ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

‘ขายตรง’ส่งสัญญาณเดือดระลอกใหม่ หน้าใหม่อัดยาแรง...ขาใหญ่ปรับแผนป้องสมาชิก



ศึกชิงความยิ่งใหญ่ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ส่งสัญญาณเดือดรอบใหม่...ค่ายใหญ่เคาะระฆัง เดินเกมเพิ่มรายได้จูงใจสมาชิกใหม่ตั้งแต่ไก่โห่ หลังขายตรงหน้าใหม่เล่นแรง แย่งสมาชิกไปอยู่ในอ้อมกอดได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ...“แอมเวย์” นำร่อง ปรับผลตอบแทนอีกรอบ หวังดึงสมาชิกไม่ให้ปัน ใจหนีไปค่ายอื่น แถมมุ่งรุกตลาดผ่านนโซเชียลเน็ตเวิร์ค หวังเป็นส่วนช่วยลดคอร์สสมาชิกในการขยายฐานลูกค้า...ด้าน “กิฟฟารีน” ไม่น้อยหน้า กางตำราเพิ่มอินเทนซีฟ 2 เท่า พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ เอาใจสมาชิกตลอดทั้งปี...ส่วน “คังเซน-มิสทีน-เอสเนเจอร์” งัดลูกเล่นใหม่สารพัด หลังโดนขายตรงหน้าใหม่ รุกประชิดติดหน้าประตูบ้าน...ชี้! เกมการแข่งขันเปลี่ยนทิศ การปรับแผนอาจไม่สามารถดึงสมาชิกให้อยู่ได้ เหตุ! หลายค่ายอัดยาแรง ผลิตอาวุธใส่มือสมาชิก ตะลุยหาลูกค้าได้ง่ายขึ้น
สมรภูมิช่วงชิงพื้นที่ความยิ่งใหญ่ในตลาดเครือข่ายขายตรงเริ่มคึกคัก หลังมีสัญญาณหลายค่ายเริ่มปรับทัพ รับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือด ในเกมชิงจ้าวยุทธภพขายตรงในปีนี้ ซึ่งว่ากันว่า จะเป็นปีแห่งการชิงไหวชิงพริบ เปิดศึกสงครามฉะกันอย่างเมามันส์ เพื่อสอดรับกับตลาดที่มีอัตราการเติบโตพุ่งสูงขึ้น
เกมเดือดในอุตสาหกรรมขายตรงร้อนระอุขึ้น ภายหลังค่ายเครือข่ายขายตรงหลายแห่งโดยเฉพาะค่ายขายตรงระดับกลางลงล่าง หรือแม้กระทั่งน้องใหม่ “เปลี่ยนวิถีกระสุน” เปิดศึกรุกหนักด้านสื่ออย่างเต็มกำลังพร้อมสรรหายุทธวิธีต่างๆ เข้ามากระตุกต่อมอยากผู้บริโภคทำให้เกิดวงจรตลาดแบบใหม่ขึ้นในวงการขายตรง จากที่เคยเดินหาลูกค้า แต่วันนี้ลูกค้าเดินเข้าหาเพื่อเสนอตัวขอร่วมทำธุรกิจ...!!!
การเปิดเกมรุกหนักของค่ายขายตรงหลายแห่งที่ “ใจถึง” กล้าทุ่มเม็ดเงิน เพื่อขยายฐาน และเป็นเครื่องมือช่วยนำร่องให้สมาชิกสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น กลายเป็น “หอกข้างแคร่” ทำให้ขายตรงค่ายใหญ่หลายแห่ง ต้องพลิกเกมใหม่ “ร่ายมนต์ดำ” ขึ้นมาดึงดูดใจลูกค้า เพื่อสกัดกั้นการรุกคืบของคู่แข่งที่กำลังสำแดงฤทธิ์เดชอยู่ ณ เวลานี้

