
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ที่ประกาศศักดาลงชิงชัยในสนามแห่งนี้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละแห่งต่างออกมาประกาศ “แสนยานุภาพ” โชว์พาว หวังช่วงชิงสู่ความเป็นหนึ่งกันอย่างเนืองแน่น ทำให้ที่ผ่านมา สมรภูมิแห่งนี้คับคั่งเต็มไปด้วย “ผู้เล่นหน้าใหม่”
ขณะเดียวกัน การเข้ามาชิมลางตลาดของขายตรงน้องใหม่ ก็สร้างสีสันคึกคักให้กับตลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลายค่าย เปิดศึก “สร้างภาพลักษณ์” กันอย่างเต็มที่ ด้วยการตีแผ่ข่าวสารชู “ผู้นำ” ที่ประสบความสำเร็จกันอย่างครึกโครม เพื่อเป็นเครื่องการันตีชี้ชัดว่า ธุรกิจของแต่ละที่แต่ละแห่ง “ทำง่าย ได้จริง” มีรายได้ไหลเข้าสู่กระเป๋าอย่างแท้จริง โดยไม่มีการยกเมฆแต่อย่างใด ทำให้ตลาดเครือข่ายคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจขายตรงมากยิ่งขึ้น...!!!
...ต้องยอมรับว่า การเดินทางบนเส้นทางสายนี้ ต้องมีความขะมักเขม้น เฟ้นหายุทธวิธีใหม่ๆ ออกมาใช้เพื่อ “ทำแต้ม” เพื่อหวังสร้างความโดดเด่นของตัวเอง สร้างจุดขายดึงความสนใจให้กับลูกค้า...วิถีที่ถูกนำมาใช้ เพื่อสร้างความมั่นอกมั่นใจให้ลูกค้าในช่วงที่ผ่านมา มีหลากหลายยุทธวิธี ไม่ว่าจะเป็น การขยับขยายสาขา, การสรรหาวิธีสารพัด เพื่อนำมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, การวางแผนการตลาดบวกความคิดที่แหลมคม เพื่อหยุดคู่ต่อสู้ที่เข้ามาสู่สนามรบแห่งนี้ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่บริษัท จะต้องลงมือทำเพื่อขับเคลื่อนองค์กร และกระชากใจลูกค้าให้มาร่วมอุดมการณ์ เดินทัพไปพร้อมๆ กัน บนเส้นทางและจุดหมายของความสำเร็จที่รออยู่เบื้องหน้า…!!!
การก้าวไปข้างหน้า ตามแรงขับเคลื่อนขององค์กรแต่ละก้าวย่าง ล้วนเป็นประสบการณ์ของแต่ละค่ายที่สั่งสมมา ไม่ว่าจะเป็น ค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ล้วนมีอาวุธหนักอยู่เต็มตัว และพร้อมที่จะงัดออกมาดวลกันได้ทุกเมื่อ ทำให้สนามการแข่งขันทางการตลาดเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้น เพราะอุณหภูมิร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤติที่ผ่านมา ก็เป็นบทเรียนอันมีค่า ที่ทำให้หลายบริษัท งัดตำราบทใหม่มาป้องกันภยันตราย และร่ายเวทมนต์ เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า...!!!
...ท่ามกลางค่ายเครือข่ายขายตรงทั้งน้อยใหญ่ที่มีอยู่หลายร้อยแห่ง “น้องใหม่ที่ส่องสว่าง” ติดหนึ่งในดาวดวงใหม่ที่น่าจับตามองอีกแห่งคือ “บริษัท รมิตา เฮลส์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด” ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทน้องใหม่ในวงการธุรกิจขายตรงแห่งนี้ ได้พิสูจน์ตัวเอง จนเป็นที่ยอมรับในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ...แม้การเปิดตัวธุรกิจจะไม่หวือหวา แต่ก็พยายามที่จะขยับขยายอาณาจักรของตัวเองอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นทางธุรกิจและภาพรวมขององค์กรที่ดีมาก่อน ทำให้สามารถขยายฐานสมาชิกออกไปได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ “ประเทศลาว” ซึ่งถือเป็น “สนามหิน” ที่หลายบริษัทพยายามจะเจาะเข้าไป แต่ “รมิตา” กำลังสยายปีกขยายฐานสมาชิกอย่างเมามันส์ มิหนำซ้ำ ยังปั้น “มนุษย์เงินล้านคนแรก” ให้จุติขึ้นที่ฝั่งลาวอีกต่างหาก...!!!
