ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข่าวกิฟฟารีน (Giffarine Thailand) : "กิฟฟารีน" ดิ้นสู้ ศก.ซบ อัดงบ 50 ล้านปลุกตลาดโค้งสุดท้าย







1380034_168681776662059_1690058306_n (Mobile)

 


พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากยอดขายในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า "กิฟฟารีน" ยังมียอดขายที่น้อยกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ คือ เติบโตเพียง 6% จากที่มีการตั้งเป้าในแต่ละปีว่าบริษัท จะต้องทำรายได้ให้ถึง 10% ในทุกปี


"ในส่วนของเป้าหมายการเติบโต 10% ที่บริษัทตั้งเป้าในทุกปี จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวบวกกับผลพวงจากกำลังซื้อที่ลดลง รวมถึงเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดในเวลานี้ ก็อาจ ส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่น้อย ซึ่งอาจทำให้การเติบโตของบริษัท ต้องคลาดเคลื่อน การเติบโตอาจลดลงมาที่ 5-7%"


"จากยอดขายที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องหวังพึ่งยอดขายใน ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี โดยล่าสุดบริษัทก็ได้จัดการลงทุนเพิ่มอีก ประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อทำการประชาสัมพันธ์และสร้างการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้าที่นำมาประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่สินค้าใหม่ของบริษัท แต่เป็นสินค้าที่อยู่ในความนิยม ซึ่งบริษัท จะได้ทำการกระตุ้นยอดขายต่อไป" พ.ญ.นลินี กล่าว


อย่างไรก็ดี ในปีนี้ทาง "กิฟฟารีน" ได้ทุ่มงบการตลาด เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทพยายาม สร้างโฆษณาเพื่อกระตุ้นภาพของบริษัท ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ และ ในส่วนของการเพิ่มจำนวนนักธุรกิจอิสระของ "กิฟฟารีน" ซึ่งหากรวมงบทุกอย่างในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์แบรนด์ การจ่ายโบนัสนักธุรกิจ บริษัทคาดว่า งบในปีนี้ อาจทะลุไปถึง 300 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าในปีที่ผ่านมาถึง 15%


เศรษฐกิจพ่นพิษ! ทำยอดขาย "กิฟฟารีน" ครึ่งปีแรกโตไม่ ถึง 10% เดินหน้าอัดงบการตลาด อีก 50 ล้านบาท หวังปลุกตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย ดึง "เจมส์ มาร์" กระตุ้นสินค้ากลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ "กิฟฟารีน อีสเลส" รุก เจาะ Gen Y เผยปีนี้งบตลาดมีสิทธิ์แตะ 300 ล้านบาท มาก กว่าปีก่อนถึง 15% ด้านตลาด AEC ย้ำชัดไม่หวั่น เรื่องการแข่งขัน แต่ยอมรับตอนนี้เจอภาษีอาเซียนแพงระยับ


นอกจากนี้ ดังที่กล่าวมาว่า "กิฟฟารีน" พยายามที่จะผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าคือ 6.5 พันล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้าย นอกจากการประชาสัมพันธ์ แบรนด์แล้ว บริษัทยังต้องการเดินหน้าเรื่อง การจัดทำโปรโมชั่นสนับสนุนการขาย พร้อมด้วยการจัดประชุมนักธุรกิจในทุกสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นสมาชิก


โดยในส่วนของสมาชิก ปัจจุบัน "กิฟฟารีน" มีสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Gen Y ที่ 25% จากเดิมเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ที่บริษัทมีสมาชิกกลุ่ม นี้เพียง 10% ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการตอบรับของผู้บริโภค เพราะบริษัทพยายามสร้างการ รับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งกำลังได้รับความนิยม


เกี่ยวกับเรื่องนี้ "พ.ญ.นลินี" กล่าวว่า "ปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจตัวเอง และ มองหาเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ พบได้จากเทรนด์การดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกิฟฟารีนมีจุดแข็งที่มีโรงงาน ผลิตเป็นของตัวเอง จึงได้มีการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลา และล่าสุด โรงงานของเราได้รับการรับรองระบบ OHSAS 18001:2007 จากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งรับรองมาตรฐานด้านระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย"


