ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวขายตรง (MLM) : รื้อ! กฎหมายขายตรงกู้เศรษฐกิจ-ดันสู่องค์การมหาชน


จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สคบ. ประกาศชัดเตรียมรื้อพ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรง ปี 45 และตัวร่าง ที่คาราคาซังมานานทิ้ง เดินสายรับฟัง ความเห็น 3 ฝ่าย รัฐ-ผู้ประกอบการ-ประชาชน หาข้อยุติตั้งกฎหมายใหม่คุม MLM ชี้ไม่เกิน 1-2 ปี ได้บังคับใช้ พร้อมบอกแผน ไบนารี่ หากจ่าย ได้จริงก็ไม่ผิด ส่วนการตั้ง กรม ขายตรง ไม่ทิ้ง วางแผนตั้ง องค์การมหาชน ดูแลสร้างเอกภาพธุรกิจ ด้านนโยบายติดตรา สคบ.วอนผู้ประกอบการทำความเข้าใจกติกาใหม่ เรื่องเบี้ยประกันแค่ตีความผิด ย้ำชัด สคบ. หวังเป็นสื่อกลางระหว่าง ภาครัฐและเอกชน ยกระดับธุรกิจขายตรงไทย ช่วยเศรษฐกิจชาติ

นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า หลังจากเรื่องของพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบ ตรง ฉบับ พ.ศ.2545 ซึ่งมีหลายเสียงเห็นว่าพ.ร.บ. ตัวนี้ เก่าเกินไป เนื่องจากการพัฒนาของธุรกิจ ล้ำหน้าไปมาก ทำให้ต้องการที่จะให้รัฐแก้ไขปรับปรุง เพื่อบังคับขึ้นมาใช้ใหม่ โดยมีการร่างขึ้นมาแล้ว และเกือบที่จะได้บังคับใช้ ตอนนี้ตนเห็นด้วยที่จะมีพ.ร.บ.ตัวใหม่ ที่จะ กำหนดใช้ขึ้นแทน แต่ตนต้องการที่จะรื้อตัวร่างนี้ขึ้นใหม่หมด เพื่อให้ เกิดความเป็นธรรมแก่วงการโดยรวม

ปัจจุบันจากความผันแปรของเศรษฐกิจ และธุรกิจขายตรงที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไป จากพ.ร.บ.ฉบับ 2545 ที่บังคับใช้อยู่ ดูจะเก่าเกินไป ทำให้ตนต้องการที่จะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นนโยบายการทำงาน โดยหลังจากที่ตนได้เข้ามานั่งเป็นเลขาธิการ สคบ. เรื่องพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงตัวใหม่ นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการปรับแก้ไข โดยจะเป็นการรื้อตัวร่างเก่า และจัดทำขึ้นมาใหม่ โดยสคบ.ได้วางการทำงานในการสร้างพ.ร.บ.ตัวใหม่นี้ 3 ข้อ เลขาธิการ สคบ. กล่าว

โดยการทำงาน 3 ข้อ ที่เลขาธิการ สคบ.ได้วางเพื่อการทำพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงตัวใหม่ คือ 1.การประชุมเพื่อ รับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อ จัดทำพ.ร.บ.ตัวใหม่ 2.การรับฟังความคิดเห็น จากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะบรรดาผู้บริหาร บริษัทขายตรงต่างๆ เพื่อความเป็นธรรมกับ ทุกบริษัทและ 3.การรับฟังความคิดเห็นจาก ภาคประชาชน เพื่อให้เกิดการยอมรับ พ.ร.บ. ตัวใหม่จากผู้บริโภค

จากที่กล่าวมา จิรชัย เลขาธิการ สคบ.คนใหม่ พยายามที่จะเดินสายออกไปพบกับผู้บริหารของบริษัทขายตรง และประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำมา ใช้ในการทำงานของสคบ. โดยแผนการทำ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงตัวใหม่นี้ ทาง สคบ.เชื่อว่า ใน 1-2 ปีนี้ น่าจะสามารถ ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และบังคับใช้

ทั้งนี้ เลขาธิการสคบ. ยังกล่าวถึงแผน จ่ายแบบ ไบนารี่ ว่า เรื่องของแผนจ่ายแบบ ไบนารี่ เป็นเรื่องที่ไม่ผิด เพราะหาก บริษัทสามารถจ่ายได้จริงอย่างที่แผนบอก ก็ไม่มีความผิดอะไร เพราะแผนไบนารี่ก็อยู่ในกรอบของกฎหมายทุกอย่าง

ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นอีกอย่างหนึ่ง คือ ความเป็นไปได้ของการจัดตั้ง กรมขาย ตรง ขึ้น เพื่อการทำงานเฉพาะวงการธุรกิจ เพื่อให้ภาครัฐสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง เรื่องนี้ จิรชัย เลขาธิการสคบ. กล่าวว่า การตั้งกรมขายตรง เหมือนกับธุรกิจประกัน ภัยที่มีการตั้งกรมประกันภัย นับเป็นแนวคิด ที่ดี ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะธุรกิจจะมีผู้ดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการยกระดับวงการที่ดี แต่ทางสคบ.ในยุคตนไม่ได้เพียงคิดแค่นั้น แต่ต้องการที่จะตั้ง องค์การมหาชน ขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจเลยทีเดียว ถึงแม้การตั้งองค์การมหาชน จะทำให้ขายตรงหลุดจากการควบคุมของ สคบ.ก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะหากสิ่งใดจะสามารถยกระดับ ธุรกิจได้ สคบ.ก็พร้อมผลักดัน

