ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แคทส์ ดอท คอม ดึงงานวิจัยช่วยอัพเกรดสินค้าดันตัวเลข 555 ล้านบาท



“แคทส์ ดอท คอม” ขายตรงแดนปลาดิบ เปิดกลยุทธ์ใหม่ สร้างงานวิจัยร่วมกับทีมแพทย์ หวังสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่น่าเชื่อถือ เล็งช่องทาง การจำหน่ายใหม่ใช้โรงพยาบาลเป็นแหล่งกระจายสินค้า พร้อมแผนขยายตลาดออกประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนยอดขายปี 54 ปิดที่ 330 ล้านบาท ปี 55 ฝันตามหน้าปฏิทินที่ 555 ล้านบาท

นายมิจือซึเกะ นากามิจิ ประธาน บริษัท แคทส์ ดอท คอม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “มะโฮ” เปิดเผยว่า แผนการรุกตลาดในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะทำยอดขายให้ได้ 555 ล้านบาท จากปีที่แล้วสามารถปิดยอดขายได้ที่ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 160% โดยยอดขาย ดังกล่าวถือว่ามาจากสินค้าหลักเพียงชนิดเดียวของบริษัท คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เบต้า กลูแคนจากยีสต์ดำ มะโฮ” ซึ่งหากคิดยอดขายสะสมมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดบริษัท พบว่าบริษัท สามารถทำยอดขาย “มะโฮ” ได้ถึงหลักพันล้านบาทแล้ว โดยตลาดที่ลูกค้าให้การตอบรับมาก ที่สุด คือ ตลาดภาคอีสาน ซึ่งมีสาขาอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง คือ มุกดาหาร โคราช และขอนแก่น

ทั้งนี้ นายมิจือซึเกะ กล่าวว่า การเติบโตที่รวดเร็ว และก้าวกระโดดดังกล่าว เป็นผลจากการที่บริษัทได้มีการเรียนรู้และพัฒนาปรับปรุงทางด้านแผนงานต่างๆ เพื่อ สอดรับกับความต้องการของสมาชิก และลูกค้ามากยิ่งขึ้น และแผนโปรโมชั่น แผนการ จ่ายผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่สมาชิก ทำให้ปัจจุบันมีผู้นำและสมาชิกทั้งรายใหม่ และรายเก่า หันมาให้ความสนใจร่วมทำธุรกิจกับ บริษัทเพิ่มมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากในปัจจุบัน บริษัทมีสมาชิกประมาณ 65,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณกว่า 3 หมื่นคน

ด้านนายเอกวัฒน์ วงษ์ชูแก้ว รองประธานบริหาร บริษัท แคทส์ ดอท คอม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแผนงานสำคัญภายในปีมังกรทองนี้ว่า ขณะนี้บริษัท กำลังจัดทำงานวิจัยเกี่ยวกับผลรักษาทาง การแพทย์กรณีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ ร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยมีการทดสอบกับเคสผู้ป่วยประมาณ 14 เคส เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งเรื้อรัง โรค HIV เบาหวาน หรือโรคทางกล้ามเนื้อ เป็นต้น โดยผลวิจัยทางการแพทย์จะมีการบ่งชี้ผลก่อนการรักษาและหลังรักษา ซึ่งพบว่าในขณะนี้ผู้ป่วยในเคสดังกล่าวมีผลการรักษาที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยในเคส HIV พบว่าระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกายสามารถ กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม ทำให้สามารถ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ

โดยการจัดทำงานวิจัยในครั้งนี้ นายเอกวัฒน์ กล่าวว่า “ในแง่ของการตลาด จะ ทำให้สมาชิกของบริษัททำงานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีหลักประกัน ทั้งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตัวผู้ป่วยเอง ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีผลต่อการรักษาอย่างจริงๆ ซึ่ง จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคโดยทั่วไป และนอกจากนี้ แผนดังกล่าวยังสามารถ สร้างหนึ่งช่องทางการจำหน่ายใหม่ คือ โรงพยาบาล ซึ่งนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ”แผนงานสำคัญถัดไป รองประธานบริหาร กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้นำสินค้าจากบริษัทแม่ญี่ปุ่นเข้ามาเพิ่มเติมอีก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรอ อย. อนุมัติ 4 ตัว และ รอบริษัทแม่อนุมัติ สินค้ากาแฟซึ่งผสมเบต้า-กลูแคนอีกหนึ่งตัวด้วย เพื่อให้สมาชิกสามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น

ส่วนแผนการขยายสาขานั้น บริษัทอยากจะขยายสาขาในประเทศไทย เนื่อง จากมีอีกหลายจังหวัดที่มียุทธศาสตร์น่าสนใจ เช่น จังหวัดชลบุรี แต่อย่างไรก็ดี อาจ จะต้องดูในเรื่องของปัจจัยภายนอกก่อน โดยเฉพาะปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม และการ เมือง เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทอยากจะไปเปิดสาขาในจังหวัดนครสวรรค์ แต่เมื่อมอง ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว แล้ว โครงการนี้คงต้องยกเลิกไป โดยปัจจุบัน ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทมีทั้งหมด 230 ศูนย์ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะเปิดให้ครบ 500 ศูนย์ โดยใช้งบการลงทุนศูนย์ละ 450,000 บาท

ทั้งนี้ ในด้านของตลาดต่างประเทศนั้น หลังจากบริษัทได้ไปขยายงานใน 2 ประเทศ คือ ลาวกับกัมพูชา ซึ่งพบว่าสัดส่วน ของยอดขายจากทั้งสองประเทศนี้เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง คือ ปีที่แล้วบริษัทได้รายได้จากทั้งสองประเทศประมาณ 13 ล้าน แบ่ง เป็น จากประเทศลาว 8 ล้าน กัมพูชา 5 ล้าน

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงวางแผนว่าจะขยายสาขาไปอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการที่ปัจจุบันระบบไอทีของบริษัท มีความพร้อมที่จะให้ความสะดวกในการทำธุรกิจกับสมาชิกของแต่ละประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะระบบเทคโนโลยีอันเกี่ยวข้องกับ ระบบการรับค่าคอมมิสชั่น ที่บริษัทขายตรง หลายๆ ค่ายประสบปัญหาเมื่อขยายงานไป ต่างประเทศแล้วไม่สามารถจัดให้สมาชิกรับค่าคอมมิสชั่นผ่านทางธนาคารในประเทศ นั้นๆ ได้ แต่ในปัจจุบันสมาชิกของบริษัทแคทส์ ดอท คอม สามารถรับเงินจากธนาคาร ในพื้นที่ หรือท้องถิ่นได้เลย
“โดยบริษัทคาดว่าจะขยายสาขาไปยังประเทศเวียดนามเป็นประเทศถัดไป เนื่อง จากพบว่าในปัจจุบันเวียดนามมีบริษัทขาย ตรงที่เข้าไปดำเนินการไม่เกิน 3 บริษัท ซึ่งถือว่ายังเป็นตลาดที่ใหม่ และน่าสนใจมาก ส่วนสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศปีนี้บริษัท ตั้งเป้าไว้ว่า ต้องเพิ่มจากปีที่แล้วประมาณ 20%” นายเอกวัฒน์ กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1273 ประจำวันที่ 8-2-2012 ถึง 10-2-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น