ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

‘แอมเวย์’ ก้าวใหม่ใต้ปีก ‘กิจธวัช ฤทธีราวี’ ประเดิม 3 กลยุทธ์หลัก/เปิดตัวผู้บริหารใหม่



“เปิดยุทธ์ศาสตร์ธุรกิจเครือข่ายยักษ์ใหญ่ “แอมเวย์” ปีมังกร...ล่าสุดสร้างความฮือฮากันตั้งแต่ต้นปีด้วยการเปิดตัวทีมผู้บริหารใหม่ภายใต้การนำของ “กิจธวัช ฤทธีราวี” พร้อมประกาศจุดยืนวิสัยทัศน์การเติบโต ระยะยาวเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์การบริหารงาน 3 ด้าน “แบรนด์แห่งนวัตกรรม-แบรนด์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์-แบรนด์แห่งจิตสำนึกเพื่อทุกคนในสังคม”...ลั่น!เตรียมสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้อยู่ 1 ใน 10 ของอาชีพที่คนไทยอยากเป็นมากที่สุดในปี 2020 พร้อมตั้งเป้าขอเติบโตไม่ตํ่ากว่า 10% ในปี’55”
…นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ทีเดียวสำหรับยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเครือข่ายอย่าง “บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด” ที่ ณ เวลา หลังจากที่ “ปรีชา ประกอบกิจ” ได้ส่งไม้ต่อให้กับผู้บริหารหนุ่มไฟแรงอย่าง “กิจธวัช ฤทธีราวี” ได้สานต่อธุรกิจแอมเวย์ให้ยิ่งใหญ่สืบต่อไป พร้อมกับขึ้นแท่น
ตำแหน่งใหม่จาก “ผู้จัดการทั่วไป” สู่ “ตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการ” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายอย่างมากทีเดียว แต่ทั้งนี้ หากใครที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเครือข่ายคงพอที่จะทราบกันดีว่า “กิจธวัช” ถือได้ว่าเป็นอีกผู้หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่กับธุรกิจแอมเวย์มาพอสมควร ที่สำคัญฝีไม้ลายมือของผู้บริหารท่านนี้ก็ไม่ธรรมดาด้วยเช่นกัน
และจากการได้รับตำแหน่งใหม่มาหมาดๆ นี้เอง สิ่งที่ “กิจธวัช” จะต้องทำนั่นก็คือ การพิสูจน์กึ๋นให้คนทุกคนได้ยอมรับมากขึ้นนั่นเอง…ซึ่งล่าสุดเปิด
ศักราชปี 2555 ใหม่รับปีมังกร ทางด้าน “แอมเวย์” ก็ได้มีการเปิดตัวทีมผู้บริหารใหม่ภายใต้การนำของ “กิจธวัช ฤทธีราวี” พร้อมกับรุกใหม่ที่ไม่ธรรมดาทีเดียว
ซึ่งยุทธ์ศาสตร์ครั้งสำคัญในการบุกตลาดเครือข่ายในปี 2555 ของค่าย “แอมเวย์” นั้น ทางด้าน นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า แผนงานของแอมเวย์ในปีนี้เตรียมที่จะเดินหน้าสร้างนวัตกรรมของแบรนด์ให้มีพลังและมีการเติบโตมากขึ้น พร้อมกับการครองใจผู้บริโภคคนไทยให้ได้มากที่สุด รวมถึงเน้นการเป็นแบรนด์ที่มอบโอกาสที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้คนในสังคม ตามปรัชญาและรากฐานความคิดของธุรกิจแอมเวย์ พร้อมกับการเปิดตัวทีมผู้บริหารยุคใหม่ และเน้น 3 กลยุทธ์หลักสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน ไปพร้อมๆ กับ การสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้ติด1 ใน 10 อาชีพที่คนไทยอยากเป็นในปี 2020 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า
โดยกลยุทธ์ที่สำคัญ ในการสร้างความเกรียงไกรของธุรกิจแอมเวย์นับจากนี้ต่อไปนั้นทางด้าน นายกิจธวัช กล่าวเสริมว่า ในปีนี้ แอมเวย์เตรียมที่จะเน้น
กลยุทธ์ 3 ด้านด้วยกัน คือ กลยุทธ์ที่ 1 แบรนด์แห่งนวัตกรรม โดยจะเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทผ่านนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ว่า
แอมเวย์เป็นแบรนด์ที่เกินความค า ด ห ม า ย ข อ ง ผู้ค น อ ย่า งสมํ่าเสมอ ด้วยการพัฒนาศักยภาพของโอกาสทางธุรกิจแอมเวย์ โดยการตั้ง “สถาบันฝึกอบรมแอมเวย์ ” เพื่อผลิตนักธุรกิจแอมเวย์มืออาชีพที่มีมาตรฐาน ผ่านนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะการใช้สื่อออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลและการฝึกฝนสำหรับผู้คนทุกกลุ่ม และทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงยังสนับสนุนให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อตอบรับกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวที่มีการลงทุนน้อย ความเสี่ยงตํ่า
