ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตลาดความงามร้อนฉ่า!ขายตรงงัดของชิงเค้กหมื่นล้าน!



ตลาดความงามยังคึกคักติดลมบน แบรนด์ใหม่ แบรนด์เก่า ระดมสมองสรรค์สร้างนวัตกรรมมัดใจผู้บริโภคฝุ่นตลบ “แอมเวย์” ทุ่มหนัก ดึง 2 ดาราระดับโลก และเอเชีย สร้างความมั่นใจ กระตุ้นยอดขายสินค้ากลุ่ม “อาร์ทิสทรี” ด้าน “นู สกิน” จับลูกค้า กลุ่มเดิมปั้นยอดขายเต็มสูบ “เอวอน” ขอเอี่ยวจับลูกค้ากลัวแก่ด้วยอีกแบรนด์

กลุ่มสินค้าด้านความงามจัดได้ว่า เป็นอีกกลุ่มสินค้าขายดีของบรรดาบริษัทขายตรง ซึ่งไม่ว่าแบรนด์เล็กหรือว่าแบรนด์ใหญ่ ก็พยายามที่จะใช้กลุ่มสินค้ากลุ่มนี้ เป็นอาวุธในการสร้าง เม็ดเงิน ซึ่งยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร ก็ต้องยอมรับว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับธุรกิจขายตรง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า ด้านความงาม จนหลายผลิตภัณฑ์ต้องหาวิธี เนรมิตสินค้าเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อชิงมูลค่าตลาดก้อนมหึมานี้

>>แอมเวย์ จัดหนักดึงดาราระดับโลกดันสินค้า

นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศ ไทย)จำกัด เปิดเผยว่า นอกจากการเสริมความแข็งแกร่งด้านภาพลักษณ์แบรนด์ พรีเมี่ยมระดับโลกแล้ว ประเทศไทยได้เตรียม แคมเปญใหม่ที่จะบุกตลาดความงาม โดยได้เชิญนักแสดงสาวฉายาเจ้าหญิงแห่งซีรี่ส์เกาหลี และอดีตสมาชิกวงเกิร์ลแบนด์ชื่อดัง Baby V.O.X ได้แก่ ‘ยุน อึน เฮ (Yoon Eun Hye)’ มาเสริมทัพเป็นพรี-เซ็นเตอร์ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาร์ทิสทรี เพียวไวท์ ใน 3 ประเทศ คือ ไทย ไต้หวัน และจีน โดยยุน อึน เฮ นั้น มาพร้อมด้วยบุคลิกที่โดดเด่นและเปล่งประกายความเชื่อมั่นสู่คนรอบข้างตลอดเวลา ด้วยผิวขาวเนียน กระจ่างใส เป็นที่ใฝ่ฝันของหญิงสาวเอเชีย”

“สำหรับแอมเวย์ประเทศไทยเตรียมแคมเปญสำหรับเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้ง 2 ท่านอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดทั้งสำหรับกลุ่มนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภคที่จะมีการจัดขึ้น ภายในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยจะเปิดตัวยุน อึน เฮ พร้อมผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรี เพียวไวท์ ใน ไตรมาสที่สองของปีนี้ และเปิดตัว เทเรซา พาล์มเมอร์ ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแอมเวย์มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างแน่นอน” นางรัตนา กล่าวทิ้งท้าย

>>นูสกิน ล็อกลูกค้ากลัวเหี่ยว

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 15 ของนู สกิน ในปี 2555 นี้ นางภคพรรณ เปิดเผยว่า เป้าหมาย การเติบโตของ นู สกิน ประเทศไทย ยังคง เดินตามแนวนโยบายของบริษัทแม่ เกี่ยวกับ การศึกษาวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตลอดจนการแสดงจุดยืนในการเป็นผู้นำด้านต่อต้านความเสื่อมชราให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุด บริษัทแม่ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 350 ล้านบาท ในการครอบครองลิขสิทธิ์กิจการสถาบันวิจัยพันธุวิศวกรรมไลฟ์เจนเทคโนโลยี เพื่อเป็นเจ้าของ ผลงานวิจัยและการค้นคว้ารหัสพันธุกรรม หรือยีน

“นู สกิน จะเป็นผู้เดียวที่ได้กรรมสิทธิ์ ในการครอบครองทรัพย์สินทางวิทยาศาสตร์ ของสถาบันไลฟ์เจน ในการนำผลงานวิจัยมา ต่อยอดพัฒนาเป็นเทคโนโลยีเอจล็อก และ ผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชรา ซึ่งใช้เวลา ศึกษามากว่า 30 ปี ในการชี้เฉพาะกลุ่มยีน ที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมชรา ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจอีกขั้นของ นู สกิน”

ในปีนี้บริษัทจึงมีแผนกลยุทธ์สำคัญเพื่อเตรียมตัวขับเคลื่อนธุรกิจครองความเป็นผู้นำ แห่งตลาดต่อต้านความชรา ซึ่งแผนงานเรื่องแรก ประธานกรรมการบริหาร นู สกิน ประเทศ ไทย กล่าวว่า คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เป็นไฮไลต์ในกลุ่มต่อต้านความเสื่อมชรา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เอจล็อค อาร์สแควร์” และ“เอจล็อค กัลป์วานิค บอดี้ ซิสเต็ม” โดยจะเปิดจำหน่ายให้กับผู้แทนจำหน่ายในระดับผู้บริหารขึ้นไปในไตรมาสที่ 1 นี้ และจะเปิดตัวอย่างเป็น ทางการอีกครั้งภายในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าหลังจาก ที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้เทคโนโลยีเอจล็อกนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วจะสามารถ สร้างยอดขายให้เติบโตตามเป้า สามารถปิดยอดขายที่ 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2558 อย่างแน่นอน

