ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า
ก้าวต่อไปของแอมเวย์จะต้องยิ่งใหญ่
และมั่นคงไม่แพ้ก้าวที่เดินผ่านมา
เป็นอีกข่าวใหญ่ทิ้งท้ายปี 2554 ที่ผ่านมา เมื่อ “ปรีชา ประกอบกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หมดวาระบริหารลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทุ่มเทยืนหยัดต่อสู้มาเป็นระยะเวลา “กว่า 23 ปี” ผู้ทำให้แบรนด์ “แอมเวย์” ผงาดขึ้นมาเป็น “แบรนด์ขายตรงอันดับ 1” มียอดขายนับหมื่นล้านบาท BIZ RECORD ฉบับนี้ จึงขอนำเส้นทางชีวิตของ “นักบริหารหมื่นล้าน” ท่านนี้ มาให้ทุกท่านได้ติดตาม
เส้นทางชีวิต‘บิ๊กปรีชา’
“ปรีชา” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยรูสเวลท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากโครงการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯ ในเวลาต่อมา
หลังจากจบการศึกษานายปรีชาได้เข้าร่วมทำงานกับฝ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท เบอร์ลียุคเกอร์ จากนั้นก็ย้ายไปรับตำแหน่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ฝ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไฟฟ้าฟิลิปส์แห่งประเทศไทย และต่อมาได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด เมื่อเดือนกันยายน 2531 รับผิดชอบในการประสานงานกับนักธุรกิจแอมเวย์ รวมทั้งการฝึกอบรม คัดเลือกผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการขาย และประชาสัมพันธ์
ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ ประกอบกับศรัทธาในความเชื่อที่ว่า “ความคิดในเชิงบวกจะเป็นอิทธิพลสร้างให้คนก้าวหน้าเสมอ” เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการได้รับเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น “กรรมการผู้จัดการ” ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น และได้รับผิดชอบงานในตำแหน่งนี้ในฐานะ “หัวเรือใหญ่ของแอมเวย์” นำพาบริษัทก้าวสู่ความสำเร็จตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นมา
‘23 ปี’ของผู้ร่วมสร้างตำนานแอมเวย์
ตลอดระยะเวลากว่า 23 ปี “ปรีชา” ได้สร้างความสำเร็จให้กับแอมเวย์มากมาย เขานำพาองค์กรให้ก้าวผ่านห้วงเวลา เติบโตจนผงาดขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจของเมืองไทย จากบริษัทที่มียอดขายหลักสิบล้านกลายเป็นหลักหมื่นล้าน จากนักธุรกิจแอมเวย์เพียงไม่กี่ร้อยคน มาสู่กว่า 320,000 รหัส รวมกับสมาชิกแอมเวย์อีกกว่า 700,000 คน นับได้กว่าล้านคนในปัจจุบัน
จากพนักงานเพียง 10 คน ขยายธุรกิจจนมีพนักงานกว่า 800 คน และจากผลิตภัณฑ์ 7 ชนิดที่จำหน่ายในปีแรก มาสู่แบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วประเทศในด้านคุณภาพที่ใครๆ ก็กล่าวขานถึง ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์นิวทริไลท์ อีสปริง แอทโมสเฟียร์ และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามภายใต้แบรนด์อาร์ทิสทรี ที่ปัจจุบันมียอดขายสูงสุดในกลุ่มเครื่องสำอางระดับพรีเมี่ยมในเมืองไทย
แม้จะต้องประสบวิกฤตเศรษฐกิจกันถ้วนหน้าในปี 2540 แอมเวย์ก็ไม่เคยย่อท้อ ด้วยศรัทธา และความมุ่งมั่น “ปรีชา” สามารถนำแอมเวย์ก้าวผ่านอุปสรรคทั้งหมด จนสามารถทำลายสถิติยอดขายสูงสุดด้วยตัวเลข 5,400 ล้านบาท ในปี 2545 และพุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้งทะลุหลักหมื่นล้านบาทในปี 2550 สร้างช็อปปิ้งเอ็กซ์พีเรียนส์รูปแบบใหม่ “แอมเวย์ ช็อป” ที่ปัจจุบันมีอยู่ถึง 56 ช็อปทั่วประเทศ นับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความทุ่มเทแรงกายและแรงใจของ “ปรีชา” ที่มีให้แอมเวย์
“ผมมีความศรัทธาและความเชื่อในความเป็นมนุษย์ ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเองและสามารถดึงศักยภาพออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างธุรกิจของตนเองให้ประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องรอคอยความช่วยเหลือจากใคร”
จากประโยคนี้ของ “ปรีชา” ทำให้ตลอดเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา บ้านหลังใหญ่ที่ชื่อ “แอมเวย์” เป็นสถานที่รวมผู้คนจำนวนมากจากหลากหลายแบ็คกราวด์ สิ่งแวดล้อม ทุกเพศทุกวัย และทุกสาขาอาชีพ มารวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
เพราะศรัทธาในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน “ปรีชา” จึงไม่ได้บริหารธุรกิจในลักษณะคำสั่ง แต่เขาสร้างแอมเวย์ให้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ทั้งองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์และพนักงานในบริษัท เพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างเป็นสุข ภายใต้สูตรแห่งความสำเร็จ 4 ประการ ได้แก่ อิสรภาพ (Freedom) ครอบครัว (Family) ความหวัง (Hope) และรางวัล (Reward) จึงทำให้ไม่เพียงนักธุรกิจแอมเวย์จะมีความสุขกับการทำธุรกิจเท่านั้น พนักงานในบริษัทเองก็สุขใจกับการทำงานภายใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ที่คอยสอน แนะนำ ให้ข้อคิดและกำลังใจ เสมือนเป็นบ้านหลังใหญ่ที่อบอุ่นเสมอมา
อีกบทบาทหนึ่งที่ “ปรีชา” ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจขายตรงไทยให้เข้มแข็ง เริ่มตั้งแต่มีส่วนร่วมบุกเบิกให้เกิดกฎหมายขายตรง ด้วยการสนับสนุนการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จนพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ถือกำเนิดขึ้น อีกทั้งยังขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น “นายกสมาคมการขายตรงไทย” หรือ “TDSA” หลายวาระ ได้แก่ ช่วงปี 2537 – 2539 , ช่วงปี 2543 – 2545 และ ช่วงปี 2547 – 2549
ช่วยผลักดันธุรกิจขายตรงให้มีภาพลักษณ์ที่ดีงามสู่สังคม สร้างความรู้ความเข้าใจในสถาบันการศึกษา และภาครัฐ ผ่านกิจกรรมมากมาย จนถึงทุกวันนี้ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่มีผู้คนรู้จักและมีมูลค่ารวมมากกว่า 60,000 ล้านบาทแล้ว
“ปรีชา” ตอกย้ำเสมอว่า นั่นคือสิ่งที่เลือกจะทำ เพราะรักในธุรกิจนี้ เห็นความสวยงามของธุรกิจ ที่สร้างให้ผู้คนมากมายมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และปรารถนาที่จะเห็นอนาคตที่เติบโตยั่งยืนของธุรกิจนี้ในระยะยาว
สู่บทบาทใหม่‘กรรมการที่ปรึกษา’‘ประธานมูลนิธิแอมเวย์ฯ’
แม้ว่าจากนี้ไป “ปรีชา” จะหมดวาระการบริหารในตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการ” แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะลาจากแอมเวย์ไปโดยสิ้นเชิง โดยได้เปลี่ยนไปดำรงตำแหน่ง “กรรมการที่ปรึกษาของแอมเวย์ประเทศไทย” และ “ประธานกรรมการมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย” โดยจะคอยเฝ้ามองความสำเร็จของคนรุ่นหลังที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตยิ่งขึ้น สมกับเป็นผู้นำอันดับ 1 ธุรกิจขายตรงในเมืองไทยสิ่งที่ “ปรีชา” ปูทางและมีส่วนร่วมสร้างรากฐานไว้อย่างมั่นคงไม่เพียงเพื่อแอมเวย์เท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อวงการขายตรงไทย ที่คนขายตรงรุ่นหลังจะต้องจดจำรำลึกชื่อถึง “ปรีชา ประกอบกิจ” ไปอีกนานแสนนาน
“ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่ให้โอกาสผม สนับสนุนผม และเป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดนี้ได้ แอมเวย์เปรียบเสมือนบ้านและครอบครัว ตลอดจนเป็นโรงเรียนที่ให้ความรัก ความอบอุ่น และประสบการณ์อันมีค่ายิ่ง จากนี้ไปผมจะคอยมองดูและแสดงความยินดีกับความสำเร็จของแอมเวย์ในอนาคต เพราะผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ก้าวต่อไปของแอมเวย์จะต้องยิ่งใหญ่และมั่นคงไม่แพ้ก้าวที่เดินผ่านมา” นั่นคือคำกล่าวทิ้งท้ายที่ “ปรีชา” ได้เอ่ยขอบคุณทุกคน ที่ได้เคยสนับสนุนเขาตลอดช่วงชีวิตที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้ มาเป็นระยะเวลากว่า 23 ปี
เชื่อว่าความผูกพันที่ “ปรีชา” มีต่อแอมเวย์ และวงการขายตรงไทย มายาวนาน กว่าสองทศวรรษนั้น คงจะยากที่จะพรรณนาเป็นตัวอักษรได้ครบถ้วน แต่ภาพความทรงจำที่แสนประทับใจ หยาดเหงื่อแห่งการต่อสู้ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติจะติดตราตรึงใจทุกคน บนถนนแห่งความรักและความผูกพันสายนี้ตลอดไป และทุกคนจะยังคงระลึกถึง “ปรีชา ประกอบกิจ” ในฐานะพี่ใหญ่แห่งวงการขายตรงไทยตลอดกาล
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 219 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 มกราคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น