ตาล ไม่รู้แฟนฝรั่งทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่-โกงเงินเหยื่อ ท้าตำรวจตรวจสอบ
[gallery link="file"]
คบหากันมาร่วม 2 ปี ก็ดูจะราบรื่นมาโดยตลอด แต่จู่ๆก็มีผู้หวังดีแฉพร้อมเตือนสาวตาล-กัญญา รัตนเพชร์ผ่านโลกไซเบอร์ว่า หวานใจหนุ่มนักธุรกิจนำเข้าสินค้าตาน้ำข้าวไมเคิล ซาเฟลทำธุรกิจผิดกฎหมาย แชร์ลูกโซ่และยังโกงเงินเหยื่อไปจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ล่าสุดสาวลูกตาลเปิดใจถึงประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นในงานบวงสรวงละคร 3 เรื่อง 3 รส กว่าจะรู้เดียงสา,เก้าอี้ขาวในห้องแดง,กิ่งทอง ดอกฟ้า หมาวัด ที่สตูดิโอมนตรี 10 ว่า ตาลก็ทราบทางเน็ต จริงๆแล้วเรื่องส่วนตัว งานของเขาตาลไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวจริงๆ ตาลแค่รับผิดชอบงานแสดงและเรียนก็ยังจะไม่ไหวแล้ว ก็มีโอกาสได้อ่านทางเน็ตแล้วมีบางคนไปโพสต์ในกระทู้
ก่อนคบกันทราบมาก่อนไหมว่าเขาทำงานอะไร
ไม่ทราบค่ะ รู้แค่ว่าเป็นนักธุรกิจนำเข้สินค้าขายประเทศไทยค่ะ
หลายคนเป็นห่วงว่าเราจะโดนหลอก เพราะเขาเอาชื่อเราไปแอบอ้าง
เอาเป็นว่าตาลก็เป็นห่วงตัวเองเหมือนกันค่ะ ที่ตาลคุยกับเขาก็พอรู้จักนิสัยพื้นๆของเขา แต่ไม่ได้ยุ่งเรื่องชีวิตส่วนตัวของเขา
เขาชวนเราทำธุรกิจไหม
ไม่มีค่ะ ส่วนใหญ่ตาลไม่คุยเรื่องธุรกิจอยู่แล้ว
พอมีข่าวออกมาเราได้คุยกับเขาหรือยัง
ได้คุยบ้างแล้ว ต่างคนต่างก็ไม่รู้จะพูดยังไง เมื่อกระแสมันออกมา เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไงเพราะตาลก็มีความรู้สึกว่าเขาทำธุรกิจมาตั้ง 10 ปี ถ้าเขาโกงจริงๆ ทำไมตำรวจถึงไม่ไปจับเขา ทำไมไม่มีการเข้าไปตรวจสอบ อันนี้คือสิ่งที่ตาลสงสัย ไม่ได้เข้าข้างเขานะคะ
เราเชื่อข่าวไหม
ตาลก็เฉยๆเพราะเราเองก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับธุรกิจนี้และไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์
เครียดไหม
ก็เครียดเหมือนกันนะ อยู่ดีๆก็งงว่าทำไมมีข่าวออกมาได้
ยังคบกันอยู่
ก็ยังคุยอยู่ แต่ไมได้คุยเรื่องงาน อยากให้ทุกคนแยกประเด็นเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมากกว่า
ความรู้สึกแรกพอทราบข่าวนี้เป็นอย่างไร
ตกใจ นอนไม่หลับค่ะ งงเหมือนกันค่ะ ถามว่าสืบค้นอะไรเพิ่มเติมไหม ไม่ได้สืบค้น ก็มีคนมาให้ข้อมูลอยู่แล้ว ส่วนครอบครัวตาล ก็เป็นห่วงมากๆค่ะ แต่อย่างคุณแม่ตาลก็เคยเจออยู่แล้ว เรื่องงานเนี่ยคือคุณแม่ก็ไมได้สนใจจริงๆค่ะ เราคุยกันไม่จำเป็นต้องไปรู้ว่าเขามีเงินเท่าไหร่
เราอยากหาคำตอบไหมว่าเขาโกงเงินจริงไหม
ตาลอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเลยดีกว่า จะได้รู้แจ่มแจ้งไปเลยว่ามันเป็นยังไง เพราะบางกระแสในเน็ตมีทั้งดีและไม่ดี
ถ้าเขาผิดจริง
ก็คงต้องยอมรับค่ะ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์หลังจากนั้น ตาลยังไม่รู้เลยค่ะพี่
