ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

‘แด๊กซิน’ ติดปีกบินปี’55 ผงาดล่ายอดขายข้ามแดน



“แด๊กซิน” ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ ครบรอบ 16 ปี...ติดปีกขยายอาณาจักรต่างแดน หวังกินรวบพื้นที่ประเทศใกล้เคียง สร้างการเติบโตทะยานสู่ธุรกิจขายตรงชั้นแนวหน้า...ลั่น! เพียง 2 ปีขย้ำยอดขายแดนเสือเหลืองมาเลเซีย เติบโตพุ่งกระฉูด อุดยอดสะดุดช่วงน้ำท่วมไทย...กางตำราวางระบบโนฮาว รองรับเปิดเสรีประชาคมอาเซียน พร้อมเตรียมแผนขยายตลาดลุยขยายอาณาจักรในต่างแดน...!!!
“ทวีศักดิ์ อับดุลบุตร” ประธานกรรมการ บริษัท แด๊กซิน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ตลาดวิเคราะห์” ว่า ในปีที่ผ่านมา แม้บริษัทฯ จะเผชิญกับภาวะวิกฤติน้ำท่วม แต่ก็ทำให้ธุรกิจสะดุดเพียงเล็กน้อย ไม่กระทบกับยอดขายมากนัก ขณะเดียวกัน ยอดขายในต่างประเทศก็เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมาเลเซีย ที่เปิดดำเนินการมาได้เพียง 2 ปี แต่สามารถทำให้ยอดเติบโตมาช่วยยอดขายในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผลตอบรับในเรื่องของ ปุ๋ย ซึ่งสินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับกลับมาเป็นอย่างดีในประเทศมาเลเซีย
“ในปีที่ผ่านมา แม้บริษัท จะเผชิญกับภาวะน้ำท่วมเหมือนกับบริษัทอื่นๆ แต่ก็ทำให้ยอดขายสะดุดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และถือเป็นความโชคดี ที่ธุรกิจของแด๊กซิน เติบโตได้ดีที่มาเลเซีย จนทำให้ยอดในส่วนของมาเลเซียเข้ามาช่วยแด็กซินในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้แด๊กซิน มีอัตราการเติบโตที่ดีในมาเลเซีย เป็นผลมาจากสินค้าที่มีคุณภาพ และมีราคาที่ถูกกว่า สินค้ารายอื่นๆ ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ส่วนการเติบโตของนักธุรกิจในปัจจุบัน บริษัทสามารถผลิตผู้ที่ประสบความสำเร็จ และมีรายได้ที่ยั่งยืนกับบริษัท เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีคนที่ประสบความสำเร็จมีตำแหน่งสูงสุดมากกว่า 300 คน ซึ่งทุกคนล้วนแต่มีรายได้ที่ยั่งยืนกับบริษัทฯ แทบทั้งสิ้น
ด้าน “รูสลี กูนา” รองประธานกรรมการ บริษัท แด๊กซิน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ตลาดวิเคราะห์” ว่า ภาพรวมธุรกิจแด๊กซินในปี 2554 ที่ผ่านมาว่า ในช่วงที่ผ่านมายอดขายของบริษัทฯ เรียกได้ว่ายังไม่ถึงเป้าหมายตามที่วางไว้เท่าไหร่ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยลบหลายๆ อย่างเข้ามากระทบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ หรือในเรื่องของวิกฤติน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจัยลบเหล่านี้ไม่สามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ ซึ่งแด๊กซินนั้น กระทบตั้งแต่ภาคเหนือลงมา รวมถึงภาคกลางและในส่วนของกรุงเทพฯ ซึ่งสาเหตุที่บริษัทฯ ได้รับผลกระทบนั้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้หันมาเน้นสินค้าทางด้านการเกษตรค่อนข้างมากนั่นเอง
“ปี 2554 นี้ ต้องบอกว่ายอดขายอาจจะไม่สวยหรู แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ อยู่ในระดับกลางๆ เกือบถึงเป้า ซึ่งถือว่ายังพอรับได้ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่หากเปรียบเทียบยอดขายกับปี 2553 นั้น ถือได้ว่ายังน้อยกว่า ที่สำคัญ ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาในเรื่องของน้ำท่วมค่อนข้างส่งผลกระทบทางด้านการขนส่งอย่างมาก แต่ขณะนี้ทุกอย่าง ได้กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติแล้ว โดยคาดว่าประมาณช่วงปลายเดือนมกราคม 2555 กำลังซื้อทุกอย่างน่าที่จะเริ่มดีขึ้นด้วยเช่นกัน”
ในช่วงเดือนมีนาคม 2555 นี้ ทางบริษัทฯ ได้เตรียมที่จะจัดงาน Expo ขึ้นด้วย โดยงานนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ที่สำคัญงานนี้ยังจะมีการมอบโปรโมชั่นให้กับสมาชิกมากขึ้นด้วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานแก่สมาชิกนั่นเอง
