นคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ ไม่น่าจะสำเร็จได้…แต่ด้วยความที่ เขามีความตั้งใจที่จะเรียนรู้การทำธุรกิจบวกกับความขยัน ไม่ย่อท้อ และถึงแม้ต้องเจออุปสรรคมานับร้อย แต่เขาก็ได้พบกับหนทางแห่งความฝันที่เขาค้นหามาทั้งชีวิต...
โดยสิ่งที่ “ประทูล” ได้รับ...คือ การมีชีวิตที่ดีขึ้น จากหนุ่มโรงงาน มีรายได้แค่เดือนชนเดือน วันนี้เขาสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ และมีรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน...ซึ่ง “ประทูล” ได้อยู่ร่วมชายคาภายใต้บ้าน “นีโอไลฟ์” แห่งนี้ มาเป็นระยะเวลา 9 ปีเต็ม...
“ประทูล” บอกว่า “นีโอไลฟ์” ได้มอบโอกาส มอบงาน มอบธุรกิจที่ดีให้กับเขา และอยากให้ผู้อื่นในรุ่นต่อๆ ไป ประสบความสำเร็จเหมือนเช่นเขา หรือประสบความสำเร็จมากยิ่งกว่า...
...“ประทูล” ยังบอกอีกว่า “ทุกคนถ้าเปิดใจ บวกกับความขยันก็จะร่ำรวยได้ แต่ทุกความพยายามอาจไม่ได้นำมาซึ่งความสำเร็จ เพราะในความสำเร็จนั้นต้องมีความพยายามบวกกับโอกาสที่ดีด้วย เมื่อมีโอกาสและได้เจอกับงานที่ดี ก็จะทำให้มีรายได้ตามมา…อีกทั้ง “ธุรกิจเครือข่าย” ยังเหมาะกับคนที่ต้องการตามหาความฝันของตนเอง เมื่อเข้ามาก็จะได้เห็นโอกาสของตัวเอง หากมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท ก็จะประสบความสำเร็จได้...
...เช่นเดียวกับ “นิธิรุจน์ เดชานนท์วรวัฒน์” ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด...
ซึ่งเขาผู้นี้ก็ได้ผ่านชีวิตความยากลำบากมาก่อน ด้วยการประกอบอาชีพเกษตรกร มีฐานะยากจน เคยอดมื้อกินมื้อ และเขาก็เป็นคนหนึ่งที่มีความฝัน แต่ก็ไม่ได้ดั่งใจฝันสักที...โดย “นิธิรุจน์” ทำงานหนัก และได้พึ่งเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อจะได้มีแรงทำงาน จนกระทั่งล้มป่วย...
“นิธิรุจน์” เคยสงสัยว่าทั้งๆ ที่ตนเองก็ทำงานหนักทำไมจึงไม่รวยสักที?...หากแต่ความขยันต้องมาคู่กับโอกาส จึงจะส่งผลให้บรรลุกับความฝันที่วาดหวังไว้ได้...ซึ่ง “นิธิรุจน์” เอง ก็ไม่เคยได้รับโอกาสที่ดีนั้นมาก่อน...จนกระทั่งมีผู้ชักชวนให้เขาเข้าสู่ “ธุรกิจเครือข่าย” ของ “นีโอไลฟ์” ที่ทำให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น พลิกชีวิตเปลี่ยนจาก “หน้ามือเป็นหลังมือ” เลยก็ว่าได้...
ในวันนี้ “นิธิรุจน์” ทำงานกับ “นีโอไลฟ์” มาเป็นระยะเวลา 7 ปี และสิ่งที่เขาได้รับคือรายได้หลายแสนบาท พร้อมด้วยทรัพย์สินมากมายมหาศาล ซึ่งชีวิตการเป็นเกษตรกรไม่อาจมอบให้เขาได้...และถึงแม้ “นิธิรุจน์” ต้องใช้เวลานานกว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จ...แต่เขาก็มองว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะความลำบากที่เขาเคยพบเจอในอดีต เป็นแรงผลักดันให้ “นิธิรุจน์” ไม่ย่อท้อ แม้ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายก็ตาม...
