สุดอาถรรพ์ อิมพีเรียล ลาดพร้าว พื้นที่เพ่งเล็ง บก.ปคบ.นำกำลังบุกเข้าจับกุม บริษัท เอสดี แอดวานซ์ จำกัด หลังฝ่าฝืน เปิดดำเนินธุรกิจขายตรง ไร้ใบอนุญาตจากสคบ.จ่อปรับ 1 แสนบาทต่อวัน เป็นรายที่ 2 ของปี 55 แหล่งข่าวเผย ขี้ฉ้อชอบเปิดออฟฟิศตามซอกหลืบ ชี้ขายซิม ขายกล่องสัญญาณ โทรทัศน์ ดึงแผน MLM สร้างยอดขายเกลื่อน กฎหมายขายตรงเข้าไม่ถึง หวั่นลักลอบทำ มันนี่เกม!
จากนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ต้องการยกระดับวงการขายตรง โดยการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ล่าสุดเพื่อเป็นการขานรับนโยบายดังกล่าว กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของธุรกิจขายตรงและได้มีการนำกำลังเข้าตรวจสอบศูนย์จำหน่ายสินค้าของ บริษัท เอสดี แอดวานซ์ จำกัด ที่เปิดดำเนินการที่ห้างอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว หลังจากที่ได้รับการแจ้งว่า บริษัทดังกล่าวได้เปิดดำเนินธุรกิจขายตรง แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจจาก สคบ.แต่อย่างใด และมีพฤติกรรมการดำเนิน ธุรกิจเข้าข่ายเป็นมันนี่เกม ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค และทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ บก.ปคบ.พบว่า บริษัทดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจจากทาง สคบ.จริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สอบถาม ไปยังบริษัทดังกล่าว ก็ได้คำตอบว่าขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาต และบริษัทยังไม่ได้เปิดดำเนินธุรกิจแบบเต็มตัว เพียงแค่เปิดรับสมัครสมาชิก ที่สนใจเข้ามาร่วมธุรกิจ แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น บก.ปคบ. ได้มีคำสั่งให้บริษัทดังกล่าวหยุดดำเนินกิจการไปก่อน และสามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้เมื่อได้รับใบอนุญาตจาก สคบ.เป็นที่เรียบร้อย แต่หากยังฝ่าฝืนที่จะเปิดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยบริษัทจะถูกปรับเป็นเงิน 100,000 บาทต่อวัน
> อาถรรพ์ ไม่โดนจับ ก็ยากจะเกิด
อิมพีเรียล ลาดพร้าว นับเป็นห้าง สรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ระหว่างกลาง ของถนนลาดพร้าว ประชาชนที่มักจะมาเดินจับจ่ายช็อปปิ้งในสถานที่ ก็จะมีมากมาย หลายกลุ่มคน และมากมายหลายช่วงอายุ ซึ่งจากที่เป็นแหล่งช็อปปิ้ง และมากมายพลุกพล่านด้วยผู้คน สิ่งนี้อาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทขายตรงแห่ขนของขึ้นห้าง มาตั้งเปิดบริษัทและดำเนินธุรกิจซึ่ง อิมพีเรียล ลาดพร้าว นับเป็นพื้นที่ยอดนิยมของแบรนด์ขายตรง แต่อีกมุมมอง สถานที่แห่งนี้ ก็เปรียบเสมือนพื้นที่ อาถรรพ์ของธุรกิจขายตรงเช่นกัน เพราะตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา แทบไม่เคยมีบริษัทใดที่ อยู่ในพื้นที่ได้อย่างมั่นคงมั่งคั่ง จะมีชื่อโด่งดังก็หนักไปทางลบ หรือไม่ก็โด่งดังกลายเป็น กระแสที่ดี แต่ก็ไม่นานก็วูบหายไป ตัวอย่างที่เห็นชัดก็น่าจะเป็น โสมเกาหลีตังกุยจับ ซึ่งเคยโด่งดัง สมาชิกล้นหลาม ทำห้างอิม พีเรียลเล็กลงถนัดตา แต่ไม่นานจากปัญหาภายใน แบรนด์โสม ก็หายไปจากใจของคนขายตรง จะเหลือไว้ก็เพียงวันวานเท่านั้น
ทั้งนี้ หากมองผิวเผินสถานที่แห่งนี้ เหมาะที่จะเป็นพื้นที่สร้างเครือข่าย เนื่อง จากผู้คนมากมายมักจะเดินทางมาช็อปปิ้ง อีกทั้งยังอยู่ใจกลางลาดพร้าว แหล่งเศรษฐกิจ ขนาดใหญ่ ไม่แพ้ที่ใดในกรุงเทพฯ แต่จากปัญหา และเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ อิม พีเรียล ลาดพร้าว กลายเป็นพื้นที่เพ่งเล็ง ของหน่วยงานรัฐ ซึ่งคนในวงการขายตรงมองไปถึงว่า พื้นที่แห่งนี้ เป็นสถานที่อาถรรพ์ ของวงการเครือข่าย