กลัวไหมว่าการที่เราคบกับคนนี้จะทำให้ภาพลักษณ์เราดูแย่
กลัวเหมือนกัน แต่อยากให้แยกแยะว่าเรากับเขาต่างกันในการทำงาน เขาทำธุรกิจเราเป็นนักแสดง เราก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องนี้และมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับตาลเลยด้วย
แต่ก็มีคนเม้าท์ว่าเขาเอาเราไปแอบอ้างว่าจะรวยและมีแฟนเป็นดารา
ธุรกิจของเขาที่ทำตาลก็เห็นมีพรีเซ็นเตอร์หลายคนมากที่เป็นดารา อย่างที่ตาลไปอ่านในเน็ตซึ่งตาลไปเชื่อเลยคือ ตาลถือผลิตภัณฑ์ถ่ายรูป ซึ่งตาลทำอย่างนั้นไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าทำก็โดนฟ้องเพราะตาลก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์อื่นอยู่แล้ว
ชาวเน็ตยังแฉอีกว่าตาลใส่เสื้อเหมือนโปรโมทให้สินค้าของแฟนหนุ่มด้วย
ในงานสัมมนาของเขา ก็มี คุณตัน ภาสกรนที เป็นคนขึ้นไปบรรยาย แล้วที่คุณตันพูดเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องธุรกิจนี้เลย เขาพูดถึงหลักการใช้ชีวิตทั่วไปและอาจารย์สมคิดก็ไปพูด ซึ่งตาลก็ไปดูเฉยๆ
ถามถึงภาพที่จับมือกันแล้วมันไปเหมาะเจาะตรงเป้าผู้ชายพอดี
คนคิดมาก ตาลดูภาพยังไม่ได้รู้สึกอะไร จนมีคนบอกว่ามันมีจับอะไรอย่างนี้นะ บังเอิญว่ามุมกล้องมันมาทางนั้นพอดี ตาลก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คนคิดแบบนั้น ซึ่งตาลไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ซึ่งตอนนั้นเป็นการดูการแสดงเฉยๆ
มีข่าวว่าฝ่ายชายซื้อรถเฟอร์รารี่ให้เราด้วย
เขาไม่ได้ซื้อ พอดีว่ารถตาลพังค่ะ ก็เลยยืมรถเขามาใช้ก่อนเพราะเวลาเดินทางก็ไม่ค่อยสะดวกด้วย
รู้สึกว่าเขารวยผิดปกติไหม
เวลาที่เขามาหาตาลที่กอง เขาก็นั่งมอเตอร์ไซค์มาจากสยามจนถึงอารีย์ ตาลรู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิตที่หรูหราเลย และในภาพที่พี่เห็นคือเขาก็เป็นคนผมกระเซิงเอาขาพาดเก้าอี้ ใส่รองเท้ามอมแมม ตาลอยากให้ตัดสินด้วยการที่เจอตัวเขาจริงๆมากกว่า
ตอนนี้ความสัมพันธ์เป็นอย่างไรบ้างหลังมีข่าวออกมา
อย่างที่ตาลบอกก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ เพราะมันเป็นงานของเขา ตาลไม่รู้ว่าการที่เขาทำแบบนี้มันเป็นการตลาดหรือโปรโมทหรือเปล่า
เขาอธิบายให้เราฟังบ้างไหม
เขาก็บอกเหมือนกันว่าบริษัทอื่นเข้ามาใส่หรือเปล่า อาจจะโดนโจมตี เพราะก่อนที่ตาลจะรู้จัก เขาก็โดนโจมตีค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ
กลัวโดนหลอกไหม
ถ้าหลอกทางใจก็คงกลัวนะคะ (หัวเราะ) ที่ไม่ซีเรียสเท่าไหร่เพราะแยกแยะ ตาลก็ไม่ได้เกี่ยว แต่เท่าที่คุยเขาก็เป็นคนจริงใจมากๆ
เขามียืนยันไหมว่าบริสุทธิ์ ไม่ได้คดโกง
ตาลไม่กล้ายืนยันว่าคดโกงหรือไม่ เพราะตาลไม่ทราบจริงๆ
มั่นใจในตัวเขามากน้อยแค่ไหน
เจอข่าวแบบนี้ก็คงไม่มีใคร 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ก็ต้องเผื่อใจไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น