ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

‘ดร.สมชาย’ กับปฏิบัติการความสำเร็จ ดันขายตรงสะดวกซื้อผงาดสู่ ‘ห้างขายตรง’



“เราไม่ได้มองที่ยอดขายเพียงอย่างเดียว
แต่เรามองว่าการสร้างความสำเร็จ
เป็นงานชิ้นเอกที่เราภูมิใจ”

จากเป้าหมาย ณ จุดเริ่มต้น ที่ผลักดันให้ “ธุรกิจขายตรง” สู่การเป็น “ขายตรงสะดวกซื้อ” และในวันนี้กับภารกิจพิชิตเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า สู่การเป็น “ห้างขายตรงสะดวกซื้อ” ที่กำลังจะได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ ล้วนเกิดจากความคิด มุมมอง และวิสัยทัศน์ของ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ประธานกรรมการ บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็น “ผู้นำนวัตกรรมแห่งขายตรง” ที่มีความคิดริเริ่ม ก้าวกระโดดและไม่เคยหยุดนิ่งที่จะคิดพัฒนาเพื่อพุ่งชนเป้าหมายที่วางไว้ให้จงได้

ฝ่าวิกฤติน้ำท่วม...น้ำลดยอดผุด

หากในสถานการณ์ปกติ ช่วงเวลาไตรมาสสุดท้ายของทุกๆ ปี คือ นาทีทอง ที่กำลังการซื้อขายสูงที่สุดในรอบปี แต่เหตุการณ์ที่อยู่เหนือการคาดเดากับอุทกภัยครั้งใหญ่ในปีนี้ ทำให้หลายๆ อุตสาหกรรมต่างได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล แม้แต่ในอุตสาหกรรมขายตรงเอง ก็ไม่อาจรอดพ้น ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของ “จอย แอนด์ คอยน์” เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีชัยภูมิตั้งอยู่บนเส้นทางน้ำผ่าน ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าโรงงานของบริษัทจะไม่โดนผลกระทบได้รับความเสียหายแต่อย่างไร แต่เส้นทางการขนส่ง และซัพพลายเออร์ที่เป็นผู้ส่งวัตถุดิบต่างได้รับผลกระทบทำให้โรงงานไม่อาจผลิตได้เต็มกำลังเท่าที่ควร

ดร.สมชาย ประธานกรรมการฯ กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ปิดบัญชีในช่วงเดือนตุลาคม เติบโตขึ้น 40% แต่ภัยพิบัติน้ำท่วมทำให้รายได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนลดลงเล็กน้อย แต่ต้นเดือนธันวาคมนี้ก็ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีแนวโน้มรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนพฤศจิกายนอีก 30%

“ในส่วนของนักธุรกิจกับการทำงานในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมนั้น กระทบเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งก็เป็นบทเรียนที่เราทุกๆ คนต้องเตรียมความพร้อมรองรับกับสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการขยายธุรกิจหรือการทำงานของนักธุรกิจในอนาคต”

นอกจากนี้ดร.สมชาย ยังแชร์ความคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพรวมของอุตสาหกรรมขายตรงว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตที่ดีมาก พอมาในช่วงปลายปีที่ต้องเผชิญกับภัยน้ำท่วม เชื่อว่าทุกบริษัทต่างได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่จะมากหรือน้อยอยู่ที่การเตรียมพร้อมป้องกัน ซึ่งก็ยังเชื่อว่าในภาพรวมขายตรงปีนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่อาจจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งบางที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างเช่น สินค้าการเกษตร แต่ถ้ามีตลาดรองรับเรื่องอื่น และมีฐานธุรกิจที่ขยายไปยังภาคอื่นๆ ที่ไม่ได้กระจุกอยู่ที่ภาคกลางก็ไม่ทำให้ได้รับความเสียหายมากนัก

กำหนดกลยุทธ์ก้าวกระโดดสู่ความยั่งยืน

ในวันนี้หากถามว่าอะไรคือปัจจัยความสำเร็จของจอย แอนด์ คอยน์ จนทำให้เกิดการเติบโตก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์นั้นคือ “ความเชื่อ” ที่ทางด้านประธานกรรมการฯ ได้ขยายความในเรื่องของการกำหนดกลยุทธ์สู่การเป็น “ผู้นำทางด้านนวัตกรรมขายตรง” ไว้ว่า