อย่างไรก็ดี ในส่วนของนโยบายการรณรงค์ติดตราสัญลักษณ์สคบ. ที่รัฐบาลต้องการให้บริษัทขายตรงเข้ามาขอรับ เพื่อ เพิ่มความน่าเชื่อถือ ตอนนี้ก็ยังไม่มีบริษัทใด เข้ามาขอรับอย่างจริงจัง เนื่องจากยังมีข้อข้องใจ และสงสัยในกฎเกณฑ์หลายข้อ โดย เฉพาะเรื่องการที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันกับบริษัทประกัน เพื่อเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการไม่เห็น ด้วย จากเหตุที่ว่าเบี้ยประกันแพงเกินไป

ในเรื่องนี้ จิรชัย เผยว่า เรื่องของเบี้ยประกันเป็นความเข้าใจผิดของผู้ประกอบ การ ว่าต้องจ่ายเบี้ยประกัน 0.5% จากยอด ขายแต่ละปี ซึ่ง สคบ.และรัฐบาลต้องการเพียงให้บริษัทขายตรงมีบริษัทประกันเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ส่วนเรื่องการเสียค่าสินไหม หรือค่าเยียวยา ก็ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่ผู้บริโภคเรียกร้อง ซึ่งผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจใหม่

เรื่องของการติดตราสคบ. นับเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากวันที่การค้าเสรีเปิด สิ่งนี้จะเป็นตัวสร้างความ ได้เปรียบกับบริษัทที่มีตราสคบ.ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งหากบริษัทใดมีตราสคบ.นั่นก็ยิ่งเป็นตัวแสดงอย่างชัดเจนถึงมาตรฐานของบริษัทนั้นๆ ซึ่งทางสคบ.ก็พร้อมที่จะช่วย ในเรื่องของความมั่นใจกับผู้บริโภคอีกทาง

นอกจากประเด็นต่างๆ ที่กล่าวมานี้แล้ว จิรชัย ยังได้กล่าวถึงการทำงานของ สคบ.ยุคใหม่นี้ว่า สคบ.ต้องการเป็นส่วนหนึ่ง ที่สำคัญในการผลักดันธุรกิจขายตรง ให้เป็น ธุรกิจสร้างชาติอย่างเป็นรูปธรรม ลบภาพความเป็นธุรกิจสีเทาออกให้หมด โดยที่จะเน้นการทำงาน 3 ข้อ คือ 1.ส่งเสริมธุรกิจ 2.ช่วยธุรกิจที่ยังติดขัดให้เดินไปได้ และ 3.ตัดธุรกิจแอบแฝงออกจากระบบให้สิ้น

โดยการทำงานของสคบ.เกี่ยวกับธุรกิจขายตรงนับจากนี้ อย่างแรกที่สำคัญคือ การจัดระเบียบธุรกิจขายตรง โดยเฉพาะ บริษัทที่จดทะเบียนอยู่กับสคบ.ขณะนี้ที่มีอยู่เกือบ 900 บริษัท ต้องแยกออกมาให้ได้ว่าบริษัทใดยังดำเนินงานอยู่ บริษัทใดปิดกิจการแล้ว อีกทั้งยังรวมไปถึงความเคลื่อนไหวว่า บริษัทใดมีการปรับเปลี่ยนไป แล้วหรือไม่อย่างไร ทั้งแผนงาน และสินค้า

ซึ่งสคบ. ได้กำหนดการทำงานสำคัญ 3 ข้อ โดยเป็นการตั้งกองกำลังขึ้นมา คือ 1.กองจดทะเบียนบริษัท 2.กองดำเนินงานด้านการติดตาม ประเมินผลการทำธุรกิจ และ 3.การปราบปรามโดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ เพื่อตัดธุรกิจแฝงทิ้ง

อย่างไรก็ดี เรื่องของจำนวนคนที่เป็น ปัญหาของสคบ.มาตลอด จิรชัย ต้องการที่จะทำให้ปัญหานี้หมดลง โดยการวางการทำงานเฉพาะจุด และตรงประเด็น เพื่อการ ทำงานอย่างมีประสิทธิผล
จากนโยบายต่างๆ ที่ จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสคบ.คนใหม่ได้กำหนดขึ้นมานี้ สคบ.ได้พยายามที่จะหานักวิชาการเข้า มาช่วยในการหาความเป็นไปได้ของการดำเนินนโยบายต่างๆ โดยทางสคบ.จะเป็นผู้กำหนดวางแนวทางการทำงาน ส่วน นักวิชาการจะเป็นกลุ่มคนที่จะทำนโยบายต่างให้เกิดประสิทธิผลตามแนวทางที่ได้วาง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่1338 ประจำวันที่ 26-9-2012 ถึง28-9-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น