เส้นทางการขยับเดินแต่ละก้าวของ “รมิตา” ล้วนมาจากการสั่งการของแม่ทัพใหญ่ที่คุมบังเหียนนั่งบัญชาการรบอยู่บนสุดของบริษัทนั่นคือ “เค่งฮั้ว แซ่อื้อ” ประธานกรรมการบริหาร ที่มีความมุ่งมั่น ต้องการที่จะสร้างสรรค์หยิบยื่นความสำเร็จให้กับหมู่มวลสมาชิก ที่พร้อมจะร่วมรบเคียงบ้าเคียงไหล่กับค่ายนี้
“เค่งฮั้ว แซ่อื้อ” เล่าเรื่องราวความเป็นมาการก่อเกิด “รมิตา” ว่า “จากเดิมที่ทดลองใช้สินค้าผลิตภัณฑ์เซรั่มที่ใช้แล้วเห็นผลจริง จึงเกิดแรงผลักดันมองหาการทำธุรกิจที่มั่นคง และได้รับคำแนะนำจากหลานถึงการทำธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็ว จึงพกพาเอาความมุ่งมั่นตรงจุดนี้มายืนหยัดสู่ความสำเร็จ กับการเริ่มจากจุดเล็กๆ เสนอขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตแนะนำสินค้าด้วยระบบง่ายๆ ของธุรกิจ MLM แบบเล็กๆ ในช่วงระยะเวลา 1 ปี แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก จึงได้ทำการศึกษาการทำธุรกิจอย่างจริงจัง”
เมื่อธุรกิจต้องมีผู้ขับเคลื่อนถึงจะพบจุดหมายไปพร้อมๆ กัน ท่านประธานเองก็ไม่ย่อท้อ จนได้มาเจอตัวช่วยสำคัญ ที่พลังขับเคลื่อนนั่นคือ “ใจกล้า กาดำดวน” รองประธานบริษัท ที่ถูกทาบทามให้มาร่วมธุรกิจสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ด้วยศักยภาพวิสัยทัศน์จึงสร้างจุดยืนให้กับ “รมิตา” เปลี่ยนจากแผนเดิมมาเป็น “ไบนารี่” แผนทางการตลาดที่แหลมคม และใช้กันเกือบทุกบริษัท ทำให้มองเห็นลู่ทางสว่าง กับหลักการที่ “ใจกล้า” นั้นได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองในการบริหาร สร้างทีม สร้างองค์กร นำเสนอแนวคิดที่แปลกใหม่ และท่านประธานกล้าเสี่ยง ใจถึง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ
ด้วยความมุ่งมันตั้งใจเต็มเปี่ยม ถึงแม้จะเป็นน้องใหม่ แต่ก็ไม่หวั่นเพราะมีชื่อเสียงเป็นจุดยืน “รมิตา” จึงถือโอกาสบุกเบิกการตลาดทางโซเชียลเน็ตเวิร์คบนโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยระบบไม่ด้อยกว่าผู้อื่นแถมลูกค้าได้ให้ความสนใจตอบโจทย์กับเทคโนโลยีตรงจุดนี้ร่วม 100% เต็ม และยังโด่งดังไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นั่นคือ ประเทศลาว สร้างรายได้อย่างยอดเยี่ยม และยังเป็นตัวช่วยในการลดต้นทุน ความเสี่ยงในการเดินทาง ด้วยการตอบรับอย่างดีโดยเฉพาะในธุรกิจขายตรง
นอกจากแผนการตลาดดีแล้วสิ่งสำคัญที่ใช้เป็นตัวเดินเครื่องเคลื่อนทัพไปข้างหน้านั้น เห็นจะเป็นตัวสินค้า ที่แต่เดิม “รมิตา” เน้นหมวดเดียว คือ เครื่องสำอาง แต่การตอบรับยังไม่ถึงทุกครัวเรือน เห็นทีต้องขยับขยายกันยกใหญ่ ด้วยการขานรับนำผลิตภัณฑ์กาแฟ เข้ามาเสริมทัพของสินค้าให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่เหมือนบริษัทอื่น คิดค้นสูตรที่สามารถตอบโจทย์เรื่องสุขภาพให้ผู้บริโภคได้ กับกระแสของมะรุมที่มาแรงในช่วงนั้น จึงเกิดไอเดียบรรเจิดนำกาแฟผสมผงมะรุม จนเกิดเป็น “กาแฟมะรุม” ที่โด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศในปัจจุบัน
จากความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ที่ช่วยให้ “รมิตา” ขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์ คงหนีไม่พ้นเรื่องระบบกับการวางแผนที่รัดกุม คุมได้ทุกสถานการณ์ จึงเป็นที่น่าดึงดูดใจของใครต่อหลายคนให้เข้ามาสู่บ้านหลังนี้ กับวิธีประสบความสำเร็จที่ใช้หัวใจมองเป็นหลักสู่ธุรกิจเครือข่ายที่มั่นคง โดย “รมิตา” ได้ให้ความสำคัญที่เกิดจากการพัฒนาตนเอง จัดระบบแห่งความสำเร็จที่ชื่อว่า RM Success ด้วยการใช้แนวคิดแห่งกระบวนการพัฒนาตนให้เต็มศักยภาพ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วย 3 หัวใจหลักทั้งการเน้นระบบ และการเทรนนิ่ง คือ “การชวนคนหรือหาคน” ถือเป็นประตูด่านแรกที่นักธุรกิจเครือข่ายต้องทำเป็นหลักหากปรารถนาสู่ความสำเร็จ หรือทีเรียกว่า “ก้าวแรกสู่เศรษฐีเงินล้าน” กับคนใหม่ที่ไม่เคยทำธุรกิจขายตรงมาก่อน ด้วยการสอนวิธีหาคนเร็วและได้เงินเร็ว “การสร้างคน” กระบวนการต่อเนื่องที่จะสร้างคน สร้างองค์กรให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทีมงานด้านซ้ายเติบโต ด้านขวาเติบโต เราอยู่ตรงกลางแล้วได้ตังค์ และการรักษาคน บทพิสูจน์นักธุรกิจในระดับสูงที่จะรักษาองค์กรเป็นปึกแผ่นให้อยู่ตราบนานเท่านาน ทำอย่างไรเมื่อเขาเก่งและให้อยู่กับเราได้ตลอด ด้วยองค์ประกอบของความสำเร็จของธุรกิจขายตรงต้องมีทีมที่ดี มีระบบชัดเจน มีการอบรมเข้มข้นต่อเนื่อง และสนับสนุนไปในทิศทางเดียวกัน...!!
“หากตัดสินใจที่จะสำเร็จกับการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรงรมิตาแล้ว จงอย่าลังเลที่จะเรียนรู่เรื่องการพัฒนาตนเอง คนที่เรียนรู้แบบไม่รู้จบ คนที่พัฒนาตนเองอยู่เสมอ เท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จได้”
การเดินทางของ “รมิตา” ย่อมมีเข็มทิศและแผนที่ในการกำหนดเส้นทางตั้งแต่ต้นจนสำเร็จ เมื่อได้รับแผนที่ความสำเร็จมาแล้ว หากแต่ไม่ได้รับการอ่านเพื่อตีความคงไม่รู้แน่ว่าจะต้องอย่างไรต่อไป แต่รมิตานั้นได้มองการณ์ไกล ด้วยวิสัยทัศน์แห่งการมองไปถึงหัวใจของการทำธุรกิจขายตรงอย่างยั่งยืน นั่นคือ การให้ความความสำคัญเรื่องของคนเป็นหลัก กับการเน้นพัฒนาคนผ่านระบบฝึกอบรมและสร้างการขับเคลื่อนความสำเร็จที่เรียกว่า RM Success ด้วยคำที่ท่านประธานแม่ทีมนำทัพแห่งบริษัท รมิตา ที่มักย้ำเสมอว่า “เราจะไม่ทิ้งความฝันใคร”
จากระยะเวลา 5 ปี “รมิตา” เหมือนบุญหล่นทับ ได้เติบโตมาบุกตลาดสร้างภาพลักษณ์ทางสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง “กาแฟมะรุม” ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิก ประกอบกับแผนที่ได้เงินง่าย เข้าใจง่ายด้วยความเป็นจริง เห็นผลจริงที่ว่า จ่ายตรง จ่ายจริง การจัดตั้งบริษัทถูกต้องและน่าเชื่อถือ
จากตรงจุดนี้เองทำให้ “รมิตา” ขยายการเติบโตไปยังแถบประเทศเพื่อนบ้าน นั่นคือ ประเทศลาว ได้อย่างรวดเร็ว เพียงเพราะความพร้อมในหลายด้าน และสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีทำแล้วได้เร็ว ได้ตรง ได้จริง สิ่งนี้คือตรงใจผู้ร่วมธุรกิจที่นั่น กับโจทย์แรกที่ต้องทำในการขยับขยายสู่ธุรกิจของประเทศลาว คือ เรื่องความถูกต้องในการจดขึ้นทะเบียนกับอย.ของประเทศลาว เพื่อให้สะดุดในระหว่างการทำธุรกิจ พร้อมกับการเน้นย้ำเรื่องของระบบที่อำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกอย่างเต็มรูปแบบทั้งเรื่องคีย์รหัสเวลาสมาชิกใหม่มาสมัคร รวมถึงค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายจริง กับสมาชิกรวมแล้วที่มีอยู่ตอนนี้ร่วม 4 หมื่นคน และฐานความมั่นคงที่แบ่งอย่างเห็นได้ชัด คือ ประเทศลาว 60% และประเทศไทย 40%
