ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

‘TSDA’ รุดหน้าเชิงนโยบาย แตะมือ‘สคบ.’ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน!



รมต.ประจำสำนักนายกฯ ผู้กำกับดูแลธุรกิจขายตรง “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” ไฟเขียว อนุมัติให้ “สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย (TSDA)” ร่วมมือกับ “สคบ.” เปิดนโยบายเชิงรุก เป็นแม่งานจัดประชุมธุรกิจขายตรงไทยสู่เวทีอาเซียน โชว์ศักยภาพ 10 ประเทศร่วมจอย...หวังสยายปีกเปิดทางให้กลุ่มสมาชิกในสมาคมเปิดตลาดอาเซียนโดยสะดวกโยธี...ด้าน “อนุวัฒน์” นายกสมาคมฯ เปิดใจ พร้อมร่วมเดินทางเดียวกับสมาคมอื่น เพื่อเติมเต็มความแกร่งธุรกิจก่อนเปิดประชาคมอาเซียนปี 2558
นายนิโรจน์ เจริญประกอบ เลขาธิการ สำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านสถานี INTV ที่ถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ต ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 ว่า การยกระดับขายตรงไทยก้าวสู่เวทีอาเซียนในปี 2558 นี้ วันนี้จริงๆ สคบ.ไม่ได้ดูแลเฉพาะในเมืองไทยแล้ว มีโอกาสที่จะผลักดันเวทีไทยสู่เวทีอาเซียน ที่ประชาคมอาเซียน 2558 ก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ก็มีแนวทางที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี ทาง สคบ. เองพยายามที่จะเตรียมความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการประชุมสมาชิก อาเซียน 10 ประเทศ ภายในเดือนกันยายน 2555 ในประเด็นคุ้มครองผู้บริโภคในภาพรวมของอาเซียน ก็แสดงว่ามีโอกาสที่ขายตรงไทยยกระดับสู่อาเซียนแข่งกันในเวทีอาเซียนได้เลย
10 ประเทศนี้เป็นการประชุมของ สคบ.แสดงความเป็นเจ้าภาพการคุ้มครองผู้บริโภคในนามของประเทศไทย กลุ่มประเทศอาเซียนที่มาเข้าร่วมประชุม ก็จะมีรูปแบบอยู่แล้ว เราจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนกันยายนนี้ ในเวทีการประชุมอาจจะมีการเสนอในหลายๆ รูปแบบ ทั้งในเรื่องของการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านสินค้า หรือบริการข้ามแดน ในเรื่องของความเสียหายที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ควรที่จะได้รับการแก้ไขปัญหานี้อย่างไรบ้าง สิทธิของผู้บริโภคกลุ่มอาเซียนควรที่จะได้รับการแก้ไขอย่างไร หรือประเภทของสินค้าที่มีวางจำหน่ายอยู่ในประเทศสมาชิกกลุ่มอาเซียน ควรที่จะมีมาตรฐานมีคุณภาพอย่างไร
ตรงนี้จะทำให้ธุรกิจขายตรงขยายตลาดครอบ คลุมอาเซียนได้หรือไม่ อย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ คงจะต้องมีการวางแผนร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเอกชน ทางสมาคมต่างๆ จะต้องเป็นคนผลักดัน เพราะเป็นผู้ที่จะนำเสนอบทบาทตรงนี้สู่ภาคเอกชน
ด้านความคืบหน้าเรื่องการจดทะเบียนเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนยื่นจดทะเบียนแค่ 100 กว่าบริษัท ในปัจจุบันนี้สมาชิกที่มาจดทะเบียนกับ สคบ.เอง โดยเฉพาะธุรกิจขายตรงมีมากถึง 700 กว่าบริษัท ถึงแม้การบริหารกิจการจริงๆ แล้วอาจจะไม่ถึง แต่ว่ามีการประกอบธุรกิจไปได้ดีมากยิ่งขึ้นและทุนหมุนเวียนในธุรกิจขายตรงก็ประมาณ 65,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่สูง คิดว่าแนวโน้มการประกอบธุรกิจขายตรง จะเป็นเรื่องของพัฒนาการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะมันมีปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจในสินค้าที่มีผู้นำมาเสนอขายถึงบ้าน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน
ด้านนายนพปฎล เมฆเมฆา รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจขายตรงก่อนจะขยับตัวเข้าสู่เวทีอาเซียน ว่า สมาชิกในธุรกิจขายตรงรู้สึกเข้มแข็งตกผลึกเป็นแผ่นเดียวกัน ก็มองว่าธุรกิจขายตรง คนเพิ่มขึ้นทุกปีและยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี หลังจากที่เข้ามาสัมผัสกับธุรกิจขายตรงยังไม่เคยเห็นปีใดที่ลดต่ำลง คงมีแต่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนเข้าสู่ระบบมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าธุรกิจขายตรงนั้นเป็นธุรกิจที่สร้างเงิน สร้างคน ทำให้มีรายได้ มีฐานะ สร้างชาติ เพราะคนเข้มแข็ง ธุรกิจเข้มแข็ง ประเทศชาติก็เข้มแข็ง
เมื่อธุรกิจขายตรงเข้มแข็ง ฯพณฯ วรวัจน์ เอื้อภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับและดูแลรับผิดชอบหน่วยงาน สคบ. ท่านบอกว่าให้ทำงานให้เต็มที่เรื่องงบประมาณไม่เป็นปัญหา ท่านสนับสนุนเต็มที่ คิดว่าสุดท้ายธุรกิจขายตรงบางส่วนที่ไม่ได้ไปสังกัดกับสมาคมขายตรงโลก ก็น่าจะรวมตัวกันในกลุ่มอาเซียน หลายๆ บริษัทที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมขายตรงโลก ก็มีโอกาสที่จะมาจับกลุ่มกันในกลุ่มของอาเซียน เพราะว่าอย่างน้อยบทบาทของภาครัฐ ต้องเป็นผู้นำในส่วนของภาคธุรกิจขายตรง ในการออกไปจัดโรดโชว์ในต่างประเทศที่ยังไม่ค่อยมีการพัฒนาธุรกิจขายตรงเท่าไหร่อย่างอาเซียนด้วยกันเอง เราอาจจะเริ่มต้นที่กัมพูชา ไปดูกัมพูชาว่ามีกฎหมายกำกับดูแลธุรกิจขายตรงหรือไม่ อย่างไร ภาคเอกชนจะเข้าไปเปิดตลาดจะมีการแนะนำหรือไปทำกันอย่างไร
ฉะนั้น โอกาสที่จะจัดโรดโชว์กลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ คิดว่าช่วงเวลานี้อีกประมาณ 1-2 เดือน จะไปกัมพูชา เพราะว่าทางสมาคมพัฒนาขายตรงไทยก็สนับ สนุนงบประมาณเต็มที่ในส่วนนี้ เนื่องจากมองว่าธุรกิจขายตรงในปัจจุบันเป็นที่น่าเชื่อถือของพี่น้องประชาชน ถ้าพี่น้องประชาชนสนใจที่จะทำธุรกิจขายตรง ก็คิดว่าไม่ผิดหวัง อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนอาจจะสอบถามไปยัง สคบ.ก่อนว่าบริษัทนี้เป็นอย่างไร เคยถูกร้องเรียนหรือเปล่าเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
ด้านนายอนุวัฒน์ ธรมธัช อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและนายกสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย กล่าวถึงก้าวต่อไปนอกเหนือจากเรื่องอาเซียนแล้วท่านเลขาธิการสมาคมมีแผนงานต่อไปหรือไม่ อย่างไร สิ่งที่เรามองคิดว่าเมื่อมีบทบาทแล้วก็ทำให้เกิดการรวมตัวกันได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าในแต่ละสมาคมอาจจะมีการรวมตัวกันได้หรือไม่ ถ้าร่วมกันได้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่จะเป็นความคาดหวัง เพราะในโลกของความร่วมมือ ถ้าอะไรที่สามารถเป็นแนวทางเดียวกัน วัตถุประสงค์เหมือนกัน มีความตั้งใจอยากให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน คิดว่าก็มีความเป็นไปได้ เพราะการรวมตัวไม่ได้มีอะไรที่เสียหาย
ดร.สมชาย หัชลีฬหา เลขาธิการ สมาคมพัฒนา การขายตรงไทย ผู้ริเริ่มโครงการผลักดันธุรกิจขายตรงไทยสู่เวทีอาเซียน เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า การที่เราจัดสัมมนาฝึกอบรมมาตรฐานอาชีพขายตรงครั้งที่ 1 สมาชิกในสมาคมซึ่งมี 14 บริษัท ก็ได้เรียกร้องให้มีการจัดอบรม เพราะว่าอยากจะทำให้ธุรกิจขายตรงเป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ก็ได้มีการจัดเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับกฎ หมายขายตรงที่ถูกต้อง