ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

MLM Gossip (ล้วงลับคนเครือข่าย) : ไมเคิล ซาเฟล แห่ง บีฮิป (Bhip Thailand) ภาค 8 : ทุ่มซื้อโฆษณาเอาตำรวจมาการันตี


กรณีข่าวโลกไซเบอร์ว่าไมเคิล ซาเฟลนักธุรกิจขายตรงบริษัท บีฮิบ จำกัด แฟนดาราสาว"ตาล กัญญา รัตนเพชร์"อาจเข้าข่ายฉ้อโกงแบบแชร์ลูกโซ่ ตาลออกมาแถลงข่าวไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวการทำธุรกิจของแฟน


 


ล่าสุดข่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทบีฮิบอย่างมาก บริษัทจึงทำคลิปโฆษณาแก้ข่าว ซื้อพื้นที่โฆษณาตามเว็บไซต์ หลายแห่ง เช่น Sanook, Mthai นำคลิปไปลงเผยแพร่ คลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 50 วินาที มีเนื้อหาให้สัมภาษณ์ของ"พ.ต.ท.ดร.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์"พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ยืนยันว่า บริษัทบีฮิบจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย แต่คนที่ทำธุรกิจสำเร็จบอกว่าไม่โดนหลอก คนที่ทำไม่สำเร็จบอกว่าโดนหลอก


คลิปวิดีโอมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า พยายามหาตำรวจมารับประกันวิธีการทำธุรกิจของบีฮิบว่าถูกกฎหมาย ใช่หรือไม่ (7 ก.ย.) พ.ต.ท.ดร.นิติพัฒน์ยืนยันว่า คำให้สัมภาษณ์ของตนมิใช่การการันตีให้บริษัทบีฮิบแน่นอน เป็นการให้สัมภาษณ์เพื่อให้ความรู้ด้านธุรกิจขายตรงกับประชาชน เพื่อไม่ให้โดนหลอก ตนไม่คิดว่าจะถูกนำคลิปไปใช้เพื่อการโฆษณา


"มีนักข่าวสื่อขายตรงติดต่อมาขอสัมภาษณ์เรื่อง ขายตรง ผมทำวิจัยเรื่องขายตรงเป็นด็อกเตอร์ด้านขายตรง เขามาถามว่าการประกอบธุรกิจขายตรงเป็นยังไง มีขั้นตอนอะไรบ้าง การทำธุรกิจด้านขายตรงมีข้อพิจารณาแยกแยะระหว่างแชร์ลูกโซ่กับขายตรงยังไง เขาถามคำถามหนึ่งว่าเรื่องบีฮิบว่า บีฮิบได้รับอนุญาตไหม เราบอกว่าจากการตรวจสอบคือได้รับอนุญาต แต่หลังจากได้รับอนุญาตแล้วเขาจะไปดำเนินการในสิ่งที่ได้รับอนุญาตยังไงเราไม่รู้ มันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่เข้าไปทำกันกฏหมายหรือเป็นไปตามสิ่งที่มายื่นไว้ไหมเราไม่รู้ เราไม่ได้ไปดูในเรื่องรายละเอียด"


"เป็นการสัมภาษณ์เชิงวิชาการที่ ทำวิจัยไม่ใช่การสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน มองว่าเป็นเรื่องการให้ความรู้กับประชาชนมันเป็นเรื่องที่ดีเรา ให้สัมภาษณ์ไป ผมไม่ได้การันตีให้เขา และเขาไม่ได้ขออนุญาตผมว่าจะเอาบทสัมภาษณ์ไปลงโฆษณา ถ้าคลิปมันทำให้ทุกคนคิดว่าผมไปการันตี เขาต้องดำเนินการเอาออก"


"จริงๆ ผมให้สัมภาษณ์ไป 10 นาทีแต่เขาเอามาตัดออกแค่ 50 วินาที มันจะไปรู้เรื่องอะไร ผมไม่ได้การันตีให้เขาแน่นอนขนาด ครอบครัวเดียวกันเห็นหน้ากันทุกวัน พอเขาออกจากบ้านไปทำอะไรบ้าง ผมยังไม่รู้เลยเขาไปทำกิจกรรมยังไงบ้างผมยังการันตีไม่ได้เลย นี่มันธุรกิจขายตรงเขาทำอะไรยังไง เราจะไปรู้ได้ยังไงจะไปการันตีให้เขาได้ยังไง ผมไม่ได้ไปนั่งฟังกับเขาด้วย ใครจะกล้าไปการันตีว่าบีฮิบทำถูกต้องตามกฏหมาย"


"ถ้าเขาตัดคลิปมันเกิดความเสียหายขึ้นแน่นอน เพราะเขาเอาไปออกแค่ 50 กว่าวินาที มันจะไปได้ข้อมูลได้ความรู้อะไร ผมให้สัมภาษณ์เพราะอยากให้ความรู้ประชาชน ถ้ามันไม่ถูกต้องคงต้องแจ้งไปให้ทางเว็บที่เอาไปลงถอดออก เพราะการที่เขาเอามาออกแบบมันไม่ได้ให้ความรู้กับประชาชนมันไม่ใช่วัตถุ ประสงค์ของผม การเอาตรงนี้ไปลงคลิปโฆษณา มันไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเรา"


"ผมไม่รู้เจตนารมย์ของคนที่เอาคลิปนี้ไปลง ผมรู้แต่ว่าสิ่งที่เขาถามมันเกี่ยวกับงานวิจัยของผมและเป็นเรื่องที่ดีที่ ประชาชนจะรู้เท่าทันการขายตรง ผมก็เลยยินดีให้สัมภาษณ์เพราะคิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนผมไม่คิดว่าเขาจะมาหลอกถามผมหรอกนะ แต่มันเป็นการเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์กันมากกว่า"นอก จากนั้นแล้ว พ.ต.ท.ดร.นิติพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่าสำหรับใครที่มีข้อปัญหาหรืออยากจะร้องเรียนการกระทำผิดกับผู้ บริโภคสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่เบอร์ 1166


อย่างไรก็ตาม ภายหลังคลิปดังกล่าวที่มีความยาว 50 กว่าวินาทีได้ถูกถอดไป และมีการเปลี่ยนคลิปใหม่ใส่เข้ามาแทน ซึ่งคราวนี้เป็นคลิปที่มีความยาว 5.37 นาที และเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ยูทิวบ์ในช่วงเช้าวันเสาร์ (8 ก.ย.) พบว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้าชมแล้วประมาณ 2,500 คน และมีความเห็นจากผู้ชมที่แสดงความไม่เห็นด้วยบางส่วน โดยความเห็นที่ถูกโหวตเป็นลำดับแรกเป็นความเห็นจากผู้ใช้ที่ชื่อ Adule Kruawan ระบุข้อความว่า


"ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ แล้วคดีในอดีตผมยังจำได้ 'ไคโตซาน หรือ ปูแดง' ทำการตลาดคล้ายกัน มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน (เกษตรกร) มีสินค้าไม่หลากหลาย(ขายปุ๋ย)แต่มากกว่าบีฮิปแน่นอน ยังถูกจับ แล้วทำไมบีฮิป เป้าหมายก็ไม่ชัดเจน สินค้าก็ไม่มีอะไรเลย นอกจากน้ำอะไรนั่นน่ะ มองยังไงก็เข้าข่ายมากกว่าเหมือนปูแดงซะอีก แบบนี้เรียกว่าสองมาตรฐานหรือเปล่า"


อ้างอิง :manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น