“แอมเวย์”ปรับแผนอีกรอบ
ดึงสมาชิกยุคการแข่งขันเดือด
รายงานความเคลื่อนไหวของตลาดขายตรงล่าสุดพบว่าบนเฟซบุ๊คของ บริษัท แอมเวย์(ประเทศไทย) ได้โพสต์ข้อความว่า “ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์จะเริ่มใช้อัตราการจ่ายผลตอบแทนใหม่ (Profitability Index หรือ PI) ซึ่งเป็นการปรับดัชนีผลตอบแทนนักธุรกิจแอมเวย์ใหม่จาก 1:2.75 เป็น 2.87 (จำนวนคะแนน : ผลตอบแทนที่จะได้รับ) ซึ่งจะทำให้สมาชิกได้รับผลตอบแทน เพิ่มขึ้น หลังจากปรับครั้งล่าสุดไปเมื่อ ปี 2552”
นายกิจธวัช ฤทธีราวีกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การปรับดังกล่าวเป็นการปรับให้สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อ และค่าครองชีพเพิ่มขึ้น และการแข่งขันในตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจให้กับนักธุรกิจที่มีความทุ่มเทในการทำงาน ก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น นอกจาก การปรับแผนการจ่ายผลตอบแทนแล้ว ทางบริษัทฯ ยังร่วมมีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตลอดทั้งปี และกิจกรรมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ โดยปีนี้จะมีการนำแผนกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้อย่างต่อเนื่อง
“ปัจจุบันผู้บริโภคมีการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทุกๆ วัน จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก 2.1 พันล้านคน หรือ30.4% ของประชากรทั่วโลก ณ วันนี้คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาทั้งหมดไปกับกิจกรรมออนไลน์ และจะดำเนินธุรกิจผ่านเว็บไซต์เป็นหลัก สำหรับประเทศไทยนั้นผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีสัดส่วน 34% ของประชากรทั่วประเทศ ใน ขณะที่โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นกิจกรรมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ชอบความสะดวกสบายและรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นกับทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจขายตรงที่ได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในองค์กร หรือในเครือข่ายแบบ B2MicroB (Business to Micro Business) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสนับสนุนให้การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเมื่อทศวรรษที่แล้ว
“แอมเวย์ประเทศไทยได้สนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์ใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีนักธุรกิจแอมเวย์ที่ใช้อีเมล์อย่างแอ็คทีฟกว่า 34 % ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เท่ากับการใช้อินเตอร์เน็ตของประชากรไทย มีนักธุรกิจที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ (young Generations) อายุระหว่าง 18-34 ปี เป็นสัดส่วน 40% ของนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศ และมียอดธุรกิจของกลุ่มนี้ประมาณ 30% ของยอดขายรวมของบริษัท ซึ่งคนรุ่นใหม่นี้ ถือเป็นกลุ่มที่จะมีอิทธิพลเชิงการตลาดอย่างมาก ในอนาคตต่อไป 5-10 ปี ดังนั้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจแอมเวย์ และการก้าวสู่ทศวรรษใหม่อย่างยั่งยืนในฐานะธุรกิจขายตรงอันดับหนึ่งของประเทศ บริษัทจึงได้เตรียมกลยุทธ์สำหรับตอบโจทย์กระแสคนรุ่นใหม่ และดิจิตอลเทรนด์ในส่วนต่างๆ อย่างครบวงจร”
ทั้งนี้ แอมเวย์ได้แถลงถึงผลประกอบการปี 2554 ว่า ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขาย15,500 ล้านบาท เติบโต 8% ซึ่งเป็นผลมาจากทำตลาดที่สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพและใส่ใจรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น