หากย้อนกลับไปในอดีต คนในสังคมต่างตั้งข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับ ธุรกิจขายตรงว่าคือแชร์ลูกโซ่หรือเปล่า ต่างก็ร้องยี้มีปฏิกิริยาเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงค่อนข้างมาก และทำให้เกิดอคติเชื่อว่าไม่มีทางสำเร็จได้จริง ต่างเป็นอุปสรรคสำหรับการทำธุรกิจขายตรง จึงต้อง “ทลายกำแพงความคิด” เหล่านั้นออกให้ได้ เพราะหากจะทำธุรกิจขายตรงให้สำเร็จต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ จากที่ในอดีตขายตรงมีสินค้าไม่กี่รายการ ก็ต้องทำให้มีสินค้าที่หลากหลาย จากที่ใครมองว่าแผนการตลาดที่ทำแล้วไม่สามารถตอบโจทย์ความสำเร็จได้ ก็ต้องพัฒนาสินค้า และแผนการตลาดให้สอดคล้องมีการซื้อซ้ำ คิดกันเป็นองค์รวมให้เป็นทิศทางเดียวกัน

“เราเชื่อว่าวันนี้จอย แอนด์ คอยน์มาถูกทางและพร้อมที่จะดำเนินต่อไป เพราะเราได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว เรากำหนดกลยุทธ์ที่ทำธุรกิจที่ต้องการเป็น ขายตรงสะดวกซื้อ เราก็ต้องดำเนินกลยุทธ์ทำต่อเนื่องทุกวันทำให้เราเห็นผลสัมฤทธิ์ สอดคล้อง บูรณาการให้เกิดการขับเคลื่อน อะไรที่ขาดก็เพิ่มเติมพัฒนาเข้าไป”

ซึ่งปรัญชาของขายตรงที่คุ้นเคยที่ว่า ธุรกิจขายตรง คือ การสร้างโอกาสที่ไม่จำกัด เพศ วัย การศึกษา ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ ผู้คนในอุตสาหกรรมขายตรงเกิดความสามารถและก้าวไปสู่ความสำเร็จที่วางไว้ได้ บริษัทจึงต้องเป็นผู้ลงทุนสนับสนุนเพื่อเติมเต็มโอกาสให้เกิดความมั่นคงนั่นเอง ประธานกรรมการจอย แอนด์ คอยน์ กล่าวเพิ่มเติม

ก้าวที่ยิ่งใหญ่กว่าสู่ห้างขายตรงสะดวกซื้อ

สำหรับในวันนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเล็งเห็นถึงว่านักธุรกิจที่มีศักยภาพ จะเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจนั้นเติบโตอย่างยั่งยืน ในวันนี้เราไม่เพียงแค่เป็นบริษัทที่มั่นคง แต่เรายังเดินหน้าพัฒนาเพื่อสร้างเครื่องมือใหม่ๆ ให้กับนักธุรกิจ ซึ่งเรามีการวางแผนการลงทุนในอนาคตไว้ ด้วยการขยายสาขาให้ใหญ่ขึ้น มีการลงทุนซื้อที่ 2-3 ไร่เพื่อสร้างสาขาใหญ่ของบริษัทให้คล้ายกับเทสโก้โลตัส ซึ่งนอกจากจะมีการขายสินค้าที่หลากหลายแล้ว ยังมีโมเดลฝึกอบรม และเปิดโอกาสให้คนที่เข้ามาทำธุรกิจร่วมกับบริษัท สามารถนำสินค้าเข้ามาฝากขายทำธุรกิจร่วมกันได้ ดังนั้นจอย แอนด์ คอยน์ จึงเป็นห้างขายตรงสะดวกซื้อ ที่สะดวกทั้งซื้อและสะดวกขาย โดยมีระบบอีโวอลเลทที่สามารถปฎิบัติการขายได้ทุกที่

นับจากนี้ไปบริษัทจะเติบโตขึ้น ด้วยการก้าวสู่ “ห้างสะดวกซื้อ” ที่จะมีความทันสมัย เครื่องมือ และสถานที่ที่โอ่โถง และต้องสร้างภาพลักษณ์ให้เขาไม่สามารถปฎิเสธได้ รวมถึงสร้างโครงสร้างที่หลากหลาย สร้างระบบออนไลน์ที่ทำให้เกิดรายได้แทนรายจ่ายแบบอินฟินีตี้แต่สอดคล้องกับแผนการตลาด ทำให้เกิดการซื้อซ้ำไม่จำกัดรายได้

