ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวดีเน็ทเวิร์ค (DNetwork) : 3 เกลอร่วมสร้าง "ดี เน็ทเวิร์ค (D Network)" สืบทอดทายาท 2 ปีสำเร็จ - กลับทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่คืนถิ่น


3 นักบริหารขายตรงมืออาชีพวางผังบริหาร ดีเน็ทเวิร์ค เฉียบหลังผ่านงานบริหารขายตรงมากว่า 22 ปี...2 ปีที่ซุ่มเงียบสร้างรังวัดเดินในตลาดขายตรงได้สวยพร้อมเปิดอาณาจักรยิ่งใหญ่ต้อนรับ...ต่อยอดความฝันสร้างขายตรงเป็นมรดกตกทอดได้จริงภายใต้นวัตกรรมสินค้าใหม่แกะกล่องอิงกระแสผู้นำแต่ไม่ขอตามเทรนด์อีกไม่นานขอทวงความยิ่งใหญ่คืนสู่เหย้าวงการขายตรงไทย 2 ปีเศษ...ที่ซุ่มเงียบ ภายใต้บ้านหลังใหม่ ดี เน็ทเวิร์ค ซึ่งนำทัพโดย สาคร ใสกมล ผู้สร้างตำนานขายตรงให้รวยมานับไม่ถ้วน จากน้ำมือบริหารของเขาผู้นี้ หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตกาล 12 กว่าปีที่ผันผ่าน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักมือบริหารท่านนี้ เพราะได้สร้างตำนานขายตรงให้สำเร็จไปแล้วหลายบริษัท แต่ทุก ๆ หนทางที่ร่วมสร้าง กลับไม่ใช่เป้าที่ตั้งใจคิด...


เพราะเป้าใหญ่ที่วางไว้ มันไม่ใช่เงินตรา แต่มันเป็นขายตรงที่ต้องสืบทอดมรดกให้กับทายาทที่สัมผัสได้จริง แต่กับสิ่งที่เคยบริหาร เคยเห็น เคยกระทำ และเคยสัมผัส บอกได้คำเดียวว่า มันไม่ใช่เมื่อเล่นบท มือปืนรับจ้าง จนเปลืองมือ และไม่สำเร็จสมหวังดังตั้งใจ สาคร จึงหันหลังกลับให้กับวงการ แต่การหันหลังกลับครั้งนี้ ไม่ใช่หายแล้วหายลับ แต่เป็นการกลับไปนั่งตรึกและไตร่ตรองใหม่ เพราะบนเส้นทางขายตรงที่เหยียบย่ำมานานแสนนานกว่า 22 ปี มันกลับไม่มีอะไรดีขึ้น..


ประจวบเหมาะกับเพื่อนเกลอ 2 คน ภูมิสนอง หล้าสุด และ อุทัย แจ่มฟ้า ก็เริ่มเบื่อหน่ายกับวงการขายตรง ถึงแม้ว่าจะยอมรับว่าขายตรงมี มนต์เสน่ห์ แต่ไม่เคยมีค่ายไหน ตอบโจทย์ให้กับคนทั้งคู่ได้อีกเช่นเดียวกัน...ขณะที่เพื่อนผองน้องพี่ที่ร่วมต่อสู้กันมา ต่างได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า


เมื่อ 3 เกลอที่พบแต่ความอกหัก...ถึงจะวางมือ แต่ใจยังไม่เคยหยุดพัก...เพราะทุกคนต่างอยากสร้างขายตรงในฝันบนถนนนวมินทร์ตัดใหม่ (สุวินทวงศ์)...จึงกลายเป็นฐานที่มั่นของ 3 เกลอที่จะร่วมสร้างตำนานขายตรงในฝัน เพื่อต้องการให้ขายตรงสืบทอดสู่รุ่นทายาทได้อย่างแท้จริง...บัดนี้ เวลาก้าวล่วงมานาน 2 ปี ถึงแม้จะไม่สำเร็จอย่างเต็มใบ แต่ก็สามารถก่อร่างสร้างตัว เป็นองค์กรขายตรงตามที่ใฝ่ฝันได้สำเร็จไปแล้วเปราะหนึ่ง


