ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขายตรงข้ามชาติขย่มเครือข่ายไทย แผลงฤทธิ์พลิกกลยุทธ์สู้ศึกปลายปี







MLM (Mobile)

 


ซูมทิศธุรกิจขายตรงข้ามชาติ พบหลายค่ายเร่งเครื่องโชว์ศักยภาพดึงคนร่วมธุรกิจเพียบ...ด้าน “เจอเนสส์” จัดงานประชุมนานาชาติปลุกความเชื่อมั่นธุรกิจตื่น...“เออาร์เอส” ขายตรงสัญชาติมาเลเซีย เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการสิ้นปีนี้ หลังซุ่มเงียบมากว่า 10 เดือน พร้อมชูจุดแข็งแผนการตลาดที่ไม่เหมือนใคร...ส่วน “ซินเนอร์จี้” เร่งสร้างผู้นำออโต้ชิพ 100 คนต่อเดือน ป้องกันการขายตัดราคา...ด้านขายตรงน้องใหม่ “EPIC” บริษัทในเครือ Berjaya Group ประเทศมาเลเซียบุกไทย พร้อมได้มือดี “ชัยวัฒน์” ปลุกกระแสธุรกิจในไทยหวังแจ้งเกิด


เข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เรียกว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายในการทำธุรกิจของหลาย ๆ ธุรกิจเลยก็ว่าได้ เฉกเช่นเดียวกับ “ธุรกิจขายตรง” ที่ ณ ช่วงเวลานี้จะเริ่มเห็นหลาย ๆ ค่าย ต่างออกหมัดออกอาวุธสร้างความน่าเกรงขามออกมาอย่างมากมายเลยทีเดียว!!


ที่สำคัญ วันนี้หากพูดถึง “ธุรกิจขายตรง” โดยเฉพาะ “ขายตรงข้ามชาติ” คงต้องบอกว่า กระแสของความเร้าร้อนในช่วงปีนี้ไม่ค่อยจะเห็นภาพความหวือหวาออกมาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการขายตรงเท่าที่ควร เรียกว่าค่อนข้างที่จะเงียบเหงาไปพอสมควร เหมือนเช่นดั่ง “ขายตรงสัญชาติไทย”


...ปักษ์นี้ “ตลาดวิเคราะห์” ขอซูมความเคลื่อนไหวของ “ธุรกิจขายตรงข้ามชาติ” ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ว่าแต่ละค่ายมีความเคลื่อนไหวของธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง ที่สำคัญ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ แต่ละค่ายมีทีเด็ดออกมาสู้ศึกกันมากน้อยแค่ไหน?...


 ผ่าแผนรบขายตรงข้ามชาติ


โชว์ศักยภาพกลบกระแสธุรกิจนิ่ง


...เริ่มต้นกันที่ความเคลื่อนไหวของธุรกิจขายตรงข้ามชาติอย่าง “เจอเนสส์” ขายตรงสัญชาติอเมริกัน ก็ได้ออกมาประกาศรุกหนักในภูมิภาคอาเซียนด้วยการจัดงานการประชุมระดับนานาชาติครั้งแรกของเจอเนสส์ฯ ที่ประเทศไทย ภายใต้ชื่องาน “Jeuunesse Expo Thailand 2013” โดยได้มีการจัดขึ้นไปเมื่อช่วงวันที่ 5-8 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ รอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ที่ผ่านมา


โดยทางด้าน “มร.สก็อต เอ. ลิวอิส” Chief Visionary Officer และประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล ได้เผยถึงสาเหตุของการเลือกมาจัดงานประชุมใหญ่ในครั้งนี้ที่ประเทศไทยว่า เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสถานที่ในการจัดประชุม สถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งเชื่อว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางในการขยายธุรกิจสู่ตลาดอาเซียนอีกด้วย


ทั้งนี้ “มร.สก็อต” ยังมองอีกว่า ธุรกิจของเจอเนสส์ โกลบอล นับจากนี้ น่าที่จะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พบว่า มีการเติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยทั่วโลก และประเทศไทยยังถือเป็นประเทศที่ธุรกิจของเจอเนสส์มีการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคนี้อีกด้วย โดยมีอัตราการเติบโตเกินกว่าร้อยละ 10 นับตั้งแต่เจอเนสส์เปิดดำเนินธุรกิจในไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2554 นั่นเอง