หากอยากประสบความสำเร็จ “นิธิรุจน์” บอกว่า “ต้องเริ่มจากการเปิดใจ และเข้ามาศึกษาเรียนรู้ เรายอมเสียเวลาแค่ 1 วัน เพื่อโอกาสที่ดีในชีวิต...จากนั้นเมื่อตัดสินใจว่าจะทำธุรกิจนี้ ท่านก็ต้องมาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม เดินตามผู้ที่สำเร็จ...ต้องยอมรับตัวเองไม่ว่าเราจะทำอะไร ต้องทำเพื่อให้เรามีอยู่มีกิน เพื่อความร่ำรวยของเรา”
“คำว่าความสำเร็จ เมื่อเข้ามาวันแรกคงไม่มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ต้องเริ่มเรียนรู้ เริ่มแสวงหา และลงมือทำอย่างจริงจัง หากเราไม่ตั้งใจจริง หรือไม่ลงมือทำอย่างเพียงพอ ท้ายที่สุดแล้ว “ความสำเร็จ” ก็จะไกลเกินเอื้อม แต่หากลงมือทำอย่างจริงจังความสำเร็จก็จะตามมาในภายหลังเอง”
และจากความโดดเด่นในตัวสินค้าของ “นีโอไลฟ์” ที่สามารถทำให้หลายชีวิตมีสุขภาพดีขึ้น...และเป็นจุดเปลี่ยนของผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมาย เพราะนักขายจำนวนไม่น้อยที่ได้เข้ามาร่วมงานกับ “นีโอไลฟ์” ล้วนมีโอกาสได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของ “นีโอไลฟ์” ทั้งสิ้น...และเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ จึงเป็นประตูบานแรกสู่การร่วมธุรกิจเครือข่ายกับ “นีโอไลฟ์” ก็ว่าได้...
...เฉกเช่นนักขายท่านนี้ นามว่า “บุญเลิศ พูลเอี่ยม” หนุ่มใหญ่ผู้มีสารพัดโรคที่เข้ามาเล่นงานชีวิต...โดย “บุญเลิศ” บอกว่า ชีวิตของเขาในอดีตแย่มาก ถึงขั้นติดลบต่ำกว่าศูนย์เลยก็ว่าได้...เขาจบการศึกษาเพียงแค่มัธยมศึกษาปีที่ 4 และยึดอาชีพขายอาหารตามสั่งเพื่อประทังชีวิต อีกทั้งเคยต้องเช่าห้องในวัดเป็นที่อยู่อาศัย...ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องพบเจอกับ “โรคพาร์กินสัน” ที่ส่งผลให้มือไม้สั่นจับสิ่งใดก็ไม่สะดวก...
แต่ในความโชคร้ายก็มักแฝงด้วยความโชคดีเสมอ...เมื่อ “บุญเลิศ” ได้ลองผลิตภัณฑ์ของ “นีโอไลฟ์” ทำให้อาการของเขาดีขึ้น...จึงเป็นจุดพลิกผันให้เขาก้าวเข้าสู่ “ธุรกิจนีโอไลฟ์” นับตั้งแต่นั้นมา...
จวบจนปัจจุบัน “บุญเลิศ” ร่วมธุรกิจกับ “นีโอไลฟ์” มาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี และได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด...ซึ่ง “บุญเลิศ” ยึดมั่นอยู่เสมอว่า เขามีความตั้งใจจริงที่จะทำให้ผู้อื่นพ้นจากโรคภัยและมีสุขภาพที่ดีขึ้น เหมือนกับตัวของเขา...
…และจากความตั้งใจนั้น ได้ผลเกินคาด เมื่อ “บุญเลิศ” มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการใช้ผลิตภัณฑ์ และเห็นผลจริง...จนเวลานี้ ความสำเร็จก็มาเยือนอย่างไม่น่าเชื่อ...จากชีวิตอันแสนตกอับ อนาถา ไม่มีอะไรเลย ก็กลับกลายมาเป็น
เศรษฐี มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท มีบ้านจัดสรร มีที่ดิน 30 กว่าไร่ และมีรถ 5 คัน...
“บุญเลิศ” ยังบอกอีกว่า เขารู้สึกภาคภูมิใจมากกับโอกาสและความสำเร็จที่ “นีโอไลฟ์” มอบให้กับเขา...และหากใครที่ป่วยหรือเป็นโรคต่างๆ อยู่ แล้วรักษาไม่หาย อยากให้ลองเข้ามาศึกษาผลิตภัณฑ์ของนีโอไลฟ์ รับรองว่าไม่ผิดหวัง...!!!