การมีจรรยาบรรณต่อผู้บริโภค ต่อผู้จำหน่าย และผู้ประกอบ ธุรกิจ รวมทั้งการทำอย่างไรที่จะยกมาตรฐานของการทำขายตรงให้เป็นที่ชื่นชมและได้มาตรฐานทางเดียว กัน ได้ร่วมมือกับสถาน การณ์คุ้มครองผู้บริโภค นำวิทยากรมาอบรม จัดบรรยาย และให้ความรู้ หลักๆ ที่อยากจะเน้นคือว่า ผู้จำหน่ายอิสระมีจรรยาบรรณที่ดีที่ถูกต้องแล้ว เราก็มีโครงการที่จะนำการขายตรงออกไปสู่ประเทศอาเซียนใน 10 ประเทศ ตามนโยบายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ได้วางแนวทางไว้
สิ่งที่เราวางแผนและมองไปข้างหน้า ก็คือ ในกรอบความร่วมมือของอาเซียนที่เกิดขึ้น 3 ปีข้างหน้า วันนี้เราก็ไม่ได้นั่งเฉย พูดถึงนโยบายอะไรที่เป็นกิจกรรมเป็นรูปแบบแผน กลยุทธ์ สิ่งที่เราทำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จากการเริ่มก่อตั้งสมาคม เราก็คิดว่าเราอยากผลักดันและยกระดับมาตรฐานของบริษัทขายตรงที่อยู่ในสมาคมด้วยกันให้เป็นที่ยอมรับ ทำให้เป็นที่เชื่อถือของผู้บริโภคด้วย อาทิ การที่เราจะทำให้บทบาทบริษัทเหล่านี้เป็นที่ยอมรับ ก็คือ การที่เราสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรอบกฎหมาย ทั้งร่วมมือกับภาครัฐ พร้อมทั้งนำนโยบายเชิงรุกร่วมมือกับภาครัฐในการประสานงานธุรกิจขายตรงไปสู่อาเซียน
เพราะฉะนั้นเราก็มีนโยบายที่เร่งด่วนการบุกอาเซียนในการทำลักษณะเชิงรุก โดยการไปทำเรื่องของการประชาสัมพันธ์ เรื่องโรดโชว์ คือว่า การเอาเรื่องของขายตรงไปขอความอนุเคราะห์ ไปจับมือร่วมกัน วันนี้ธุรกิจขายตรงเราได้รับการยอมรับ ภาครัฐให้การรับรองให้อยากไปทำธุรกิจต่างประเทศ ก็สามารถที่จะเอาสินค้า เอาบริการ เอาบริษัทไปเปิดสาขาต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นการร่วมมือกัน ต้องให้ภาครัฐต่อภาครัฐเป็นการประสานงานกัน เพราะฉะนั้นเราก็มีนโยบายที่พัฒนาธุรกิจ แล้วก็ยกระดับธุรกิจของบริษัทขายตรงให้สู่มาตรฐานสากล จัดมาตรฐานของบริษัทให้เป็นที่ยอมรับ โดยการรับรอง ให้ใบอนุญาต ให้ใบที่เป็นใบเกรด ใบการันตี สำนักงานเรียกว่าให้เป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทที่มีมาตรฐาน พร้อมทั้งเปิดประตูสู่อาเซียนได้ อาจเป็นเรื่องที่โน้มนำและไปแสดงบทบาทความเป็นผู้นำในอาเซียน
โดยเดือนกันยายนนี้เราจะมีการระดมอาเซียนมาจัดงานร่วมกัน แต่เริ่มต้นจากการที่เราเชื้อเชิญก่อน ไปเยี่ยมเยือนก่อน ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็ยากเหลือเกินที่ผู้คนในอาเซียนจะมองเห็นว่า อะไรที่จะเป็นแบบอย่าง สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นวิวัฒนาการเรื่องของความร่วมมือมันจะนำไปสู่การปฏิบัติ เชื่อว่าคงไม่นานนี้ที่เราจะเดินต่อไปสู่ตลาดอาเซียนด้วยกัน
เพราะวันนี้ขายตรงมีรูปแบบที่ชัดเจน ก็สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรม เป็นแนวทางที่จะผลักดันที่ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคให้ทุกคนเข้าใจในสังคมว่าวันนี้ธุรกิจขายตรงสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ที่ผ่านมาคนอาจจะไม่เข้าใจว่าจะเชื่อถือได้หรือไม่ วันนี้สิ่งที่สมาคมกระทำ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นผลักดันให้เกิดคำว่า มาตร ฐาน ความมีมาตรฐานของผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจนำสินค้าไปบริการที่ดีมีคุณภาพ ความพึงพอใจของผู้บริโภคสู่สังคมไทยและไปสู่สังคมอาเซียนในที่สุด

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 316 ประจำวันที่ 16 - 31 มีนาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น