“ต้องยอมรับว่า ธุรกิจขายตรงในอาเซียน มีการเติบโตถึง 9.7% ต่อปี ในปี 2555 ที่สำคัญ ยังในระดับที่สูงกว่าการเติบโตของตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5.4% โดยในประเทศไทย ธุรกิจขายตรง


มีมูลค่ารวมประมาณ 7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 6.22% ของมูลค่าธุรกิจเครือข่ายทั่วโลก และมีการเติบโต 7-10% ส่งผลทำให้บริษัทฯ เชื่อว่า ธุรกิจเจอเนสส์ในประเทศไทย น่าที่จะเติบโตได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน”


...นับได้ว่า เป็นอีกหนึ่งการสร้างความเชื่อมั่นของธุรกิจเจอเนสส์ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับการจัดงานประชุมระดับนานาชาติในครั้งนี้ที่เมืองไทยของค่าย “เจอเนสส์”


เช่นเดียวกับอีกหนึ่งความเคลื่อนไหว ของบริษัทขายตรงข้ามชาติอีกหนึ่งค่ายนั่นก็คือ ค่าย “ซินเนอร์จี้” ที่หลังจากเจอปัญหาในหลาย ๆ อย่างรุมเร้าธุรกิจ จนต้องทำให้มีการปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจอย่างฉับพลัน เพื่อต้องการเร่งสร้างยอดขายให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ โดยกลยุทธ์ในช่วงนี้ของ “ซินเนอร์จี้” ในการเพิ่มยอดขายนั้น พบว่า เป็นการกระตุ้นยอดซื้อต่อหัวจากเดิม 4,500-5,000 มาเป็น 7,000 บาทต่อคนต่อหัว พร้อมกับกลยุทธ์ในการเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่เข้ามา เพื่อต้องการทดแทนผู้นำเก่าที่ออกไปนั่นเอง


ในขณะเดียวกัน “ซินเนอร์จี้” เอง ยังได้มีการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาสมาชิกด้วยระบบออโต้ ชิพให้มีมากขึ้น ให้กับกลุ่มสมาชิกปัจจุบันที่มีจำนวน 400-500 คน ด้วยการให้สิทธิ์ในการซื้อสินค้าในราคาพิเศษ พร้อมกับมีแผนจะเพิ่มกลุ่มออโต้ชิพอีกจำนวน 100 คนต่อเดือน จากยอดสมาชิกใหม่ที่เข้ามา 500 คนต่อเดือนอีกด้วย


ส่วนนโยบายในการออกสินค้าใหม่ในปีนี้อีก 3 รายการที่ได้เคยประกาศไว้นั้น ทางค่าย “ซินเนอร์จี้” เอง ได้ออกมายอมรับว่า เป้าหมายที่วางไว้ในเรื่องของสินค้านั้น คงต้องมีการชะลอการออกสินค้าใหม่ไปก่อน ด้วยสาเหตุจากการติดปัญหาเรื่องการขออนุญาตนั่นเอง ส่งผลให้สินค้าที่ตั้งเป้าว่า จะออกในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ จึงไม่ทันตามกำหนด


ที่วางไว้...


...เช่นเดียวกับ อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของ “ธุรกิจขายตรง” ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ อย่างขายตรงน้องใหม่ข้ามชาติ ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยในช่วงนี้ นั่นก็คือ “บริษัท เออาร์เอส โกลบอล เน็ทเวิร์ค ไทยแลนด์ จำกัด” ขายตรงสัญชาติมาเลเซีย ที่มี “มร.นิคราซีซี เบ็น นิก อับดุลเลาะห์” นั่งกุมบังเหียนใหญ่อยู่ในขณะนี้ ก็ได้ออกมาประกาศเตรียมเดินหน้าปักธงรบในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นปีนี้...ซึ่งก่อนหน้านี้ค่ายนี้ได้มีการเข้ามาชิมลางในเมืองไทยมาแล้วกว่า 10 เดือนที่ผ่าน จนกระทั่งเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดขายตรงในเมืองไทย จนได้เตรียมที่จะ


เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นปีนี้นั่นเอง!...