…ที่สำคัญ วันนี้แอมเวย์เอง ยังมีแนวทางการดำเนินงานที่สอดรับกับโลกยุคใหม่แบบครบเครื่องอีกด้วย เพื่อต้องการให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลและสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาช่องทางให้ผู้บริโภคติดต่อกับบริษัทฯ ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น อาทิ มีแผนที่จะเปิดแอมเวย์ช็อปให้ครบทุกจังหวัด
ของประเทศภายใน 2 ปี รวมถึงการสร้างเครือข่ายการสื่อสารของนักธุรกิจแอมเวย์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ การเปลี่ยนโฉมเว็บไซต์แอมเวย์ให้เป็นเอกภาพของแอมเวย์ทั่วโลก โดยใช้ “โกลบอล เว็บ แบรนด์เซ็นเตอร์” ที่มีการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อนักธุรกิจแอมเวย์สามารถติดต่อและแบ่งปันข้อมูล
ระดับนานาชาติได้แบบเรียลไทม์ซึ่งจะเริ่มใช้ปลายปีนี้
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมก้าวสู่ธุรกิจที่ดำเนินการบนมือถือ ด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ของแอมเวย์บนมือถืออย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร ด้วยการนำซอฟต์แวร์ของข้อมูลเชิงลึกในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรให้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น
นายกิจธวัชกล่าวต่ออีกว่า สำหรับกลยุทธ์ที่ 2 คือ การเป็นแบรนด์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ซึ่งนับจากนี้แอมเวย์จะไม่ได้ขายสินค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นการนำเสนอวิธีที่จะตอบสนองวิถีการดำเนินชีวิตหรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับผู้คนในทุกๆ กลุ่ม ซึ่งลักษณะสินค้าของแอมเวย์นับจากนี้ จะเป็นสินค้าเฉพาะบุคคล
มากขึ้น พร้อมกับจะสร้างโปรแกรมโซลูชั่นด้านสุขภาพ ความงามและการบริการให้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจร อาทิ โปรแกรม สำหรับพฤติกรรมการบริโภคสมัยใหม่ โปรแกรมการควบคุมน้ำหนัก โปรแกรมเพื่อตอบสนองให้ผู้สูงวัยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโปรแกรมสำหรับภาวะโลกที่เปลี่ยนไป และโปรแกรมเพื่อตอบสนองชีวิตที่เร่งรีบ เป็นต้น เพื่อสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจที่ขยายตัวมากขึ้น
ส่วนกลยุทธ์ที่ 3 คือ การเป็นแบรนด์แห่งจิตสำนึกเพื่อทุกคนในสังคม ด้วยการดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่สำคัญของธุรกิจ โดยแบ่งเป็นด้านการช่วยเหลือสังคม ที่จะยังคงเน้นการสนับสนุนเรื่องการศึกษาและสุขภาพของเด็กและผู้ด้อยโอกาส ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการรณรงค์ให้เครือข่ายนักธุรกิจแอมเวย์ตระหนักในการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่างๆ และล่าสุดแอมเวย์ยังได้เตรียมเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่ถูกออกแบบด้วยแนวคิดการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานของโลกอีกด้วย