> ขายตรงซิมกล่องรับสัญญาณเกลื่อน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทขายตรงถูกจับในคดีความดังกล่าว โดย อิมพีเรียล ลาดพร้าว นับเป็น ห้างสรรพสินค้าที่มีบริษัทขายตรงแห่มาเช่า สถานที่เพื่อประกอบธุรกิจมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหากนำพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ แล้วมาเช็กเรื่องของจำนวนแล้ว อิมพีเรียล ลาดพร้าว นับเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่มีบริษัทขายตรงอยู่มากที่สุด จะเป็นรองก็คงมีเพียง ถนนรัชดาฯ พื้นที่ยอดนิยมของบริษัทขายตรงเท่านั้น
โดยในช่วงก่อนหน้าที่ บริษัท เอสดี แอดวานซ์ จำกัด จะถูกตำรวจ บก.ปคบ. บุกตรวจและจับกุม เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา ก็มีคดีความที่คล้ายกัน โดยเป็น บริษัท เยส ไอ แคน คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่ถูกกอง บก.ปคบ. บุกตรวจ จับในทำนองเดียวกัน โดยที่บริษัทดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตรับรองจากสคบ.ในการดำเนินธุรกิจขายตรง ซึ่งทางบริษัทบอกแต่เพียงว่าอยู่ในช่วงของการขอใบอนุญาต ซึ่งเป็นคำตอบเดียวกันกับ บริษัท เอสดี แอดวานซ์ฯ
นี่ไม่ใช่ 2 บริษัทแรกที่ใช้ อิมพีเรียล ลาดพร้าว เป็นศูนย์บัญชาการ หรือศูนย์สาขาของบริษัทที่ถูกดำเนินคดีตามความ ผิด ตามกฎหมายขายตรง แต่นับตั้งแต่อดีต ที่ผ่านมา พื้นที่แห่งนี้นับเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ที่ตำรวจขายตรง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับตาเป็นพิเศษ เพราะในทุกปี การฟ้องร้อง หรือการจับกุมบริษัทขายตรงบนห้างดังย่านลาดพร้าวนี้ ต้องมีขึ้น ไม่ 1 ก็ 2 บริษัท ซึ่งในปีนี้ ก็เกิดแล้ว 2 ครั้ง กับ 2 บริษัท ซึ่ง อีกกว่า 4 เดือน ก็ไม่ทราบว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบนห้างแห่งนี้อีกหรือไม่อย่างไร
แหล่งข่าวรายหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็น ผู้บริหารของบริษัทขายตรงแบรนด์หนึ่ง และเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับบริษัทขายตรงหลายบริษัท ซึ่งตั้งอยู่บนห้าง อิมพีเรียล ลาดพร้าว เปิดเผย สยามธุรกิจ ว่า ปัจจุบันอิมพีเรียลลาดพร้าว มีบริษัทขายตรงเปิดอยู่ประมาณ 30 บริษัท ซึ่งมีทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ โดยหากมองให้ดีบริษัท ที่ตั้งอยู่บนห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว มีจำนวนน้อยกว่าย่านรัชดาฯ ส่วนเรื่องร้องเรียนก็น้อยกว่าย่านรัชดาฯ แต่ด้วยพื้นที่ อิมพีเรียล ลาดพร้าวเล็กกว่ารัชดาฯ ทำให้ถูกมอง และเพ่งเล็งมากกว่า
รูปแบบของบริษัทขายตรงที่มักจะกลายเป็นข่าวที่ไม่ดี มักจะตั้งออฟฟิศอยู่ใน พื้นที่ขนาดเล็ก มีการตกแต่งออฟฟิศที่ไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่า อีกทั้งยากที่จะมองให้ออกว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอะไร ซึ่งต้องยอม รับว่า บริษัทขายตรงที่นี่ ประมาณ 10% เป็นบริษัทขายตรงที่ก้ำกึ่งในการกระทำผิด ซึ่งเรื่องนี้คงต้องอยู่ที่ตำรวจ ว่าจะสืบเจอว่าบริษัทนั้นกระทำผิดหรือไม่อย่างไร
สิ่งหนึ่งที่น่ากลัวคือ บรรดาบริษัทที่นำซิมโทรศัพท์มือถือเข้ามาขาย รวมทั้ง บรรดากล่องสัญญาณโทรทัศน์ ที่เปิดดำเนิน ธุรกิจคล้ายธุรกิจเครือข่าย แต่ก็ไม่มีกฎหมาย ในการเอาผิด ซึ่งคงต้องรอดูว่าต่อไปว่า ธุรกิจเหล่านี้จะเป็นอย่างไร แหล่งข่าว ผู้คลุกคลีอยู่บนห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว กล่าว
โดยทางด้าน พ.ต.ท. พีรวัส อุดมทรัพย์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ติดตามความเคลื่อน ไหวของบริษัทขายตรงต่างๆ อยู่ โดยเฉพาะ ในส่วนที่เปิดอยู่บนห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งนอกจากบริษัทที่ทางตำรวจได้เข้าจับ กุมนี้แล้ว ทางกองยังมีอีก 1-2 รายชื่อบริษัท ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อหาหลักฐานในการเอาผิด ซึ่งตรงนี้ต้องใช้เวลาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์จับกุมผิดตัว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1331 ประจำวันที่ 1-8-2012 ถึง4-8-2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น