ย้อนรอยตำนาน 3 เกลอ
ล้วนผ่านงานบริหารยิ่งใหญ่
ตำนานแรกที่จะกล่าวถึง นั่นคือ สาคร ใสกมล ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท ดีเน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด ที่บ่มเพาะประสบการณ์ในวงการขายตรงมากว่า 22 ปี ได้กล่าวย้อนอดีตผ่านรายการ ตลาดวิเคราะห์ ว่า ชีวิตเริ่มต้นจากการเข้าสู่วงการขายตรงมานานหลายปี เป็นทั้งผู้นำ เป็นทั้งผู้บริหาร จึงตกผลึกทางความคิดว่า เสน่ห์ของขายตรงมันดี แต่ด้วยที่ว่า เราเป็นคนเครือข่ายโดยอาชีพ มองว่าบริษัทขายตรงที่โดนใจพอที่จะให้แม่ทีมเกษียณได้จริง ๆ ยังไม่มีในระยะเวลา 22 ปีที่เดินอยู่บนเส้นทางนี้


และมันยังไม่ถึงที่สุดของชีวิต วันนี้ เราต้องการจะสร้างบริษัท ที่เรียกได้ว่า เป็นต้นตำนาน จึงเริ่มจากการสร้างบุคลากรขายตรง สร้างคนขึ้นมา เพราะมองว่าบุคลากรขายตรงที่เป็นมืออาชีพจริง ๆ ยังมีไม่เยอะ ทีมเราจึงต้องการจะปักหลัก เริ่มจากการสร้างคน สร้างศูนย์รวมบุคลากรมืออาชีพ นี่คือความคิดแรกของที่มาคำว่า ดี และต้องดีทุกอย่างด้วย ทั้งบริษัท สินค้า แผน ซึ่งโดยรวมแล้วเราเรียกว่า เป็นเครือข่ายที่ดีนั่นเอง ผลตอบรับในภาคสนามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าดีมาก ๆ


หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ภูมิสนอง หล้าสุด ย้อนถึงอดีต 21 ปีที่ผันผ่าน ณ จุดเริ่มต้นก่อนจะมีไอเดียตรงนี้ออกมา เริ่มมาจากงานคิดก่อนว่า องค์กรของเราถ้าจะประสบความสำเร็จมีมูลค่าเป็นพันล้าน หรือว่าหมื่นล้าน มันควรจะดีไซน์หน้าตาออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องมีให้ครอบคลุมถึง 5 ส่วนใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์, บริษัท, แผนการตลาด หรือระบบการพัฒนาบุคลากร และก็เรื่องบุคลากรที่เลือกมาให้เกี่ยวข้องกับงาน ว่าแต่ละส่วนนั้นควรจะมีลักษณะอย่างไร เพราะเราต้องการหล่อหลอมสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น ภายใต้ บริษัท ดีเน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด


สิ่งที่ผ่านมาในอดีต เราเดินไปพบบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ตัวเราไปได้ไม่ไกล เพราะสเต็ปที่มีรายได้แล้วประสบความสำเร็จอยู่ที่จำนวน 6 หลัก ตอนนั้นผมอายุแค่ 20 ต้น ๆ แต่สุดท้ายบริษัทก็อยู่กับเราได้ไม่นาน ต้นเหตุเพราะไม่ประสบความสำเร็จนั่นเอง เราจึงพยายามหาวิธีการ และสร้างทีมงานที่มีความมุ่งมั่นมาตลอด โดยแต่ละที่ผมยืนปักหลักเป็น 10 ปี เพื่อร่วมสร้างบุคลากร สร้างทีมงาน สร้างระบบการอบรม สร้างให้เป็นหัวใจหลัก