เมื่อถามถึงทิศทางธุรกิจขายตรงในปี 2555 นี้ จะเป็นเช่นไรนั้น นายรูสลี ได้ให้ความเห็นว่า โดยส่วนตัวมองว่าทิศทางของธุรกิจขายตรงในปี 2555 นั้น น่าที่จะดีขึ้น เพราะในปี 2554 ที่ผ่านมา ค่อนข้างที่จะเกิดผลกระทบเยอะ ทั้งสมาชิกและบริษัทเอง ต่างมีรายได้ที่ลดลง ฉะนั้นเชื่อว่าในปี 2555 ทั้งสมาชิกและหลายๆ บริษัท ต้องพยายามผลักดันตัวเอง รวมถึงการสร้างยอดขายให้มากขึ้น เพื่อเติมเต็มยอดขายที่ขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมาอย่างแน่นอน และทำให้ภาพรวมธุรกิจขายตรงในปี 2555 นี้ ก็น่าที่จะกลับมาคึกคักมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“สำหรับปัจจัยลบที่คาดว่าจะมากระทบธุรกิจ มองว่าคงจะเป็นในส่วนของทางด้านเศรษฐกิจ เพราะในขณะนี้ ปัญหาเศรษฐกิจโลกกำลังคืบคลานมาหาเรา แต่ยังไม่ชัดเจนมากนัก เห็นได้จากทางด้านยุโรปและอเมริกาก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลให้เชื่อมโยงมาถึงภาคการส่งออกของประเทศไทยด้วย ที่คาดว่าน่าที่จะได้รับผลกระทบเช่นกัน นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ซื้อ และผู้บริโภคที่ไม่มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เขาก็ไม่คิดที่จะบริโภคในสิ่งที่เกินตัว ซึ่งอาจจะกระทบในตรงจุดนี้ด้วยเช่นกัน ที่ทำให้กำลังซื้ออาจจะลดลงด้วย”
สำหรับจุดเด่นจุดขายของ บริษัทฯ คือ เรื่องของสุขภาพ เนื่องจากจุดเริ่มต้นของ ธุรกิจแด๊กซิน เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพเห็ดหลินจือ หลังจากนั้น ก็เริ่มมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพหลายๆ ตัวออกมาสอดรับกับตลาด และสนองความต้องการให้กับสมาชิก รวมทั้งการที่บริษัทฯ เน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพเป็นหลัก พร้อมทั้งมีสินค้าตัวใหม่คือ ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพออกมาให้ลูกค้าและสมาชิก
ด้าน “บัณฑิต อับดุลบุตร” ผู้จัดการทั่วไป สาขามาเลเซีย เปิดเผย “ตลาดวิเคราะห์” ว่า ตลาดมาเลเซียของแด๊กซิน เติบโตในทิศทางที่ดี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำตลาดที่รัดกุม และสินค้าที่มีคุณภาพของบริษัท สามารถเจาะตลาดได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในเรื่องของปุ๋ยที่ได้รับผลตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี
สำหรับพื้นที่ของตลาดปุ๋ยในมาเลเซีย ส่วนใหญ่พื้นที่ของประเทศนี้ จะเป็นเกษตรกรเหมือนในประเทศไทย โดยในช่วงแรกจะคุ้นเคยกับปุ๋ยเคมี และบริษัทฯ ได้พยายามที่จะเข้าไปนำเสนอสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ที่จะเข้าไป เพิ่มอินทรีย์ในดิน ทำให้ดินดีขึ้น ดินร่วนซุยเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าและเกษตรกรชาวมาเลเซีย ให้การตอบรับกับสินค้ากลับมาเป็นอย่างดี
สำหรับรูปแบบในการเจาะตลาดในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของบริษัทฯ จะมีการทำรีเสิร์ช ถึงการตอบรับของผลิตภัณฑ์ ซึ่งประเทศไทยมีสินค้าที่ดี และมีคุณภาพกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ทำให้สามารถเจาะเข้าไปในตลาดต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น และปัจจุบันบริษัทฯ มีแผนที่จะบุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่
“การเจาะตลาดต่างประเทศ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ทางบริษัทฯ มอง เพราะจะสามารถเพิ่มรายได้และยอดขายให้บริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น โดยลักษณะการทำตลาดในต่างประเทศ เราจะทำการศึกษาและวิจัยก่อนเข้าไปทำตลาด เช่น ลาว เราจะทราบว่าเป็นประเทศที่ด้อยกว่าเรา แต่สิ่งที่คนตั้งแง่คือ ประเทศดังกล่าว จะมีเงินในกระเป๋าซื้อสินค้าหรือไม่ แต่หากใครได้ไปลาว จะพบว่า 2 ข้างทางเต็มไปด้วยรถราคาแพงแทบทั้งสิ้น นั่นแสดงว่า ประชากรในประเทศ ไม่ได้จนอย่างที่คิด หากเราสามารถสร้างความประทับใจในตัวสินค้าได้ เราก็จะสามารถเจาะตลาดนี้ได้เช่นเดียวกัน”
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมในเรื่องของโนฮาว เพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมอาเซียนที่จะมีขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเชื่อว่า ข้อดีของการเปิดประชาคมอาเซียน จะทำให้การติดต่อการค้าในกลุ่มต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวก โดยไม่มีข้อกีดกันด้านภาษี แต่ข้อเสีย คือจะทำให้มีคู่แข่งมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่บริษัทฯ กำลังเตรียมความพร้อมคือ เรื่องระบบในการซัพพอร์ต ส่วนในเรื่องคุณภาพของสินค้า บริษัทฯ มีความพร้อมอยู่แล้ว ที่จะแข่งขันกับประเทศในอาเซียน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 316 ประจำวันที่ 16 - 31 มีนาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น