ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Xclusive interview ธนาณัชชา รัตนาภรพิศ ประธาน ผู้ก่อตั้ง บริษัท เกรทเทสกู๊ดส์ จำกัด







photo (Mobile)

“บริษัท เกรทเทสกู๊ดส์ จำกัด” ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทขายตรง น้ำดี ที่มีแนวคิดที่ต้องการอยากจะสร้างธุรกิจขายตรงน้ำดีขึ้นมาประดับ ไว้บนเวทีขายตรงเมืองไทย แม้ในช่วงแรกของการเริ่มต้นจะโดนมรสุม ซัดกระหน่ำ แต่ด้วยความมั่นคงของ ธนาณัชชา รัตนาภรพิศ ประธาน ผู้ก่อตั้ง บริษัท เกรทเทสกู๊ดส์ จำกัด ที่ยังคงยืนหยัด เพื่อสานฝันให้ เป็นจริง ภายใต้สโลแกนที่ว่า “มุ่งมั่นเพื่อความเป็นหนึ่ง ในผู้นำด้าน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภค” หรือ Goods for Life ส่วนกลยุทธ์การตลาด และการรุกตลาดขายตรง หลังจากนี้ของ เกรทเทสกู๊ดส์ จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องคอยติดตาม อ่านกัน


ทำไมจึงสนใจมาเปิดธุรกิจขายตรง


ปัจจุบันคำว่าเครือข่ายเข้ามาอยู่ใน ชีวิตประจำวันของเราทุกคนกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครือข่ายระบบ มือถือ หรือเครือข่ายการซื้อสินค้า ซึ่งทุกอย่างถือเป็นเครือข่ายเกือบ ทั้งหมด ดังนั้น หลังจากนี้ไปเชื่อว่า ทุกคนจะไม่ปฏิเสธคำว่าเครือ- ข่าย และการที่ตนเอง มีประสบการณ์อยู่ใน ธุรกิจขายตรงมา นานกว่า 5 ปี ทำให้มีความคิด ว่าธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจแห่งการแบ่งปันโอกาส, มิตรภาพ และยังให้อิสรภาพทั้งเรื่อง ของรายได้ และเวลา ที่สำคัญข้อดีของธุรกิจขายตรงไม่ว่าเศรษฐกิจ จะเป็นอย่างไรก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง


อะไรคือจุดเด่นของเกรทเทสกู๊ดส์


นอกจากทีมผู้บริหารโดยเฉพาะตัวดิฉันเองจะมีประสบการณ์ ในธุรกิจขายตรงมาโดยตรง ทำให้มีความเข้าใจถึงความต้องการของ สมาชิกว่าต้องการอะไรแล้ว และเรายังมีองค์ประกอบที่ดีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ตัวดิฉันคัดสรรเอง ทดลองใช้กับ ตัวเองก่อน หากดีจริงถึงจะนำมาให้สมาชิกได้ใช้ แผนการจ่าย ผลตอบแทนที่ได้นำเอาแผนการตลาดซึ่งพิสูจน์แล้วว่าดีที่สุดมาใช้ นอกจากนั้นเรายังมีระบบการฝึกอบรมที่ถือเป็นหัวใจที่จะทำให้ธุรกิจ เติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งข้อดีทั้งหมดนี้เราเชื่อว่าจะทำให้ เกรทเทสกู๊ดส์ เติบโตต่อไปในระยะยาวได้อย่างแน่นอน การที่มีประสบการณ์อยู่ในธุรกิจขายตรงมาก่อน ทำให้ได้พบ สัจธรรมว่า ถ้าเรามีอะไรดีอย่างใดอย่างหนึ่งไม่พอมักจะไปไม่ค่อยรอด เช่น สินค้าดี แต่แผนการตลาดไม่ดี หรือสินค้าไม่ดี แต่แผนการ ตลาดดี ดังนั้น เราจึงนำทั้ง 2 อย่าง มารวมกัน คือ การขาย กับการ ขยาย ต้องไปควบคู่กัน กล่าวคือ สินค้าต้องดีสมาชิกสามารถนำไป ขายต่อได้ จุดเด่นของเรา คือ ราคาสินค้าไม่แพง และแผนการตลาด ทำแล้วคุ้มค่า


บริษัทวางกลยุทธ์การตลาดหลังจากนี้อย่างไร


ในช่วง 8 เดือนแรก ถือเป็นช่วงของการเตรียมความพร้อม แต่ หลังจากนี้ไปบริษัทจะรุกตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุชุมชน และสื่อ- ออนไลน์ โดยล่าสุดบริษัทได้สร้างระบบการทำงานผ่านทางออนไลน์ ขึ้นมา ซึ่งสมาชิกทุกคนที่สมัครเข้ามาจะมีเว็บไซต์ขยายงานส่วนตัว ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวสามารถขยายธุรกิจออกไปได้ทั่วโลก และการที่บริษัทได้ลงทุนในเรื่องดังกล่าวก็เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนั้นบริษัทยังเตรียมจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามา เสริมทัพอีกมากขึ้น เช่น สกินแคร์ และคัลเลอร์ จากปัจจุบันที่มีสินค้า ทั้งหมด 17 รายการ แบ่งเป็นกลุ่มเสริมอาหาร, กลุ่มอุปโภค-บริโภค, กลุ่มการเกษตร และกลุ่มความงาม โดยในปี 2557 บริษัทยังวางแผน เตรียมจะขยายศูนย์สาขาให้ครบ 10 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อให้ ครอบคลุมกับความต้องการของสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัท มีศูนย์สาขา 2 สาขา ได้แก่ สำนักงานใหญ่ลาดพร้าว 71 และจังหวัด นครราชสีมา


ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2556 ไว้อย่างไร


หลังจากในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างฐานตลาด ผู้บริโภคไว้เป็นจำนวนมาก แต่หลังจากนี้ไปจะเน้นรุกขยายตลาด มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกทั้งหมดประมาณ 8,000 รหัส จำนวนสมาชิกที่มีความเคลื่อนไหว (Active) คิดเป็น 20-30% คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้จำนวนสมาชิกน่าจะเพิ่มเป็น 30,000-50,000 รหัส และคาดว่าจะปิดยอดขายที่ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงอีก 2 เดือนที่เหลือ บริษัทเตรียมจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ในช่วงปลายปี อาทิ จัดทริปล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา, ทริปท่องเที่ยว ประเทศเกาหลี และทริปท่องเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง เป็นต้น


มีปัจจัยอะไรที่น่าเป็นกังวลในช่วงปลายปีนี้


หากดูจากปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวมถือว่าไม่น่ากังวลมากนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขายตรงในประเทศ เชื่อว่าจะยังคงเติบโต ต่อเนื่องแต่สิ่งที่น่ากังวล คือ เรื่องของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และมันนี่เกม ที่ขณะนี้กำลังระบาดอย่างหนัก ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิด เนื่องจากแยก ไม่ออกว่าอันไหน คือ ธุรกิจขายตรง อันไหน คือ แชร์ลูกโซ่ ซึ่งปัจจัย ดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของธุรกิจขายตรง ทำให้คนทั่วไปมอง ธุรกิจขายตรงไม่ดี ดังนั้น หากภาครัฐและภาคเอกชนช่วยกันเป็นหู- เป็นตาสอดส่องดูแล เชื่อว่าจะช่วยพัฒนา และยกระดับให้อุตสาห- กรรมขายตรงไทยเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป


 


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 232 ประจำวันที่ 16-31 ตุลาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น