ขายตรงหน้าใหม่เล่นแรง
ขาใหญ่ปรับทัพรับมือจ้าละหวั่น
นอกจากบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีการปรับแผนการจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกแล้ว ยังมีบริษัทเครือข่ายขายตรงรายใหญ่อีกหลายค่าย ที่เตรียมแผนกลยุทธ์ออกมาเอาใจสมาชิกในแง่ของการจ่ายผลตอบแทน เนื่องจากปีที่ผ่านมามีบริษัทขายตรงใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาก แต่ในแง่การเติบโตของสมาชิกผู้จำหน่ายอิสระกลับมีไม่มาก ทำให้ตลาดมีการแข่งแย่งตัวสมาชิกค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายผลตอบแทนเพื่อจูงใจ เพื่อรีครูทสมาชิกทั้งที่เป็นคนที่เคยทำขายตรงมาก่อน หรือคนที่ยังไม่เคยทำขายตรง และมีกลุ่มนักศึกษาจบใหม่หรือคนรุ่นใหม่เป็นเป้าหมาย ซึ่งการตลาดของเครือข่ายขายตรงระดับกลางถึงล่างในปัจจุบันสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายโดยใช้สื่อต่างๆ ในการนำเสนอ และชูแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ง่าย
นายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยอมรับว่า บริษัทฯ มีแผนจัดแคมเปญออกมาเป็นระยะๆ ทั้งในแง่ของสินค้า บริการคุณภาพการอบรม รวมถึงโปรโมชั่นท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเพิ่มสิทธิประโยชน์บัตรสมาชิก อาทิ การใช้คะแนนสะสมสำหรับซื้อสินค้าใน ราคาพิเศษ เป็นต้น คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมาชิกเดิมและสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ธุรกิจขายตรง ปี 2555 ยังมีแนวโน้มเป็นบวก เนื่องจากจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มสูงขึ้นและความต้องการรายได้เสริม เชื่อว่าภาพรวมสิ้นปีนี้จะเติบโตได้ 10% หลังจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และเศรษฐกิจ ทำให้เติบโตเพียง 5-7% หรือมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท
ด้านภาพการแข่งขันมีแนวโน้มว่าทุกค่ายจะหันมาเร่งสร้างยอดขายตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากความไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีอะไรเข้ามากระทบหรือไม่ ประกอบกับหลายๆ บริษัทอั้นการออกแคมเปญมาตั้งแต่ปลายปีเนื่องจากน้ำท่วม
ขณะที่แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมากิฟฟารีนปิดยอดขายที่ 5,488 ล้านบาท หรือเติบโต 11.7% ปีนี้ตั้งเป้าที่ 6,000 ล้านบาท โดยวางแผนรุกตลาดด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม และจะสร้างกระแสผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นยอดตลอดทั้งปี
“ตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้ปรับแผนการจ่ายผลตอบแทนตามแผนยูนิ-เลเวลเป็น 1% จากเดิม 0.5% สำหรับผู้บริหารระดับสูง หรือพาราไดซ์ซึ่งมีอยู่กว่า 2,000 รหัส คาดว่าจะกระตุ้นสมาชิกระดับต้นๆ ให้มีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งกิฟฟารีนมีสมาชิก 6 ล้านรหัส ในจำนวนนี้เป็นนักธุรกิจประมาณ 5 แสนรหัส”
สำหรับธุรกิจขายตรงในปี 2555 นี้ จะยังเติบโตได้ดี เพราะความต้องการอาชีพเสริมจำนวนมาก ขณะที่ภาพลักษณ์ขายตรงก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น
ด้านนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท กิฟฟารีนฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% และได้เตรียมงบตลาดไว้ที่ 60-90 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มทำการตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรองรับการฉลองครบรอบ 16 ปี ในวันที่ 10 มีนาคม
โดยปีนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ 210 รายการ ซึ่งในแง่การแข่งขันปีนี้น่าจะคึกคักขึ้น โดยกำลังวางแผนว่า ควรจะมีอินเทนซีฟพิเศษอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนแคมเปญได้รับการตอบรับดี ก็คงจะปรับให้ดีขึ้น การจัดกิจกรรมปีที่แล้วค่อนข้างถี่ ปีนี้ก็คงถี่เหมือนเดิม
ส่วนนายบัญชา เหมินทคุณ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำ กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ ยังคงรุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยเพิ่มแคมเปญทริปท่องเที่ยวพิเศษอีก 1 ทริป จากปกติจัด 2 ทริปต่อปี พร้อมปรับแผนอินเทนซีฟและเพิ่มการจ่ายผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจระดับต้นๆ ให้ได้รับผลตอบแทนทั่วถึงขึ้น คาดว่าการจ่ายคอมมิชชั่นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 5-10%
“ปรับเพื่อรองรับการแข่งขันจากรายใหม่ที่เข้ามา สมาชิกทำธุรกิจได้คล่องตัวและง่ายขึ้น จูงใจให้สมาชิกผู้บริโภคตัดสินใจเข้ามาเป็นนักธุรกิจ แทนการบริโภคอย่างเดียว รีครูทสมาชิกใหม่และกระตุ้นสมาชิกเดิมให้มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง”
สำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของตลาดขายตรงในเมืองไทยยังเติบโตได้อีกมากทำให้มีรายใหม่ๆ สนใจที่จะกระโดดเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ก็จะมีอีกหลายบริษัททั้งบริษัทใหญ่ๆ ของต่างประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และขายตรงของคนไทย เข้ามาในตลาดอีกมากมาย
รายงานข่าวจากบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ มิสทีน เปิดเผยว่าหลังจากที่บริษัทฯ มีแคมเปญแจกทอง และได้รับการตอบรับจากสาวมิสทีนอย่างดี แต่ปีนี้การแข่งขันในการชิงลูกค้าดุเดือดมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนเป็นโครงการครอบครัวออมทรัพย์ ซึ่งสมาชิกจะได้รับเงินออมทรัพย์พิเศษ10,000 บาท เมื่อครบ 3 ปี และจะมีเงินปันผลจากเปอร์เซ็นต์การขายของสมาชิกแต่ละคนคาดว่าจะกระตุ้นสมาชิกใหม่ได้ 5-10% และสมาชิกเดิมรู้สึกว่าเป็นธุรกิจที่มั่นคงและมีการซื้อต่อเนื่อง