ซึ่งนอกเหนือจากกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้านที่จะบุกตลาดในปีนี้แล้ว ล่าสุดแอมเวย์ยังได้มีการเปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่จะร่วมผลักดันให้กลยุทธ์ทั้ง 3 ด้านเป็นจริง ได้แก่ 1. นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด 2.นางชุมพฤนท์ ยุระยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร 3. นางกิตติมา นพทีปกังวาล อำนวยการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ 4. นางเลไล โสฬสรัตนพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน 5. นางบุษปัน วังวิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล 6. นายวรานนท์ คงปฏิมากร ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่าย และ 7. นายจุมพล ชโยปถัมป์ ผู้อำนวยการฝ่ายระบบข้อมูล…
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของธุรกิจแอมเวย์ที่จะรักษาความเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจเครือข่ายเอาไว้นั่นเอง “ปีนี้เป็นปีพิเศษที่แอมเวย์ครบรอบ 25 ปีของการดำเนินงานในประเทศไทย แอมเวย์เองจึงเตรียมที่จะฉลองครั้งยิ่งใหญ่กับกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจรและการตอบแทนสังคม โดยคาดว่าจะเติบโตไม่ตํ่ากว่า 10% ในปีนี้ด้วยเช่นกัน”

‘แอมเวย์’ฉลองยอด15,500ล.
เผยสำเร็จได้จากกิจกรรมทั้งปี
สำหรับผลประกอบการของแอมเวย์ในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมานั้น ทางด้านนายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปีที่ผ่านมานั้น นับได้ว่าแอมเวย์ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขาย 15,500 ล้านบาท หรือเติบโต 8% โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมีสัดส่วนยอดขายกว่า 70% ของยอดขายรวม พร้อมกันนี้ ยังพบว่า ผลิตภัณฑ์ที่สร้างยอดขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. เครื่องกรองน้ำอีสปริง 2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ นิวทริ-โปรตีน และ 3.เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ ตามลำดับ
“ปัจจัยความสำเร็จในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการทำตลาดที่สอดคล้องกับเทรนด์โลกที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพและใส่ใจรูปลักษณ์ของตัวเองแบบองค์รวมมากขึ้น ทั้งด้านความสวยความงาม ด้านสุขภาพดีที่ได้จากการรับประทานอาหาร และด้านสุขอนามัยจากน้ำดื่มและอากาศภายในอาคาร ซึ่งผลิตภัณฑ์แอมเวย์สามารถตอบรับความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี”
นายกิจธวัช กล่าวอีกว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่โดนใจผู้บริโภคแล้ว ยังเกิดจากการวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตลอดทั้งปี โดยในปีที่ผ่านมาแอมเวย์ได้จัดแคมเปญเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด สำหรับผู้บริโภค อาทิ “อาร์ทิสทรี อินเท็นซีฟ สกินแคร์ แอนตี้ – ริงเคิล เฟิร์มมิ่ง ซีรัม” ซึ่งแอมเวย์เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ได้รับลิขสิทธิ์จากมหาวิทยาลัย
มิชิแกนให้ใช้เทคโนโลยี “ทาร์เก็ตติ้ง คอมเพล็กซ์” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับลบเลือนริ้วรอยและการจัดแคมเปญใหญ่แห่งปี คือ “นิวทริเลิฟ บาย นิวทริไลท์” ซึ่งเป็นแคมเปญที่มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์นิวทริไลท์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และการให้ความรู้ผู้บริโภคเกี่ยวกับสารไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคในยุคดิจิตอลนั่นเอง
…นับได้ว่าวันนี้ “แอมเวย์” ถือเป็นธุรกิจเครือข่ายที่ทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่สำคัญต้องจับตามองว่า ก้าวใหม่ของแอมเวย์ภายใต้การนำของ “กิจธวัช ฤทธีราวี” นับจากนี้จะสร้างความเกรียงไกรได้ขนาดไหน ซึ่งเวลาคือเครื่องพิสูจน์เท่านั้น

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 314 ประจำวันที่ 16 - 29 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น