แต่ก็มีปัญหาอยู่ 2 ข้อที่ไม่สำเร็จ เพราะ 1. แผนการตลาดยาก ปัญหาที่ 2 คือเราประสบความสำเร็จ เพราะว่าแผนมันง่าย แต่ว่าบริษัทอยู่ได้ไม่นาน เราจึงต้องการสร้างบริษัทที่เราสำเร็จและสมาชิกก็สำเร็จด้วยกัน ซึ่งเป็นบริษัทที่เราร่วมสร้างกันมา ภายใต้ชื่อที่บังคับอยู่แล้ว ว่า ต้อง ดี ตามชื่อที่เราตั้ง


ผู้ร่วมก่อตั้งท่านสุดท้าย อุทัย แจ่มฟ้า ที่ผาดโผนในยุทธจักรขายตรงมา 22 ปี มีจุดยืนภายใต้โจทย์เดียวกันคือ เมื่อคุณทำเครือข่าย คุณต้องเกษียณที่นี่ได้จริง ๆ เพราะโดยปกติคนที่เข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่าย ทุกคนคิดเหมือนกันว่า ทำแล้วต้องเกษียณ ทำแล้ววันหนึ่งสามารถหยุดพักแล้ว และเป็นมรดกตกทอดให้กับทายาทได้ ฉะนั้น ตอนที่เราเริ่มต้นสร้าง เราก็มีความฝันกันอย่างนั้นจริง ๆ


จากอดีตเราเคยอยู่ในบทบาทของนักธุรกิจ บทบาทของผู้นำ ก็เคยพูดมาตลอดว่า ธุรกิจเครือข่ายมันเป็นมรดกตกทอดได้ แต่พอเราทำไปสักระยะหนึ่ง มรดกมันหายไปไหน ด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง มันก็เหมือนกับว่า จากที่เราเคยพูด หลายคนก็สงสัยว่ามรดกในเครือข่ายมีจริงไหม นี่คือเหตุผลและความตั้งใจที่จะสร้าง ดี เน็ทเวิร์ค ให้คนเครือข่ายได้เข้าใจและเชื่อมั่นว่า ดี เน็ทเวิร์ค จะเป็นมรดกให้กับทายาทของท่านได้จริง ๆ


โดยเราตั้งใจที่จะสร้างธุรกิจนี้ ให้เป็นธุรกิจขายตรงเป็นตำนาน อย่างที่ท่านประธานสาครได้กล่าวไว้ จะไม่ใช่แค่รุ่นเรา แต่เดินทางไปสู่รุ่นหลานและส่งต่อไปอีกอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ด้วยแนวคิดนี้ จึงกลายเป็นแนวคิดที่มีคุณค่าจากประสบการณ์ที่เพาะบ่มมากว่า 20 และเป็นประสบการณ์แห่งความสำเร็จด้วย เพราะถูกหล่อหลอมและต้องการตกผลึกทางความคิด ก่อกำเนิดเป็นบริษัท ดี เน็ทเวิร์ค ขึ้นมา


ชูนวัตกรรมใหม่ล้วนๆ
ไม่เน้นสินค้าตามกระแส
บอสผู้นำทัพ สาคร ได้กล่าวถึงการเซ็ตยุทธศาสตร์ ภายหลังจากการดรีมทีมลงตัวว่า สิ่งที่ต้องทำต่อไป นั่นคือ การเฟ้นหาผลิตภัณฑ์หลักที่จะชักนำองค์กรก้าวสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะในเรื่องของสินค้า ดี เน็ทเวิร์ค ก่อตั้งขึ้นมา ภายใต้นวัตกรรมที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ข้อแรก คือ 1. เป็นนวัตกรรมสินค้าใหม่ 2. นวัตกรรมด้านการตลาดหรือแผนการตลาด ภายใต้นโยบาย 6 ข้อดังนี้คือ