“ซึ่งคอนเซ็ปต์ห้างขายตรงสะดวกซื้อนั้นไม่สามารถที่จะทำเล็กๆได้ ต้องลงทุนครั้งใหญ่ เราก็ได้ลงทุนโดยคาดว่าอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีสาขาใหญ่ๆสัก 40 สาขา ซึ่งพัฒนาจากจอยมาร์ทเดิมด้วย นอกจากนี้จะปูทางเปิดห้างใหม่ ในจังหวัดใหญ่ๆที่มีสนามบินก่อน วันนี้เรามีการซื้อที่ 10 จังหวัด อย่างหาดใหญ่ ขอนแก่น แพร่ น่าน นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง และอีกหลายจังหวัด โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเองเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 - 3 ชั้น ชั้นแรกมีการขายสินค้า และชั้นบนเป็นห้องฝึกอบรม”

สำหรับการสร้างห้างขายตรงสะดวกซื้อ มีความจำเป็นต้องมีห้องฝึกอบรมด้วย เพราะบริษัทเชื่อว่า “ความสำเร็จของนักธุรกิจขายตรง สิ่งสำคัญ คือ การมีเครื่องมือที่ดีและนักธุรกิจที่มีศักยภาพ” จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องมีการพัฒนากันอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งการทำธุรกิจขายตรงให้ประสบความสำเร็จหากไม่มีเครื่องมือที่ดี เก่งแค่ไหนก็ไม่สำเร็จ และหากคนไม่เก่งแต่มีระบบก็จะเป็นการเกื้อหนุนให้เขาสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายๆ

นอกจากในส่วนของบริษัทที่จะมีห้างขายตรงสะดวกซื้อ ในรูปแบบของซุปเปอร์มาร์เก็ต และมินิดีพาร์ทเม้นท์สโตร์แล้ว ส่วนทางด้านสาขาเล็กๆ บริษัทจะให้สมาชิกเป็นผู้ลงทุน เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อนำไปขยายต่อ ทำหน้าที่เสมือนลูกข่าย โดยเราจะใช้หลักการขยายเครือข่ายเหมือนร้านสะดวกซื้อ เซเว่น หากมีสมาชิก 6,000 คน ก็ทำหน้าที่ขยายเครือข่ายเหมือนเซเว่น 1 สาขา เชื่อว่าทุกคนก็สามารถรวยได้

“วันนี้เรามีสินค้านับหมื่นรายการ และมีพันธมิตรกับเรา 200 - 300 ราย ซึ่งก็มีความแตกต่างจากท้องตลาด ทั้งราคาย่อมเยา สมาชิกซื้อแล้วมีรายได้กลับไป ปัจจุบันเรามีสินค้า 5 หมวด สุขภาพ ความงาม อุปโภคบริโภค เกษตร ประกัน แต่ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ นอกเหนือจากการแปรรายจ่ายเป็นรายรับ ยังมีระบบที่เป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายอย่าง ระบบอีโวอลเลท การซื้อขายในระบบออนไลน์ ล่าสุดกับการคิดนวัตกรรมใหม่ กับการใช้เว็บไซต์ของบริษัท เป็นเครื่องมือในการอธิบายธุรกิจได้ หากถามว่าแล้วทำไมถึงต้องเลือกทำธุรกิจกับจอย แอนด์ คอยน์ ผมมองว่าถ้าท่านลงทุนทำเองมีหน้าร้านเพียงแห่งเดียว ในยุคต่อไปเราอาจจะไม่สามารถสู้รายใหญ่ๆ ได้ แต่หากคุณมีลูกข่ายที่กระจายไปตามจังหวัดต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเช่นนี้อีก คุณก็ยังมีรายได้อยู่ 80 - 90% ยังสามารถทำงานได้อยู่ เพราะขายตรงสามารถปรับกลยุทธ์ได้ตามสถานการณ์ การที่เรามีเครือข่ายมันคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุด”

ในวันนี้เส้นทางที่ทอดยาวอยู่บนถนนธุรกิจขายตรงมานานกว่า 10 ปี ของ “จอย แอนด์ คอยน์” ฉายให้เห็นภาพที่สะท้อนถึงการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง เป็นความคิดที่ไม่หยุดนิ่งและกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสนับสนุนให้เหล่านักธุรกิจ เกิดการขยายเครือข่ายให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องน่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจนว่า “ห้างขายตรงสะดวกซื้อ” น่าจะเกิดขึ้นได้จริงในเร็ววันนี้!!
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 218 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 ธันวาคม 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น