กิฟฟารีน เผยครึ่งแรกโต 7% ครึ่งหลังทุ่มงบ 70 ล้านบาท ลุยทำการตลาดอย่างหนัก พร้อมเจาะกลุ่มวัยรุ่น ด้วยผลิตภัณฑ์กลุ่มเพื่อความงามและสุขภาพ อีกทั้งเปิดตัว ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เลิฟซีน กระตุ้นยอดขาย คาดสิ้นปีปิดยอด 6,000 ล้านบาท
น.ต.พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยถึงแนวทางการทำตลาด ครึ่งหลังของปีว่า บริษัทจะใช้งบประมาณ 70 ล้านบาท จากงบ ทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ในการทำการตลาด โดยจะเน้นกลุ่ม เป้าหมายเดิม พร้อมทั้งขยายเครือข่าย และผู้บริโภคไปยังกลุ่ม คนรุ่นใหม่ผ่านสื่อออนไลน์ และช่องทางต่างๆ ที่ทันสมัย และ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทจะเน้นทำตลาดสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเป็นหลัก เพราะบริษัท ได้เล็งเห็นแล้วว่า ปัจจุบันนอกจากวัยรุ่นจะให้ความสนใจเรื่อง ความสวยความงามแล้วยังใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ถือเป็น อีกเรื่องที่วัยรุ่นให้ความสนใจควบคู่กันไปอีกด้วย
ขณะที่ภาพรวมตลาดครึ่งแรกของปี หลังจากที่บริษัท สามารถกู้สถานการณ์น้ำท่วมปลายปี 2554 ที่ผ่านมา และ กลับมาเดินเครื่องการผลิตสินค้าได้ บริษัทก็ได้เร่งกลับมา ทำการตลาดอย่างเข้มข้นทำให้ครึ่งแรกของปีบริษัทมีอัตรา การเติบโตอยู่ที่ 7% โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมนั้น ยังคงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ อะบาโลน คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสกินแคร์
ด้าน พงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการ- ใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกาย- ไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า โค้งสุดท้ายของ ปีนี้ บริษัทจะรุกเข้าไปทำการตลาดผ่านช่อง ทางต่างๆ ทั้ง ภาพยนตร์โฆษณา การโฆษณา ผ่านสื่อวิทยุ กิจกรรมการตลาด และรายการ ส่งเสริมการขายต่างๆ ตามเทศกาล เพื่อ เป็นการกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อของ ผู้บริโภค ตลอดจนการพัฒนาอัพเดตข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ผ่านช่องทางเคเบิลทีวี กิฟฟารีนแชนแนล อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายยอดขายที่ 6,000 ล้านบาท ในสิ้นปี
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ชื่อ เลิฟซีน โดยจะนำ เสนอผลิตภัณฑ์ กิฟฟารีน กลูต้า เคอร์คิวม่า ซี-อี ภายใต้คอนเซ็ปต์คู่รัก โรแมนติก ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกโฆษณา ชุด อะบาโลน ซิตี้ ไปแล้ว และได้รับ การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชม
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค ตลอดจนการคัดสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน จากทั่วทุกมุมโลกมาผลิตสินค้า ทำให้ วันนี้สินค้าของบริษัทเป็นสินค้าที่ได้ รับการยอมรับในระดับมาตรฐาน สากล และเติบโตเคียงคู่สังคมไทย ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์ธุรกิจ กิฟฟารีนทั้งสิ้น 112 แห่งทั่ว- ประเทศ นอกจากนี้ยังได้เปิดให้ บริการแบบ เดลิเวอรี่ เพื่อการ บริการที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ และสะดวกสบายแก่ผู้ที่ สนใจธุรกิจและสินค้าของ กิฟฟารีน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค ฉบับที่ 206 วันที่ 1- 15 กันยายนพ.ศ. 2555
ขอบคุนกิฟฟารีนคับ
ตอบลบ