ด้วยแผนการจ่ายที่ไม่เหมือนกับบริษัททั่วไป คือ จ่ายเงินสดใส่ซองให้ทุกวันศุกร์ ส่งผลให้สมาชิกทุกท่านแอคทีฟในการทำงานกับผลตอบแทนที่ได้รับกับจุดเด่นทางด้านแผนการตลาดของ “รมิตา” ตรงจุดนี้เองทำให้สมาชิกทั้งในประเทศและต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ถึงจะเป็นค่ายเล็กที่มากด้วยฝีมือและระบบที่รัดกุม แต่ความมั่นคงนั้นมีอยู่เต็มร้อย ด้วยวิธีการทำธุรกิจง่าย ๆ ของ “รมิตา” เพียง 4 ข้อ เท่านั้น คือ ลงทุน การแนะนำคนเข้ามา เข้าสู่ระบบการเรียนรู้ และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือ การซื้อกิน ซื้อใช้ แค่นี้ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น
แน่นอนว่าการทำธุรกิจของ “รมิตา” ได้พร้อมเต็มที่แล้วในเรื่องขับเคลื่อนการเติบโตนั้นมีเห็นอย่างชัดเจน ที่เติบโต 100% เต็มทุกปี แม้จะต้องเจอกับวิกฤติน้ำท่วมจากปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะการวางแผนอันเฉียบแหลมในการเตรียมพร้อมรับภาวะน้ำท่วมด้วยการย้ายคลังสินค้าทั้งหมดในพื้นที่เสี่ยง ไปอยู่ยังจังหวัดหนองคาย เพื่อซัพพอร์ทเรื่องของสินค้าให้กับประเทศไทยทางแถบอีสานลุ่มน้ำโขงและประเทศลาว ซึ่งแนวความคิดนี้ก็ยังเป็นเครื่องการันตีได้ว่าศักยภาพของ “รมิตา” นั้นพร้อมต่อกรกับคู่แข่งได้แล้ว...
โดยทาง “เค่งฮั้ว” หัวเรือใหญ่แห่งรมิตา ยังได้หารือกับผู้นำเน้นความสำเร็จวางเป้าหมายในปี 2555 นี้ว่าจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 100% ด้วยขยับขยายสาขาให้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคใต้ กินพื้นที่ตั้งแต่เหนือสุดไปจรดยันใต้สุด รวมไปถึงประเทศลาวที่เริ่มตั้งแต่หลวงพระบางยันภาคใต้เช่นเดียวกัน พร้อมความเข้มข้นในเรื่องการฝึกอบรม และการเปิดสโมสรพลังรมิตา ที่ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก ณ ขณะนี้ แต่ยังไม่หมดแค่นั้นยังได้วางกลยุทธ์เรื่องการขยายตลาดไว้อย่างแยบยน คือ ถ้าสนใจเปิดพื้นที่ใหม่นอกจากสาขาที่มีอยู่เดิมแล้ว บริษัทได้มีการซัพพอร์ทการจัดการประชุมถึง 30% ถือว่าเป็นการวางแผนที่ทำให้สมาชิกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“คือไม่ได้เน้นที่จำนวนสาขาแต่เราจะเน้นว่าที่ไหนก็แล้วแต่ที่เปิดสาขาต้องประสบความสำเร็จ และผู้นำที่นั่นต้องอยู่แล้วมีความสุข” ...ต้องบอกว่า “บริษัท รมิตา” ทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ถึงจะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่มีอัตราการเติบโตสูง มีการสนับสนุนเต็มที่สำหรับสมาชิกใหม่ เรื่องความสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกลผู้นำสามารถมั่นใจและมองเห็นถึงอนาคตได้จริง ด้วยการมาพิสูจน์ความสำเร็จนี้กับ “รมิตา”
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 315 ประจำวันที่ 1 - 15 มีนาคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น