1. การเลือกเฟ้นสินค้าต้องมีนวัตกรรม 2 . ต้องเห็นผลลัพธ์ บางครั้งนวัตกรรมดี แต่ว่าไม่มีผลลัพธ์ไม่ได้ เพราะว่าตลาดขายตรงในประเทศไทย สินค้าต้องตอบโจทย์ทันที คือทานแล้วเห็นผลเพียงไม่กี่วัน แต่หลาย ๆ เดือนคงจะไม่ได้ 3. เมื่อขายดีแล้วลิขสิทธิ์ต้องเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว เพื่อเอื้อให้นักธุรกิจของเราตลอดไป และไม่ทำให้แบรนด์เสียหายหรือเสียไปให้คนอื่น 4. ที่สำคัญสินค้าต้องเบาด้วย เพราะจะสะดวกต่อการขนส่ง 5. นั่นคือ เรื่องของราคา ต้องเอื้อกับลูกค้า สินค้าดีต้องราคาไม่แพง 6. นวัตกรรมต้องรองรับตลาดอาเซียนที่จะเกิดขึ้นภายในอนาคต เป็นนวัตกรรมที่จะแข่งกับคู่แข่งในตลาดอาเซียนที่จะเข้ามาได้


ถามว่า ทำไมต้องเน้นสินค้าที่เป็นนวัตกรรม เพราะว่าเรามองสินค้าในธุรกิจเครือข่ายมีอยู่ 3 กลุ่มหลักๆ ที่บริษัทไม่มุ่งเน้นทำ นั่นคือ สินค้าทั่ว ๆ ไป เพราะเราต้องทำแข่งกับขายปลีก และต้องทำแข่งกับขายตรงด้วยกัน มันก็จะเหนื่อย สินค้ากลุ่มที่ 2 ก็คือ สินค้าตามกระแส หากสินค้าตัวไหนขายดี เพียงแค่ก็อบปี้เพิ่มสูตรนิด ๆ หน่อย ๆ หากเขาเป็นจ้าวตลาด เราตามไม่ทันอยู่แล้ว


ดี เน็ทเวิร์ค จึงเลือกสินค้ากลุ่มที่ 3 นั่นคือ สินค้าที่นำกระแส เพื่อต้องการสร้างนวัตกรรมใหม่ ที่สำคัญต้องเป็นสินค้าที่ไม่มีในท้องตลาด ถึงจะเรียกว่า ดีมานด์สูงซัพพลายต่ำ นั่นถึงจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของท้องตลาดได้ ฉะนั้น ต้องเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมและ เลียนแบบไม่ได้ นั่นคือ อัตลักษณ์ของ ดี เน็ทเวิร์ค บุคลิกของเราต้องเป็นเช่นนี้


เมื่อคิดโจทย์ได้ดังนี้ เราจึงวางแผนโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก แต่ต้องบอกก่อนว่าการทำพีอาร์ผ่านสื่อเหมือนเป็นการรบทางอากาศ ซึ่งตอนนี้มีนักธุรกิจของเรากระจายสินค้าผ่านสื่อต่าง ๆ อยู่บ้าง แต่ยังไม่เป็นตลาดแมส นับจากนี้เป็นต้นไป เราจะนำสินค้าผ่านสื่อมากขึ้น จากเดิมที่เราใช้ระบบปากต่อปาก 1 ต่อ 1 เสมือนว่าเรารบบนบกอยู่แล้ว เมื่อเราใช้สื่อก็เป็นการรบในการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น


ภูมิสนอง กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นการเลือกเฟ้นสินค้าว่า ด้วยภาวการณ์ตอนนี้ผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สินค้าเพื่อสุขภาพมีการเติบโตขึ้นทุกปีประมาณ 20% เค้กถูกแบ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ครึ่งหนึ่งจากอาหารเสริม