โดยขายตรงน้องใหม่ค่ายนี้นั้น ได้มีการออกมาชูจุดแข็งของธุรกิจ ด้วยระบบการจ่ายผลตอบแทน ที่ค่ายนี้บอกว่า ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาและยังถูกพัฒนาต่อยอดอย่างไม่หยุดยั้ง ที่สำคัญยังประกาศอีกว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีการจ่ายผลตอบแทนให้แก่สมาชิกในระบบออโต้ ไม่ต้องรอ 15 วันอีกด้วย


ที่สำคัญ ยังพบอีกว่า ขายตรงสัญชาติมาเลเซียค่ายนี้ ยังเปรียบเทียบในเรื่องของราคาสินค้าที่ขายตรงบริษัทแม่ที่มาเลเซีย เมื่อนำมาขายในเมืองไทยจะมีราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย พร้อมกับในการลงรหัสจะสูงกว่าที่มาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งซิลเวอร์ มาเลเซียเปิดรหัสอยู่ที่ 2,400 บาท ได้สินค้าจำนวน 2 กล่อง แต่ที่ประเทศไทยเปิดรหัส 3,400 บาท ได้รับสินค้า 3 กล่อง เป็นต้น...เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการดึงคนเข้ามาสู่ธุรกิจเลยก็ว่าได้สำหรับค่ายน้องใหม่ค่ายนี้


…นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งขายตรงน้องใหม่ข้ามชาติประเทศมาเลเซีย ที่ชื่อ “EPIC” บริษัทในเครือของยักษ์ใหญ่ เบอร์จายา เข้ามาบุกตลาดเครือข่ายในเมืองไทยอีกด้วย ซึ่งบริษัทธุรกิจเครือข่ายในกลุ่ม Berjaya Group ประเทศมาเลเซียนั้น ยังมีบริษัท อีคอสเวย์ ประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในเครือของ Berjaya Group กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากมาเลเซียอีกด้วย


สำหรับการเข้ามาบุกตลาดไทยในครั้งนี้นั้น พบว่า มีผู้ที่เป็นหัวเรือหลักในการทำตลาดที่ประเทศไทยคือ “ชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์” ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชีย บริษัท อีพิค ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเครือข่ายข้ามชาติค่ายนี้นั้น ได้เริ่มออกสตาร์ทเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้แผนการตลาดแบบผสมทั้งแผนไบนารี่และแผนยูนิเลเวล


...“ขายตรง “EPIC” ถือเป็นบริษัทในเครือของ Berjaya Group ประเทศมาเลเซีย ที่มีบริษัท อีคอสเวย์ ร่วมดำเนินธุรกิจด้วย ซึ่งในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ ทางบริษัท “EPIC” และ อีคอสเวย์ จะใช้สินค้าตัวเดียวกันในการทำการตลาด พร้อมกับใช้สำนักงานแห่งเดียวกัน และหลังจากนี้ 3 เดือน คาดว่า “EPIC” จะมีสำนักงานแห่งใหม่เพื่อแยกตัวออกมาอย่างชัดเจนแน่นอน”...นายชัยวัฒน์ กล่าวและว่า


นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังเสริมต่ออีกว่า ขณะนี้ทางบริษัทแม่เองได้มีการให้เงินสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของ “EPIC” แล้วจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะใช้ในการพัฒนาธุรกิจในช่วง 6 เดือนนับจากนี้ พร้อมกันนี้ ทาง “EPIC” เอง ยังได้ตั้งเป้าที่จะมีสาขาภายในสิ้นปีนี้จำนวน 11 สาขาด้วยกัน รวมถึงการทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ อีก 8-9 รายการด้วยกัน


และจากการเข้าไปดูในหน้าเฟสบุ๊คของ “EPIC” พบว่า...ได้มีการเขียนข้อความที่ว่า...เตรียมพบกับ ปรากฏ การณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ระดมกำลังขุนพล..เครือข่ายทุกสารทิศ เข้าร่วมฟอร์มทีมต้นสาย บริษัทเครือข่ายระดับอินเตอร์ กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ คาดว่าต้นเดือนตุลาคมนี้...ด้วยเงินลงทุน มากกว่า 3,000 ล้านบาท กำหนดเปิดพร้อมกัน 10 ประเทศ ทั้งยุโรป และเอเซีย โดยบริษัทแม่ระดับโลกที่มีธุรกิจกว่า 200 บริษัทและหนึ่งในจำนวนนั้นคือ บริษัท คอสเวย์ (มาเลเซีย) จำกัด ซึ่งปัจจุบันมูลค่าทางการตลาด ในการส่งสินค้าทั่วโลกมาก กว่า 10,000 ล้าน จนนิตยสาร forbes จัดให้อยู่ 1 ใน 10 ของบริษัทที่มียอดการส่งออกสูงด้วยฐานการผลิตและความเชี่ยวชาญในระบบการจัดการที่ยอดเยี่ยม…พร้อมกับมีการชูในเรื่องของแผนการจ่ายผลตอบแทนที่สูง โดยจ่ายสูงสุด สัปดาห์ละ 30,000 us หรือ 1,050,000 บาท เดือนละ 4,200,000 บาท มีค่า แนะนำ หลายชั้นอีกด้วย


...ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทข้ามชาติที่กำลังจะมาสร้างกระแสความน่าสนใจให้กับตลาดขายตรงในเมืองไทยกลับมาคึกคักอีกหนึ่งบริษัทเลยก็ว่าได้...เพราะหากใครที่รู้จักนักบริหารงานเครือข่ายที่ชื่อ “ชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์” ดี คงจะรู้ว่านี้คือ “นักสร้างกระแส” ที่เคยสร้างชื่อให้กับ “ขายตรงข้ามชาติ” อย่าง “เอเจล-บีฮิป” ให้ดังเปรี้ยงปร้างมาแล้ว...ก็ต้องติดตามกันดูว่ากับเครือข่ายใหม่ที่ชื่อ “EPIC” จะสามารถมากระชาก อารมณ์ คนเครือข่ายเหมือนเช่นดั่งที่ผ่านมาได้หรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป!...


…มาดูอีกหนึ่งบริษัทขายตรงข้ามชาติสัญชาติเกาหลีนั่นคือ ค่าย “รูอัน” ที่ได้เข้ามาปักธงรบในธุรกิจเครือข่ายในประเทศไทย หลังจากที่กระแสประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เริ่มมาแรง ทำให้ค่ายนี้เล็งเป้ามาที่ในประเทศไทย ด้วยธุรกิจที่ชื่อว่า “รูอันเวิลด์” โดยมี 2 ประธานบริหารจาก บริษัท รูอัน เกาหลี จำกัด นำโดย “คุณพาร์ค อิน ชอน” และ “คุณเจมส์ ลี” เป็นหัวเรือใหญ่


ซึ่งการเข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยครั้งนี้นั้น ทางด้าน “เจมส์ ลี” ประธานบริหาร บริษัท รูอัน เกาหลี จำกัด เผยว่า เนื่องจากมองเห็นประเทศไทยค่อนข้างที่จะมีศักยภาพในการเป็นประเทศศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอาเซียนนั่นเอง พร้อมกันนี้ แผนงานในช่วงแรกของทางรูอัน ยังมีนโยบายหลักที่จะทำตลาดด้วยการมุ่งเน้นด้านสุขภาพและการพัฒนาบุคลิกภาพ รวมถึงการเติมเต็มความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักธุรกิจยุคใหม่อีกด้วย


พร้อมกันนี้ ทางด้านค่าย “รูอัน” เอง ยังได้มีการส่งผลิตภัณฑ์ไลน์แรกในกลุ่มต่อต้านความชรา Anti – Aging รวมถึงผลิตภัณฑ์ความงามระดับพรีเมี่ยม MONGNIS Skin Vitalizing Essence สเปรย์เซลล์บูสเตอร์ เข้ามารุกตลาดผลิตภัณฑ์ความงามในประเทศไทยด้วยเช่นกัน


“การทำตลาดของ “รูอัน” ในช่วงแรกเตรียมที่จะดำเนินกิจกรรมด้านการสื่อสารทางการตลาดในหลากหลายรูปแบบ เพื่อต้องการสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของ บริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จัก และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค


ในปัจจุบันได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่า จะสามารถผลักดันนักธุรกิจรูอันเวิลด์ ให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล พร้อมเติมเต็มทุกรอยฝันของทุกไลฟ์สไตล์ด้วยอิสรภาพในการดำเนินธุรกิจแห่งความมั่นคงได้อย่างแน่นอน”


…นับได้ว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ บริษัทขายตรงข้ามชาติทั้งใหม่และเก่าต้องออกมาสาดอาวุธแบบครบเครื่องกันเลยทีเดียว...ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าค่ายไหนจะสามารถสร้างความน่าสนใจได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง!!


 


 


 


 Credit By : http://www.taladvikrao.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น