ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวแอมเวย์ (Amway Thailand) : จัดหนักไตรมาสสุดท้ายอัดแคมเปญใหญ่ขุน "นิวทริไลท์ (Nutrilite Thailand)" 5.7 พันล.


ฐานแม่ แอมเวย์ โชว์ยอดขาย นิวทริไลท์ ทั่วโลกฟันรายรับแล้ว 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เดินหน้าขยายโรงงาน 4 โครงการ ตอบรับกระแส สุขภาพติดลมบน ด้าน แอมเวย์ ประเทศไทย เสริมแกร่ง ดึง พ.ญ.อาร์ทิมิส ผู้เชี่ยวชาญระดับ โลกด้านโภชนาพันธุศาสตร์ ร่วมประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 6 พร้อมอัดแคมเปญ 6 ฮีโร่ หมายดันยอดขายสินค้ากลุ่มเสริมอาหารแตะ 5.7 พันล้านบาท ส่วนยอดรวมผ่าน 8 เดือน ขยายตัว 13%


นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ยกย่องให้แบรนด์นิวทริไลท์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทาง การดำเนินธุรกิจของแอมเวย์ในฐานะที่เป็นแบรนด์ในกลุ่มวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มียอดขายรวมอันดับ 1 ของโลก โดยปีที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิว-ทริไลท์ทั่วโลกสูงถึง 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 140,600 ล้านบาท) คิดเป็น 45% ของยอดขายรวมแอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น


ล่าสุด แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ได้ขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เสริม อาหารนิวทริไลท์รวม 4 โครงการ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดเม็ดและซอฟต์เจล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดผง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดเม็ด รวมถึงโรงงานสกัดและผลิตสาร สกัดเข้มข้นจากส่วนประกอบที่เพาะปลูกในฟาร์มชีวภาพของนิวทริไลท์ การขยายโรงงานผลิตในครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลกในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจ สุขภาพและต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถสนับสนุนการขยายธุรกิจของนักธุรกิจแอมเวย์กว่า 3 ล้านคนใน 100 ประเทศ และดินแดนทั่วโลกอีกด้วย กิจธวัช กล่าว


นายกิจธวัชกล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จดังกล่าวมาจากความจริงจังและทุ่มเทของ นักธุรกิจแอมเวย์ทั่วโลกและความมุ่งมั่นในการวิจัยค้นคว้าเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ดีที่สุดจากธรรมชาติและกระบวนการผลิตที่ดีที่สุดทางวิทยาศาสตร์ดังแนวคิด Best of Nature, Best of Science ของนิวทริไลท์นั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามีผลงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสารอาหารทางโภชนาการ รวมทั้งการทดลองด้านการแพทย์มากมาย และทำงานร่วมกับสถาบันระดับโลกมากกว่า 10 แห่งในสหรัฐอเมริกา อิสราเอล สเปน จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งในโอกาสอันดีที่สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้จัดการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ขึ้น แอมเวย์ประเทศไทยจึงได้เรียนเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านโภชนาพันธุศาสตร์มาร่วมแบ่งปันงานวิชาการ เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของวงการโภชนาการในประเทศไทย


ด้าน พ.ญ.อาร์ทิมิส ซิโมพูลอส ประธานศูนย์พันธุศาสตร์โภชนาการและสุขภาพ และประธานสมาคมนานาชาติ ด้านโภชนาพันธุศาสตร์ (Nutrigenomics) กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา และหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ เปิดเผยว่า ในปี 2554 โรคหัวใจและหลอดเลือดคร่าชีวิตผู้คน ทั่วโลกไปกว่า 17 ล้านคน และคาดการณ์ว่า ปี 2573 หรืออีก 18 ปีข้างหน้า จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% หรือประมาณ 22.1 ล้านคนทั่วโลก สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของอุบัติการณ์ดังกล่าวเกิดจากการบริโภคโอเมก้า-6 ในปริมาณที่สูงกว่าโอ-เมก้า-3 พฤติกรรมนี้กระตุ้นให้เกิดสภาวะที่ก่อให้เกิดอาการของหลายๆ โรค รวมถึงโรค หัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับการอักเสบและภูมิคุ้มกันตนเอง รวม ทั้งการเกิดสภาวะรบกวนการพัฒนาสมอง