เกมการแข่งขันเปลี่ยนทิศ
ผลิตอาวุธใส่มือสมาชิกล่าลูกค้า
การออกมาตื่นตัวปรับแผนการจ่ายผลตอบแทน และเพิ่มผลประโยชน์ในการจ่ายค่าคอมมิชชั่น หรือออฟชั่นต่างๆ ให้กับทางสมาชิก ดูเหมือนจะ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่าการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่าการแข่งขันช่วงชิงพื้นที่ในธุรกิจขายตรงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เหตุเพราะผู้ประกอบการได้นำเครื่องไม้เครื่องมือเข้ามาเป็นส่วนช่วยให้สมาชิกขยายตลาดได้ง่ายขึ้น แม้แผนการจ่ายผลตอบแทนจะไม่สวยหรู แต่หากสามารถขยายตลาดได้มากขึ้น รายได้ก็จะตามมาเป็นกอบเป็นกำ จากการเพิ่มขึ้นของฐานสมาชิก
ขณะเดียวกัน หากมีการปรับแผนการจ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการทำตลาดให้กับสมาชิก การขยายฐานลูกค้าของสมาชิกก็จะแคบลง รายได้ก็จะหดหายลงตามไปด้วย
ซึ่งปัจจุบันขายตรงน้องใหม่ที่มาแรง และประสบความสำเร็จในการดึงสมาชิกเข้ามาร่วมทำธุรกิจ แผนรายได้เป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น แต่“กระสุนดินดำ” ที่สามารถทะลุทะลวงใจลูกค้า และสามารถขยายฐานสมาชิกได้อย่างมากมายคือ การใช้สื่อเป็นอาวุธในการรุกพื้นที่ต่างๆ เพื่อขยายฐานธุรกิจ
โดยเฉพาะปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า สื่อทีวีดาวเทียม, วิทยุชุมชน กลายมาเป็นหัวหอกสำคัญในการขยายธุรกิจของเครือข่ายขายตรง ซึ่งในปีนี้สิ่งที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ การที่เจ้าของบริษัทขายตรงหันมาเปิดสื่อเป็นของตัวเองเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำตลาด แถมส่งตรงแผนการทำตลาด และคุณภาพของสินค้าตรงถึงบ้านลูกค้าและสมาชิก

ฉะนั้น หากบริษัทขายตรงค่ายใหญ่ ต้องการที่จะสกัดเพื่อปิดกั้นเกมรุกที่ดุเดือดของขายตรงน้องใหม่เหล่านี้ ควรที่จะวางแผนเล็งหาเครื่องไม้เครื่องมือมาให้สมาชิก เพื่อเปิดทางในการขยายฐานลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังสามารถช่วยลดคอร์สค่าใช้จ่ายให้กับสมาชิกในการเดินทางไปพบลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง แต่หากยังหลงทิศปรับแผนไปเรื่อยๆ เชื่อว่า ยังไง! ขายตรงค่ายใหญ่ก็ตามไม่ทัน เพราะปัจจุบันเกมการตลาดได้เปลี่ยนไปอีกมุมหนึ่งแล้ว...!!!

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 314 ประจำวันที่ 16 - 29 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น