>>เอวอน โดดแจมกระเป๋าสาว 2 พันปี

นางวัลลภา นฤนาทวานิช กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า “ล่าสุด ใน กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและต่อต้านริ้วรอย แห่งวัยอย่าง Anew Genics ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริหารกลุ่มและผู้จำหน่ายอิสระ อย่างมาก ทำให้ยอดการซื้อสูงกว่าที่ประมาณ การไว้ถึง 185% แม้กระทั่ง กลุ่ม Non-Beauty อย่างชุดชั้นในและเครื่องประดับใน ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาก็สามารถสร้างยอดขายได้อย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะในกลุ่ม เครื่องประดับที่บริษัทสามารถสร้างยอดขาย ได้มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 7% ส่งให้ เอวอน ประเทศไทย ได้รับรางวัล APAC’s Best ประจำเดือนกรกฎาคมและธันวาคม ในฐานะ ประเทศที่ทำรายได้ และผลกำไรสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

“ซึ่งในโอกาสฉลองครบรอบ 125 ปีของบริษัทในปี 2555 นี้ เอวอนจึงได้กำหนด แผนกลยุทธ์ให้ปีนี้เป็นปีแห่ง The Best Breakthrough โดยกลยุทธ์หลักๆ จะเน้นการส่งเสริมตลาดในกลุ่มบิวตี้ ซึ่งจะมีการ นำเสนอนวัตกรรมด้านความงาม ในทุกกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกที่จะนำออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ คือ กลุ่มบำรุงผิวและ ต่อต้านริ้วรอย โดยจะนำร่องเปิดตัว ANEW Genics (เอนิว จีนิคส์) นวัตกรรมความงาม ของเอวอนกับสุดยอดเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของเอวอน YouthGenTM Technology (ยูธเจ็น TM เทคโนโลยี) ซึ่งทีมค้นคว้าและ วิจัยของเอวอนในสหรัฐอเมริการ่วมกับมหาวิทยาลัยคาลาเบรีย ในประเทศอิตาลี ได้ศึกษาเรื่องคุณสมบัติในร่างกายมนุษย์ที่เป็นตัวกำหนดความอ่อนเยาว์และการมี อายุที่ยืนยาว ถือเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ ของเอวอน

กลุ่มถัดมา คือ กลุ่ม Mass Skincare เอวอนเตรียมส่ง AVON Solutions พร้อม กับนวัตกรรมที่พิสูจน์ได้ถึงประสิทธิภาพของ การบำรุงผิวที่ต้องการการดูแลที่ต่างกัน ใน 3 ความต้องการของผิว 1.เพื่อเติมความ ชุ่มชื่นให้กับผิวด้วย Hydra Radiance 2.เน้นการรักษาสมดุลให้ผิว ควบคุมความมันและมอบความชุ่มชื้นที่พอเหมาะด้วย Complete Balance และ 3.เน้นการดูแล ผิวขาวกระจ่างใส สุขภาพดี ด้วย Refine White ซึ่งพร้อมนำเสนอให้กับผู้หญิงไทยใน ไตรมาสที่ 2

กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่ม Naturals Skincare ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าด้วยพืชพรรณ ธรรมชาติในราคาประมาณ 89-169 บาท ที่ ได้นำเสนอสู่ตลาดล่าสุด ซึ่งสามารถสร้างยอดขายให้บริษัทในเดือนกุมภาพันธ์เติบโต กว่าเป้าหมายถึง 7%” นางวัลลภา กล่าว“ปีนี้ เอวอน ประเทศไทย ยังมุ่ง เน้นการขยายตลาดด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสีสันและเครื่องประดับอีกด้วย โดยเฉพาะนวัตกรรมแฟชั่นสำคัญอย่างลิปสติก Shine Attract ซึ่งจะนำออก ตีตลาดในช่วง Summer นี้ ลิปสติกดังกล่าว มีคุณสมบัติที่ให้สีสันตรงแกนกลางและห่อหุ้มด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มอบความชุ่มชื้น และแวววาวให้กับเรียวปาก ถือเป็นอีกหนึ่ง นวัตกรรมความงามจากเอวอน

ส่วนกลุ่มเครื่องประดับที่มียอดการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ปีนี้เอวอน ประเทศไทยจึงตัดสินใจเลือก ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ มาเป็น Celebrity Model ในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่ากลุ่มสินค้า ทั้งสองจะเป็นกำลังหลักครั้งใหม่ในการสร้าง ความสำเร็จให้กับบริษัท นอกจากนี้ ในกลุ่ม Hair Salon บริษัทก็ได้วางแผนแนะนำสินค้า ใหม่ให้กับตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทรุกตลาดและประสบความสำเร็จกับการเปิดตัว Advance Techniques ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ นอกจาก 3 แบรนด์ที่ยกมา ยังมี บริษัทขายตรงอีกหลายสิบแบรนด์ ที่พยายาม ใช้สินค้ากลุ่มความงามเป็นตัวดูดลูกค้า และ สร้างแบรนด์ ซึ่งจากมูลค่าการตลาดหลาย หมื่นล้านของกลุ่มสินค้าด้านความงาม นั่นคือ สิ่งที่ยั่วใจที่แบรนด์ขายตรงขอมีส่วนในเค้กก้อนโตนี้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1284 ประจำวันที่ 17-3-2012 ถึง 20-3-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น