และในยุคของอาหารเสริมแบ่งออกเป็น 3 ยุค นั่นคือ ยุคที่ 1. เรียกว่ายุคของการฟื้นฟูเซลล์ ยุคนี้เป็นยุคประมาณปี 90 หรือว่า 200 ปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าประเภทนี้ถือว่าเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ยุคที่ 2. เรียกว่า ลุคยัง คืออ่อนกว่าวัย เมื่อทานสินค้าแล้วดูอ่อนเยาว์ลง ส่วนยุคที่ 3. เรียกว่า ยุค feel young ที่แปลว่าความรู้สึก ทำให้ความรู้สึกของเรากลับมา ไม่ใช่เพียงแค่หน้าตา คือทานสินค้าไปแล้วคืนความเป็นหนุ่มเป็นสาวกลับมา นี่คือสเต็ปของอาหารเสริม ต้องบอกว่าเทรนด์ของเราอยู่ในยุคที่ 3 ฉะนั้น จะต้องทำการบ้านให้ดีและอย่างหนัก


ดังนั้น สินค้าที่เริ่มต้นก็จะเป็น โกเรจินส์ เป็นตัวแรกที่นำเข้ามาตีตลาดมีสรรพคุณอยู่ 7 อย่าง ซึ่งขณะนั้นโสมตลาดยังไม่ตาย เพราะมันเป็นราชาสมุนไพร เป็นนวัตกรรมที่นำเข้ามาจากเยอรมัน มีการผสมผสานระหว่างหยินและหยาง คือปกติถ้าทานหลายเม็ดจะร้อน แต่ตัวโกเรจินส์ไม่เป็นไร ตัวนี้จะขายดีมาก เพราะว่าโสมปลูกที่เกาหลี แต่ได้นวัตกรรมจากเยอรมัน แล้วนำมาประกอบที่บ้านเราที่มีส่วนผสม 7 อย่าง นี่ถือว่าเป็นสินค้าพระเอกของเรา ถือว่าเป็นเจ้าแรกที่มีการผสมโสมหยินและหยางรวมกัน ที่เป็น 1 เดียวด้วย


และสินค้าอีกตัวหนึ่งที่เรากำลังโปรโมทหนัก นั่นก็คือ สินค้า ดี - เบลม (D-BARIME) หรือมาจากคำว่า Brain ที่แปลว่าสมอง บวกกับคำว่า Memory เอา 2 คำนี้มารวมกัน นั่นก็หมายความว่า สมองดีมาก ความจำดีมาก ซึ่งหากจะมองในส่วนของดีมานด์และซัพพลาย ตอนนี้ตลาดให้ความสนใจมากในเรื่องของสมอง ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยทำงาน หรือ วัยผู้ใหญ่ ที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้


สิ่งที่สำคัญสินค้าตัวนี้มีงานวิจัยจากทางรัฐบาลอินเดีย มี CDRI ซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าของรัฐบาลอินเดีย เป็นสินค้าระดับสากล CDRI ย่อมาจาก the Central Drug Research Institute เปรียบเสมือน องค์การเภสัชบ้านเรา เป็นองค์การส่วนกลางที่มีมาตรฐานสากลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ก็มาทำวิจัยด้วย ดังนั้น เป้าหมายที่มีการนำสินค้าตัวนี้เข้ามา ก็คือ ต้องการที่จะพัฒนาไอคิว ความจำในการเรียนให้สูงขึ้น ซึ่งเรามีการทดลองก่อนที่จะนำมาจำหน่าย ผลจากการเทสต์กับเด็ก พบว่ามีผลการเรียนที่ดีขึ้น บางคนที่เรียนได้เกรด 2 ก็ขยับเป็นเกรด 4 กันเกือบทุกวิชา เหตุผลเพราะการทานอาหารเสริมตัวนี้ และในวัยทำงานที่หลง ๆ ลืม ๆ เครียด ทำงานมาก พักผ่อนน้อย สินค้าตัวนี้จะทำให้ปลายประสาทผ่อนคลายสำหรับวัยทำงาน 1 วัน สามารถทานได้ 6 เม็ด หรือแม้กระทั่งคนที่อายุมากหรือความจำเสื่อม ก็สามารถฟื้นความจำกลับมาได้


นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่เป็นเยลลี่ กัมมี่ บรรจุสารอาหารที่เด็ก ๆ ไม่ชอบทานแคปซูลหรือเม็ด ก็ทำการผลิตในรูปแบบเยลลี่แทน สารอาหารอีกตัวหนึ่งจะเป็นอาหารเสริมในรูปแบบของลูกอมไว้สำหรับเคี้ยว สามารถซึมใต้ลิ้นได้ เพราะมีสารอาหารเข้มข้นสูงมาก และยังมีสินค้าอีกหลากหลายรายการที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิก ภายใต้สินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เป็นจุดยืน


ส่วนตัวเลขความเคลื่อน ไหวกับอัตราการเติบโตของสมาชิก อุทัย กล่าวต่อว่า สมาชิกให้การตอบรับที่ดีมาก ตอนนี้มีการสมัครประมาณ 40,000 สมัคร 1 คน 1 รหัส ซึ่งจะเป็นครอบครัว สามี - ภรรยาได้ก็นับเป็นรหัสเดียว เพราะธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจของครอบครัว โดย 1 รหัสสามารถทำงานได้ทั่วโลก ด้วยศักยภาพแผนการตลาดของเรา สามารถทำธุรกิจแบบ ONE CODE ONE WORLD ได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องการ


นอกจากการสร้างนวัต กรรมใหม่ในส่วนของผลิตภัณฑ์แล้ว เรายังสร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มาอยู่กับเราจะต้องสำเร็จได้ จึงมีการสร้างความสำเร็จด้วยระบบหลักสูตร สร้างคนรุ่นใหม่ ซึ่งตอนนี้เรามีทั้งหมด 28 หลักสูตร ถือว่าไม่เยอะ หลังสัมผัสหลักสูตรเครือข่ายมานานกว่า 22 ปี ความรู้ในธุรกิจเครือข่ายยังต้องศึกษาอีกเยอะ จึงอยากให้คนที่เข้ามาอยู่กับเราแล้วมีความรู้ ซึ่งความรู้นี่สำคัญมาก เราต้องการให้คนที่มั่นใจในอาชีพนี้ เพราะยิ่งถ้ามีความรู้มากเท่าใด ก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะเห็นว่าธุรกิจนี้มีความสวยงาม


หลังจากที่เราใช้ระบบสร้างความสำเร็จ ทำให้วันนี้เราเห็นชัดเจนสำหรับสมาชิกที่สำเร็จมีรายได้ร่วม ๆ หลักแสนขึ้นไป มีกว่า 20 รหัส ที่สำคัญยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสหรือทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อนมีมากถึง 60% เลยทีเดียว ฉะนั้น คนรุ่นเก่าที่ตามมาก็จะสำเร็จได้ง่าย


จริง ๆ แล้วเราต้องการจะเปิดโอกาสให้กับคนทุกรุ่น ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ คือต้องการแก้ไขปัญหาที่หลายคนกังวลว่า สามารถทำธุรกิจเครือข่ายรวยได้จริงหรือ ก็จะมีคนหลาย ๆ คนที่ไม่มั่นใจ นี่คือการแก้โจทย์ที่เห็นภาพในส่วนนี้ และแผนการตลาดของเราต้องเอื้อและเป็นไปตามธรรมชาติด้วย จากนั้นก็จะซัพพอร์ตผ่านโปรโมชั่นต่าง ๆ แล้วเติมด้วยกลยุทธ์ ลด แลก แจก แถม ซึ่งเหมาะกับบุคลิกของคนไทย จึงสามารถทำตลาดให้ตรงกับความต้องการของคนไทยมากที่สุด


ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชั่นท่องเที่ยว บริษัทได้เน้นย้ำเรื่องนี้เหมือนกับหลาย ๆ บริษัท เพราะโดยธรรมชาติการท่องเที่ยวต้องล้อไปกับอาชีพเครือข่ายอยู่แล้ว เนื่องจากคนที่ทำเครือข่ายบางคนชอบท่องเที่ยว เพราะมีโอกาสได้ท่องเที่ยวฟรี ที่ผ่านมาเราได้ท่องเที่ยวไปแล้ว 3 ประเทศด้วยกัน คือ 1. ฮ่องกง มาเก๊า 2. มาเลเซีย 3. เวียดนาม และเร็ว ๆ นี้จะไปเที่ยวที่คุนหมิงประเทศจีน ส่วนปลายเดือนพฤศจิกายนจะไปแถบทวีปยุโรป อาทิ อิตาลี ออสเตรีย, ฝรั่งเศส, และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการทำงานเพียงแค่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิก แล้วก็ทำผลงานตามที่บริษัทกำหนด ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ยาก ขณะนี้มีสมาชิกที่พิชิตโปรโมชั่นคุนหมิงกว่า 60 คน ส่วนโปรโมชั่นไปยุโรปก็มีประมาณ 10 ท่าน และที่สำคัญยังสามารถเก็บคะแนนลุ้นรางวัลท่องเที่ยวได้อย่างไม่มีลิมิต


ล่าสุด บริษัทได้จัดงานรวมพลรวมพลังจากผู้นำทั่วประเทศรวมกัน 100 กว่าท่าน เพื่อจะทำธุรกิจในเชิงรุก รวมทั้งสิ้นประมาณ 500 ท่าน การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เป็นการจัดนอกสถานที่ โดยปกติจะจัดที่บริษัทกลุ่มย่อย 100 -150 คน แต่การจัดครั้งนี้ถือว่าเป็นการจัดงานใหญ่สุดเป็นครั้งแรกที่เปิดหลักสูตร Power leader ณ ศูนย์วิจัยสถาบันจุฬาภรณ์ ถือเป็นการรวมผู้นำ เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจจะเติบโต พลังคนคือจุดสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ


ขณะนี้ฐานผู้นำเรากระจายอยู่ทุกภาคทั้งประเทศ ทั้งภาคเหนือ ใต้ และกลาง มีทั้งผู้นำเก่าและใหม่ที่เข้าสู่ธุรกิจก็สำเร็จระดับหนึ่ง มีรายได้จากหลักหมื่นสู่หลักแสนบาท ฉะนั้น การจัดหลักสูตรนี้ขึ้นมา เพื่อต้องการสร้างแรงบันดาลใจกับนักธุรกิจที่เป็นแกนนำ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อกระจายข่าวสารต่าง ๆ ออกไป


รวมถึงการเปิดผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อีก 1 ตัว นั่นคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงสายตา ซึ่งเราได้เชิญตัวแทนจากต่างประเทศชาวแคนนาดา มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ D contact ซึ่งมีศูนย์วิจัยตั้งอยู่ในหลายประเทศด้วยกัน อาทิ ฝรั่งเศส, แคนนาดา, สวิตเซอร์แลนด์, และ ไต้หวัน นี่คือ 4 สาขาศูนย์วิจัยของไต้หวัน เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงกระจกตา สายตาสั้น และสายตายาว เป้าหมายสิ้นปี 30,000 กล่องขึ้นไป พ่วงด้วยกลยุทธ์การบุกตลาดวิทยุชุมชน เพื่อต้องการกระจายข่าวสาร ตอนนี้มี 500 สถานีที่ตอบรับกลับมา


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่327 ประจำวันที่1 - 15 กันยายน 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น