ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข่าวแทนคุณแผ่นดินสยาม จำกัด (GIVE SIAM) : “เขาไม่ได้วัดกันว่าใครใช้สื่อโฆษณามาก แต่เขาจะวัดกัน ที่ใช้แล้วดี และยิ่งการที่ได้ พี่ยิ่งยง ประธานบริษัท มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ โดยมีรูปพี่ยิ่งยงมาติดข้างกระสอบปุ๋ยก็จะยิ่งสร้าง ความน่าเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี” ปริญญา นิลรัตนคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม จำกัด







Capture (Mobile)

 


บริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม จำกัด หรือ “Give Siam” บริษัทขายตรงน้องใหม่ที่แม้จะ เปิดตัวมาไม่นาน แต่สามารถครองใจชาวเกษตรได้ใน เวลาอันรวดเร็ว โดยในสิ้นปี 2556 นี้ บริษัทคาดว่า จะมียอดจำหน่าย “สารแทนคุณยิ่งยงบัวงาม” มากกว่า 200,000 กระสอบ ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับต้นๆ ของธุรกิจ ขายตรงเลยก็ว่าได้ ด้วยความสำเร็จดังกล่าวหนึ่งในคีย์แมน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี่ ต้องยกให้กับ “ปริญญา นิลรัตนคุณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือที่รู้จักกันในนาม “CEO POP” ผู้ที่ได้วางระบบการทำงานแบบมืออาชีพแบบเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่ ช่วงเริ่มต้น ส่วนกลยุทธ์การตลาด และการรุกตลาดขายตรงในช่วงอีก 3 เดือนที่เหลือจะเป็นอย่างไรต้องคอยติดตามอ่านกัน


ภาพรวมของตลาดปุ๋ยในปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง


ในครึ่งแรกของปีนี้ถือว่าไม่ค่อยดีมากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัว และภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบกับเกษตรกร เช่น เดือน เมษายน จากเดิมที่เริ่มทำนากันแล้ว แต่ต้องเลื่อนออกไป เพราะฝนไม่ตก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของบริษัท แต่แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ปิดยอดขายที่ 100 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทเตรียมจะจัดกิจกรรมพิเศษและจัดโปรโมชั่น เพื่อช่วยกระตุ้น ยอดขายในช่วงเวลาที่เหลือ


บริษัทมีแผนจะขยายศูนย์สาขาในปีนี้อย่างไร


บริษัทจะไม่เน้นการเปิดศูนย์สาขา เนื่องจากมองว่าการเปิดศูนย์ สาขาจะเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัท ที่สำคัญเราได้สร้างช่องทางการชำระเงิน ผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ ซึ่งสมาชิกไม่จำเป็น ต้องเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ หรือศูนย์สาขา เพียงแต่สั่งซื้อสินค้าผ่านทาง สมาชิกของบริษัท จากนั้นก็ไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ก็รอรับสินค้า ได้เลย


นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทเตรียมจะเปิดศูนย์กระจาย สินค้า ภายใต้ชื่อ “ศูนย์เกษตรสบาย” จำนวน 150 แห่ง ภายใน 1-2 ปีนี้ เพื่อช่วยกระจายสินค้าให้เข้าถึงเกษตรกรให้มากที่สุด โดยภายในศูนย์ดังกล่าวจะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ทั้งหมด เช่น เมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง และปุ๋ย เป็นต้น ซึ่งในอนาคต บริษัทเตรียมจะทำในลักษณะระบบเทรดดิ้ง หรือเป็นตัวกลางเพื่อรับซื้อ สินค้าทางการเกษตรทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางด้วย


บริษัทมีแผนลงทุนอื่นๆ อะไรอีกบ้าง


เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตบริษัทได้ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อซื้อช่องทีวี ดาวเทียมเป็นของตัวเอง ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นการ ลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าการเปิดศูนย์สาขา เพราะหากเปิดศูนย์สาขาจะต้อง ใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ยกตัวอย่าง 1 สาขา จะต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 100,000 บาท หากมี 4 สาขา จะต้องใช้เงินสูงถึง 400,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสมาชิกที่เข้ามาซื้อสินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนเดิมๆ แต่หากเรามีช่องทีวี ของเราเอง จะช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของบริษัท สินค้า และช่วยให้ สมาชิกทำงานง่ายขึ้นด้วย