ที่ผ่านมาเราสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทยด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพหลากหลาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในบ้านทั่วไป ผลิตภัณฑ์ส่งเสริมคุณภาพ ชีวิต และผลิตภัณฑ์อาหารรวมทั้งหมดกว่า 2,000 รายการ ที่สามารถเข้าไปเติมเต็มชีวิต ประจำวันของสมาชิกผู้บริโภคกว่า 6.5 ล้านรหัส ปัจจุบันกิฟฟารีนมียอดจำหน่ายตลอด ระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจรวมกว่า 57,000 ล้านบาท โดยมีศูนย์ธุรกิจตั้งอยู่ในประเทศไทยรวม 113 สาขา และต่างประเทศ มากกว่า 30 สาขา พร้อมทั้งมีบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ


ดังนั้น เราจึงพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ "กิฟฟารีน อีสเลส" เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์การรับประทานที่เปลี่ยนไปของคนในปัจจุบัน ด้วยส่วนประกอบสำคัญของไฮดรอกซี ซิตริก แอซิด (Hydroxy citric acid) หรือ HCA-SX สารสำคัญที่มีอยู่ในพืช ผัก ผลไม้ ชนิดต่างๆ ที่เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ใส่ใจตัวเอง


ด้านนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เผยว่า "สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ กิฟฟารีน อีสเลส เรา ได้ทุ่มงบประมาณถึง 50 ล้านบาท เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ นักธุรกิจ กิฟฟารีน คนรุ่นใหม่ คนทำงานทั่วไปที่มีไลฟ์ สไตล์ทันสมัย และใส่ใจสุขภาพ โดยมีพรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่อผู้ใส่ใจสุขภาพและบุคลิกภาพ เจมส์ มาร์ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา เรื่อง "อร่อยแบบเจมส์ มาร์" ภายใต้แนวคิดที่ว่า กิฟาฟารีน อีสเลส เป็นตัวช่วย ให้ทุกคนมีความสุขได้โดยไม่ต้องฝืนใจตัวเอง ผ่านเครื่องมือทางการตลาดแบบครบวงจร ทั้ง Above the line และ Below the line พร้อมทั้งยังใช้แผน "ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง" โดยได้ปล่อยคลิปวิดีโอสั้น 4 เรื่องทางออนไลน์ พร้อมต่อยอดด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ในรูปแบบของเกมออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณพ์กิฟฟารีน อีสเลส และพรีเซ็นเตอร์ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยอีกด้วย"


โดยเหตุที่บริษัทเลือก "เจมส์ มาร์" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ในช่วงปลายปี เนื่องจากบริษัทต้องการดาราที่อยู่ในความนิยมของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคน อีกหลายช่วงอายุก็ชอบและชื่นชม "เจมส์ มาร์" อีกทั้งตัวดาราผู้นี้ยังมีอุปนิสัยการทาน ที่เหมาะกับสินค้าที่บริษัทต้องการนำมาชูคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น กิฟฟารีนได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยัง 33 ประเทศทั่วโลก ทั้งในส่วนของธุรกิจขายตรงและการส่งผลิตภัณฑประเภทสปาออกจำหน่าย โดยปัจจุบัน บริษัท มีแผนขยายตลาดออกสู่ประเทศในประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้แก่ ประเทศเมียนมาร์, มาเลเซีย, กัมพูชา, สปป.ลาว และมีแผนที่จะเปิดในประเทศอินโดเซียในปีถัดไป โดยคาดว่าในเดือน ม.ค.ปี 57 จะสามารถเปิดที่ประเทศอินโดนีเซียได้อย่างเป็นทางการ


นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายไปที่ประเทศดูไบ ซึ่ง "กิฟฟารีน" ได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 2 สาขาในดูไบแล้ว ส่วนรูปแบบ ของธุรกิจนั้นในประเทศต่างๆ บริษัทจะขยาย ธุรกิจในรูปแบบของค้าปลีก ส่วนประเทศที่ อยู่ในแถบอาเซียน "กิฟฟารีน" จะพยายาม ขายไปในรูปแบบ MLM


ทั้งนี้ การขยายตลาดในกลุ่มประเทศ อาเซียน เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC บริษัทไม่ได้ห่วงในเรื่องของตลาด แต่เป็นเรื่องภาษีของ หลายประเทศที่ค่อนข้างแพง ทำให้การขยายออกไปต้องประสบปัญหาในเรื่องนี้พอสมควร


 


 


 


 


Credit By : http://www.siamturakij.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น