...ต่อกันด้วยกับอีกหนึ่งนักขายผู้ประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ “สำราญ เขียวสวาท” จากอาชีพปั่นซาเล้ง เก็บของเก่าขาย ใครจะเชื่อว่ากลับกลายมาเป็น ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด...โดยแต่เดิมนั้น “สำราญ” ประสบกับโรคไตมานานกว่า 10 ปี หมดหนทางที่จะรักษาให้หาย...จนได้มีโอกาสไปลองฟังการบรรยายของ “นีโอไลฟ์” จึงตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์มารับประทานเพียงแค่ 3 วัน โรคร้ายกลับดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
“สำราญ” จึงมองเห็นแนวทาง และหันมาเอาดีด้านธุรกิจเครือข่าย...และอยู่กับ “นีโอไลฟ์” มาเป็นระยะเวลาถึง 10 ปี...ชะตาหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ที่ทำให้ชีวิตของหนุ่มธรรมดาๆ ที่จบเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และมีความเป็นอยู่ยากจน กลับมีเงินในบัญชีถึง 2 ล้านบาท นอกจากนั้น “นีโอไลฟ์” ยังบันดาลตึก 10 หลัง และรถเบนซ์อีก 4 คัน ให้กับเขาอีกด้วย...
โดย “สำราญ” บอกว่า “เคล็ดลับความสำเร็จ คือการมีธุรกิจดี แผนการตลาดดี สินค้าดี...เราไม่จำเป็นต้องเก่ง ไม่ต้องมีความรู้ด้านธุรกิจ...เพราะเมื่อเข้ามาอยู่กับ “นีโอไลฟ์” บริษัทจะมีระบบ มีวิธีอบรมให้ประสบความสำเร็จได้...ซึ่งโอกาสและความพยายามเท่านั้น ที่จะช่วยคนจนให้รวย ช่วยคนป่วยให้หาย…หากใครที่มองหาโอกาสหรือหาอาชีพให้กับตัวเอง มีความรู้หรือไม่มีความรู้ก็สามารถทำได้ อนาคตก็จะประสบความสำเร็จเหมือนกับตัวเขาได้แน่นอน”…
...และจากสินค้าที่โดนใจ ระบบการทำธุรกิจไม่ยุ่งยาก บวกกับแผนการตลาดดีเยี่ยม จึงทำให้อีกหนึ่งนายตำรวจ ผู้มีใจรักในธุรกิจเครือข่าย อย่าง “ด.ต.ดำรง ภิรมย์ภู่” ที่ถึงแม้จะมีอาชีพมั่นคงในสายงานราชการ แต่รายได้ก็ไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงขวนขวายที่จะหารายได้เสริม ด้วยการทำอาชีพค้าขายและลองขายมาแล้วหลายอย่าง...
ซึ่งในขณะนั้นพ่อตาของ “ด.ต.ดำรง” ได้ป่วยเป็นอัมพฤต...และด้วยความที่อยากให้พ่อตาหายจากอาการป่วย จึงได้ลองซื้อผลิตภัณฑ์ของ “นีโอไลฟ์” มาให้กับพ่อตา ปรากฏว่าอาการดีขึ้น... “ด.ต.ดำรง” จึงเกิดความประทับใจในตัวสินค้า และได้เป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่ธุรกิจ “นีโอไลฟ์” และได้เริ่มธุรกิจอย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา...
ณ เวลานี้ “ด.ต.ดำรง” ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และได้ทำธุรกิจเครือข่ายควบคู่ไปกับงานราชการตำรวจ ซึ่ง “นีโอไลฟ์” ได้พลิกผันชีวิตของเขาผู้นี้ให้เจอกับคำว่า “รวย” อย่างไม่น่าเชื่อ...เพราะจากการเป็นนายตำรวจชั้นผู้น้อยนั้น คงไม่สามารถดลบันดาลรายได้หลายแสนต่อเดือน หรือรถเบนซ์ 3 คัน ให้กับ “ด.ต.ดำรง” ได้ เฉกเช่นทุกวันนี้!...
... “ด.ต.ดำรง” บอกว่า “หากใครกำลังมองหาโอกาส ให้เข้ามาศึกษา มาเรียนรู้ และทำตามผู้นำที่ประสบความสำเร็จ เราก็จะดำเนินรอยตามผู้ที่ประสบความสำเร็จได้...ซึ่ง “นีโอไลฟ์” มีระบบให้เราแล้ว 70 – 80% เพียงแค่เราทำตามระบบ ไม่ต้องเก่งก็สามารถทำได้”...
“ด.ต.ดำรง” ยังบอกอีกว่า “นีโอไลฟ์” เป็นบริษัทของคนไทย ธุรกิจนี้เหมาะกับคนไทยที่สุด...หากอยากประสบความสำเร็จให้มาลอกเลียนแบบไป...หากเป็นคนดี คิดดี ทำดี พูดดี ที่ “นีโอไลฟ์” สำเร็จแน่นอน”...!!!