ซึ่งการที่เรามีช่องทีวีของตัวเองถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นการทำ CEM (Customer Experience Management) อย่างหนึ่ง จากเดิมเรา จะมองแต่เรื่องของ CRM (Customer Relationship management) ซึ่งการทำ CEM เป็นการนำประสบการณ์ของลูกค้าที่ใช้จริงมาพูดแทน บริษัท หรือสมาชิก เมื่อลูกค้าดูแล้วเขาจะตัดสินใจเอง ซึ่งถือเป็นการ ตอบโจทย์ในการปิดการขายได้เป็นอย่างดี โดยที่สมาชิกสามารถเปิดให้ ลูกค้าผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือไอแพดได้เลย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้แจก ไอแพดไปแล้วมากกว่า 300-400 เครื่อง ดังนั้น สมาชิกไม่จำเป็นต้องพูด อะไรมาก สามารถใช้ไอแพคปิดการขายให้แทนได้


มีแผนจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำตลาด เพิ่มอีกหรือไม่


ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับทาง โรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อนำผลิตภัณฑ์ ใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่ม โดยนโยบายในการนำผลิตภัณฑ์ ใหม่เข้ามาทำตลาดจะยึดคอนเซ็ปต์ที่ว่า 1.ราคาต้องไม่สูง 2.คุณภาพต้องสู้กับราคาแพงได้ และ 3.สมาชิกสามารถนำไป ขายต่อแล้วมีกำไรที่สูง ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะนำเข้ามา ทำตลาดในช่วงแรกจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผู้หญิงและผู้ชาย โดยก่อนหน้านี้บริษัทเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมัน รำข้าวผสมกับน้ำมันมะพร้าว ภายใต้ชื่อ CO Rice ไปซึ่งก็ค่อนข้าง ได้รับการตอบรับดีมาก อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของบริษัทในการทำ ผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำตลาด คือ สินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดกลุ่มเดิมเพื่อ เพิ่มยอดขาย


อะไรคือจุดเด่นที่แตกต่างจากบริษัทขายตรงอื่น


ในช่วงที่ผ่านมาเราได้สร้าง Give Siam ให้มีความแตกต่างจากบริษัท ขายตรงอื่นๆ ทั่วไป เช่น การสร้างวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ผ่านทางโซเซียล มีเดีย เช่น การสื่อสารผ่านทางไลน์ เพื่อเป็นการสื่อสาร และให้กำลังใจกันระหว่างสมาชิกกับสมาชิก ซึ่งค่อนข้างได้รับกระแสตอบรับ ดีมาก รวมถึงการสร้างแอพพลิเคชั่นต่างๆ ผ่านทางระบบมือถือแบบ สมาร์ทโฟน เพื่อช่วยให้สมาชิกทำงานง่ายขึ้นและช่วยในการลดต้นทุนเรื่อง ของการเดินทาง รวมถึงช่วยให้สมาชิกทำงานง่ายโดยที่ไม่ต้องเข้ามานั่ง ประชุม เพียงแค่ดูคลิปวิดีโอทุกอย่างจะพูดแทนสมาชิกทั้งหมด


แนวโน้มการเติบโตของตลาดปุ๋ยเป็นอย่างไรบ้าง


เชื่อว่าตลาดปุ๋ยยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะมีบริษัทขายตรง หันมารุกตลาดนี้กันมากขึ้นก็ตาม เนื่องจากในแต่ละปีเกษตรกรในประเทศ มีการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงมูลค่ารวมกันกว่า 240,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งพฤติกรรมของเกษตรกรไทยส่วนใหญ่จะไม่ยึดติดอยู่กับแบรนด์ใด แบรนด์หนึ่งเป็นหลัก เพราะจะอิงกับโฆษณา, ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และ การใช้ดีแล้วบอกต่อ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะมีผลต่อการเปลี่ยนใจของ เกษตรกร ดังนั้น หากบริษัทใดสามารถครองใจเกษตรกรได้ก็เชื่อว่า จะเข้าไปแชร์ตลาดดังกล่าวได้อย่างแน่นอน


“เขาไม่ได้วัดกันว่าใครใช้สื่อโฆษณามาก แต่เขาจะวัดกัน ที่ใช้แล้วดี และยิ่งการที่ได้ พี่ยิ่งยง ประธานบริษัท มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ โดยมีรูปพี่ยิ่งยงมาติดข้างกระสอบปุ๋ยก็จะยิ่งสร้าง ความน่าเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้เรา ตั้งเป้ายอดไว้ที่ 200,000 กระสอบ และภายในอีก 2 ปี จะเพิ่ม เป็น 400,00 กระสอบ ซึ่งเป้าหมายใหญ่ของเรา คือ การช่วย ให้เกษตรกรมีรายได้เดือนละ 50,000 บาท จำนวน 10,000 ครอบครัว โดยปัจจุบันเราได้ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ เดือนละ 50,000 บาท มากกว่า 100 ครอบครัว แล้ว”








 

 


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 232 ประจำวันที่ 1-15 ตุลาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น