นอกจากนี้ การบริโภคโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ในสัดส่วนที่เหมาะสมยังมีผล ต่อพัฒนาการทางสมอง และเพื่อป้องกันการเสื่อมของสมองระยะแรก ดังนั้น การรักษาสมดุลของสารอาหารทั้ง 2 ประเภทจึงเป็นเรื่องจำเป็น และสามารถทำได้โดยลด ปริมาณการรับประทานน้ำมันที่มีโอเมก้า-6 สูง เช่น น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันดอกคำฝอย, น้ำมันเมล็ดนุ่น และน้ำมันถั่วเหลือง ทั้งนี้ ควรเพิ่มการรับประทาน น้ำมันที่มีโอเมก้า-3 อาทิ น้ำมันปลา น้ำมัน มะกอก เป็นต้น เพื่อสุขภาพหัวใจและสมอง ที่ดีในระยะยาว พ.ญ.อาร์ทิมิส กล่าว


โดยนางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการเติบโตของนิวทริไลท์ในประเทศไทยเป็น ไปด้วยดีเติบโตตามเป้าหมาย โดยช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดมากมาย ทำให้ ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 13% เมื่อเปรียบเทียบ กับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจ ว่าจะสร้างสถิติใหม่ให้นิวทริไลท์มียอดขาย สูงสุดถึง 5,700 ล้านบาท ในสิ้นปี 2555 นี้ โดยจัดเตรียมแคมเปญพิเศษเพื่อแนะนำสาร อาหารจำเป็น 6 ชนิดภายใต้แนวคิด 6 ฮีโร่ ผู้ดูแลหัวใจคุณ ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้


นางรัตนากล่าวว่า 6 ฮีโร่ ผู้ดูแลหัวใจคุณเป็นแคมเปญที่มีวัตถุประสงค์หลักมุ่งให้ ความรู้กับผู้บริโภคเรื่องการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากช่วงสามปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีสถิติผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดในโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศเพิ่มขึ้นถึง 89% นอกจากนั้น โรคหัวใจและ หลอดเลือดยังเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย ซึ่งสอดคล้อง ตามเทรนด์ของโลกดังที่ พ.ญ.อาร์ทิมิสได้กล่าวไว้ เราจึงควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ขยายความรู้ในการดูแลสุขภาพ ด้านนี้แก่ประชาชนอย่างจริงจัง


แคมเปญดังกล่าวจึงมีเนื้อหาเกี่ยวกับ สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคและอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เกี่ยวกับการทำงานของสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดรวม 6 ชนิด ได้แก่ สารอาหารน้ำมันปลา (Fish Oil) การ์ลิค (Garlic) ชาเขียว (Green Tea) เลซิติน อี (Lecithin E) โคเอ็นไซม์คิวเท็น (CoQ 10) และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B Complex) เปรียบเทียบสารสกัดแต่ละชนิดเป็นฮีโร่ที่ช่วยดูแลสุขภาพหัวใจ และใช้ เทคนิคการเล่าเรื่องแบบสนุกและง่ายต่อการ เข้าใจ เพื่อเป็นการย่อยเนื้อหาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพให้ประชาชนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้มากขึ้น โดยประชาสัมพันธ์ผ่าน ช่องทางโซเชียล มีเดีย อย่างเฟซบุ๊ก ยูทูบ และเว็บไซต์นิวทริไลท์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา นางรัตนากล่าวในที่สุด


อย่างไรก็ดี ในส่วนของการเติบโตเฉพาะกลุ่มสินค้าเสริมอาหาร เมื่อเทียบกับ ประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย ประเทศจีนนับเป็นประเทศที่ยอดขายของนิวทริไลท์เติบโต มากที่สุด รองลงมาคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ไทย ตามลำดับ


ทั้งนี้ ในส่วนของยอดขายรวมของบริษัท ขณะนี้ยอดการเติบโตของแอมเวย์ประเทศไทยมียอดเติบโตเทียบจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาคือ 13% ซึ่งในไตรมาสที่ 4 บริษัทจะเน้นการทำตลาดในเรื่องของหัวใจและหลอดเลือดเป็นหลัก ตามแคมเปญ 6 ฮีโร่ ดังที่กล่าวมาในข้างต้น อีกทั้งยังจะมีการกระตุ้นเรื่องของการตลาด อย่างเข้มข้นในไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อขยับยอดขายให้ใกล้เคียงกับเป้าใหญ่ที่วางไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้วคือ 2 หมื่นล้านบาท


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1336ประจำวันที่ 19-9-2012 ถึง21-9-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น