...ปิดท้ายกันด้วยนักขายผู้ประสบความสำเร็จอีกหนึ่งท่าน นั่นคือ “เกียรติภูมิ จินศรีพานิช” นักขายมากความสามารถจากแดนใต้ ผู้ซึ่งก้าวสู่ตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้อย่างภาคภูมิด้วยระยะเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น...
โดยแรกเริ่มเดิมที “เกียรติภูมิ” ได้ก้าวสู่เส้นทางการเมืองมาก่อน ในตำแหน่งอนุกรรมการสภาเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีหน้าที่พิจารณางบประมาณของเขตต่างๆ เมื่อครบวาระเขาจึงกลับมาทำอาชีพส่วนตัวที่บ้านเกิด ณ จ.พัทลุง...บวกกับการทำสวนยางพารา อันเป็นอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษ...และได้จุดประกายความคิดที่จะลองเข้ามาศึกษากับ “นีโอไลฟ์”
ซึ่ง “เกียรติภูมิ” บอกว่า “จากการที่อยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว เลยลองเข้ามาศึกษาดูว่าที่ “นีโอไลฟ์” ให้เราทำอะไรบ้าง…นั่นคือ การทำธุรกิจ ซึ่งต้องมีกำไรขาดทุน และในอาชีพอื่นอาจมีความเสี่ยงสูง...แต่ตนมองว่า ที่ “นีโอไลฟ์” ไม่มีความเสี่ยง…
ท้ายที่สุดเมื่อมาอยู่ที่ “นีโอไลฟ์” ทำให้ “เกียรติภูมิ” พบกับความสุข ความสนุกและความท้าทายจากการทำธุรกิจ จนเขาสามารถขยายสายงานจนมีองค์กรเติบโตที่สุดในภาคใต้ได้...ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากการที่ “เกียรติภูมิ” มีความมุ่งมั่นตั้งใจ รู้จักพัฒนาธุรกิจเครือข่ายและส่งต่อให้แก่ผู้คนได้...
พร้อมกันนี้ “เกียรติภูมิ” ยังบอกอีกว่า “เมื่อเราทำแล้วเราก็สามารถมีรายได้มาจุนเจือตลอด ซึ่งรายได้เริ่มจากหลักพันก่อน และเมื่อเริ่มสะสมประสบการณ์ สะสมองค์กร สะสมทีมงาน...จากช่วงเดือนแรกๆ มีรายได้หลักหมื่น แต่พอเริ่มเข้าสู่ 1 ปี ก็กลายมาเป็นหลักแสน จนปัจจุบันได้รับรายได้จาก “นีโอไลฟ์” ที่ 600,000 บาทต่อเดือน”
“เกียรติภูมิ” ยังบอกอีกว่า “เขาเคยคิดทำร้ายตัวเองมาก่อน เคยดูถูกตัวเองมาเยอะมาก…ว่าเราไม่เก่ง ไม่ฉลาด เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จึงไม่มีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ...แต่ก็ได้เปลี่ยนมุมมองความคิด โดยเราต้องเชื่อมั่นตัวเราก่อน...และสิ่งแรกที่เราต้องทำคือการถามตัวเองว่า “ทำไมต้องทำ ทำแล้วได้อะไรบ้าง?”…
...“สิ่งที่สอง ต้องเชื่อมั่นในบริษัท ดูนโยบายว่ามีอะไรบ้าง ดูว่าสามารถจับต้องได้หรือไม่ และดูทำเนียบผู้สำเร็จ นำแบบอย่างของผู้บริหารและผู้ที่ประสบความสำเร็จมาใช้ จากนั้นดูต่อว่าสินค้ามีคุณภาพและความจำเป็นหรือไม่ และที่สำคัญการจ่ายค่าตอบแทนต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ไม่เอาเปรียบผู้ประกอบการ...เรียกได้ว่า สมัครครั้งเดียวเก็บเกี่ยวประสบการณ์และมีรายได้ตลอดชีพ ซึ่งที่ “นีโอไลฟ์” ทุกอย่างมีความพร้อม เพื่อให้ทุกคนประสบความสำเร็จ”…
เรียกได้ว่า บนเส้นทางของธุรกิจเครือข่าย...เหล่านักขายที่ประสบความสำเร็จนั้น ล้วนแล้วแต่มีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีชีวิตที่เพียบพร้อมทุกอย่าง หรือบางคนมีชีวิตที่เริ่มต้นจากศูนย์เลยก็ว่าได้...โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ “เราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้”…!!!
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 316 ประจำวันที่ 16 - 31 มีนาคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น