ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวสคบ. : เขย่าตระกร้าขายตรง!! "จิรชัย มูลทองโร่ย" จัดหนักรื้อฐานข้อมูล-เช็คบิลสินค้า


จิรชัย เลขาสคบ.พลิกเกณฑ์ ขายตรง รับ ตราสัญลักษณ์ กรณีต้องทำประกันภัยความเสี่ยงสินค้า-บริการ โดดจับมือ บริษัทประกันภัย


พิ่ม เปิดทาง ทำแบงก์การันตี หรือรวมตัวเป็นกลุ่มจัดตั้ง กองทุน ขึ้นรับความเสี่ยงเอง เผยขยายทางเลือกให้ ผู้ประกอบการ มากขึ้น ย้ำเจตนา ปูพรม ความพร้อมสู่ประตู AEC แย้มนโยบายล้างภาพ เขย่าใบอนุญาตขายตรงสั่ง จัดระเบียบฐานข้อมูล ใหม่ เข้ม! ห้ามขาย ปุ๋ย-ยา-เหล้า ในระบบอีกครั้ง!! จับตา สุทธิศักดิ์-พิฆเนศ ลุ้นนั่ง รองเลขาฯใหม่ !!

นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผย ธุรกิจเครือข่าย ถึงความคืบหน้าโครงการมอบตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภคให้กลุ่มธุรกิจว่า หลังจากที่ได้เริ่มเปิดการรับ


ตราสัญลักษณ์ไปเมื่อ 1 กันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้มีหลายบริษัทแสดงความจำนงเข้าแล้วรวมถึงกลุ่มประเภทธุรกิจขายตรงด้วย โดยทางสคบ.ได้ปรับเกณฑ์การทำประกันภัยความเสี่ยงสินค้าและบริการใหม่ออกเป็น 3 แนวทาง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกแนวทางที่สะดวกได้มากขึ้น

จากก่อนหน้านี้เรามีแค่ทิพยประกันภัย แต่ตอนนี้เรามีเมืองไทยประกันภัยเพิ่มเข้ามาแล้ว รวมถึงสคบ.ได้มีอีก 2 แนวทางทางให้ผู้ประกอบการเลือก คือ ให้แบงก์การันตี หรือรวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้วจัดตั้งเป็นกองทุนขึ้นมารับความเสี่ยงกันเอง ซึ่งทางสมาคมการขายตรงไทยก็มีความสนใจในประเด็นหลังนี้อยู่ นายจริชัยกล่าว และว่า

สำหรับโครงการมอบตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภคนี้จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคขึ้นเทียบชั้นกับต่างประเทศในกลุ่มอาเซียนนี้ และที่สำคัญมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในการสร้างมาตรฐานสินค้าและบริการในเวทีประชาเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นี้ด้วย

นายจิรชัย กล่าวว่าส่วนในภาคธุรกิจขายตรงขณะนี้มีผู้ประกอบการจดทะเบียนกับสคบ.ไปแล้วกว่า 600 บริษัท ธุรกิจตลาดแบบตรงอีกกว่า 300 บริษัท แต่ที่ผ่านมาสคบ.ยังไม่มีการจัดทำฐานข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องของ สินค้าที่จดทะเบียนและขออนุญาตขายในระบบ จนทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า บริษัทขายตรงใดได้ขายสินค้านอกเหนือจากที่ขออนุญาตและจดทะเบียนแจ้งสคบ.ไว้แต่เริ่มแรกบ้าง ดังนั้นในการมอบหมายงานสคบ.ครั้งแรกจะกำหนดให้เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นการทำงานเชิงรุก โดยเจ้าหน้าที่สคบ.ทั้งหมดที่รับผิดชอบจะต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน

ต่อไปสคบ.เราจะทำงานเชิงรุกอย่างแน่นอน และจะไม่มีคำอ้างว่าเจ้าหน้าที่เรามีน้อยอีกต่อไป จากทั้งหมดเรามีเจ้าหน้าที่อยู่ 200 กว่าคน เมื่อมอบหมายงานให้แล้วก็ต้องไปดำเนินการให้ได้ ส่วนงานใดจะจ้างเอกชนหรือใครมาช่วยต่อก็เป็นเรื่องที่แต่ละฝ่ายจะกลับไปคิดดำเนินการเอง เพราะเราจะจัดงบสนับสนุนให้ตามความเหมาะสม แล้วทุกคนก็ไปปรับตัวตามนั้น นายจิรชัยกล่าว และย้ำว่า

ทั้งหมดเป็นการปรับแนวทางการทำงานเป็นเชิงรุก โดยเฉพาะธุรกิจขายตรงจะมีการจัดระบบฐานข้อมูลใหม่โดยมอบหมายให้เป็นเรื่องภายในของคนสคบ.จะต้องรีบเร่งดำเนินการ ส่วนภายนอกบริษัทเอกชนผู้ประกอบการก็ต้องมีการแก้ไขปรับปรุงการดำเนินธุรกิจให้ถูกต้อง อย่างกรณีสินค้าที่ไม่สามารถนำมาขายในระบบขายตรงได้ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ประกอบด้วย ปุ๋ย ยา และเหล้านั้น ก็จะมีการเข้มงวดและดำเนินการตามพ.ร.บ.เป็นสำคัญ

ทั้งนี้หลังจากนายจิรชัย มูลทองโร่ย ได้รับการโปรดเกล้าฯ เข้ารับตำแหน่งไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ทางสคบ.ก็จะมีการพิจารณาคัดเลือกรองเลขาธกิการสคบ.คนใหม่เข้ามาแทนตำแหน่งเดิมของนายจิรชัยที่ว่างลง ต่อประเด็นดังกล่าวแหล่งข่าวระดับสูงจากสคบ.ได้กล่าวกับ ธุรกิจเครือข่าย ถึงบุคคลเหมาะสมที่จะมารับตำแหน่งว่าน่าจะเป็นคนภายในสคบ.

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวว่า ผู้บริหารสคบ.ที่มีความเหมาะสมและน่าจะได้รับการคัดเลือกเข้ามานั่งเก้าอี้รองเลขาธิการสคบ.คนใหม่นั้นมีอยู่ 2 คน คือ นายสุทธิศักดิ์ ภัทรมานะวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดี และนายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้อำนวยการสำนักแผนและการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ฉบับที่ 236 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-30 กันยายน 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น