ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

‘ยูนิซิตี้’ ดันสาขาอาเซียนเข็นเป็นแกนผลักยอดขายรวมบริษัทขึ้นท็อป

ยูนิซิตี้ ฉลองความสำเร็จกับการขึ้นตำแหน่งของผู้นำไทย “รสา คำแบน” สู่ตำแหน่ง Presidential Crown Diamond เป็นคนแรกของโลก แถมผู้บริหาร ยิ้มร่า อวดยอดขายที่เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 28% พร้อมดันสาขาเอเชียแปซิฟิก ขึ้นเป็นหัวหอก ไต่ฝันสร้างยอดขายเป็น อันดับหนึ่งขายตรงโลก

มร.คริสโตเฟอร์ คิม ประธานกลุ่มบริษัทภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท ยูนิซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ จำกัด เปิดเผยถึงยอดขายของบริษัท ยูนิซิตี้ ประเทศ ไทย ในปีที่ผ่านมาว่า ยอดขายของบริษัทเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 28% โดยมี ยอดสมาชิกเพิ่มขึ้นประมาณ 16% แต่อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า ตัวเลขดังกล่าว ไม่อาจสร้างความตื่นเต้นได้เท่ากับการที่ยูนิซิตี้มี Presidential Crown Diamond เป็นคนแรกของโลก คือ “คุณรสา คำแบน”

“ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และน่าสนใจ เป็นอย่างยิ่งที่นักธุรกิจยูนิซิตี้คนไทย ขึ้นตำแหน่ง Presidential Crown Diamond ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของบริษัท เป็นคนแรกจากยูนิซิตี้ทั่วโลก เพราะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แม้จะเกิดวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่ในเมืองไทย แต่คุณรสา สามารถ ขึ้นตำแหน่งได้ในช่วงเวลาลำบาก เช่นนั้น ตนจึงอยากบอกว่าประเทศไทยทำได้ ถือเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากจริงๆ”

โดยมร.คริสโตเฟอร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันยูนิซิตี้ของประเทศไทยมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ส่วนในระดับโลก ก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ใกล้เคียงกับสหรัฐฯ เกาหลี ญี่ปุ่น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าประเทศ ไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของธุรกิจยูนิซิตี้ในขณะนี้

“ตนมองว่าประเทศไทยสามารถกลายเป็นประเทศที่สร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในโลกได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัย สำคัญ 2 ประการ คือ ประการแรก การนำ สินค้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาด ซึ่งในขณะนี้ ยูนิซิตี้ ประเทศไทย ได้มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ใหม่ ชื่อว่า Aestival Prime (เอสติวัล ไพรม์) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยลบเลือนริ้วรอย โดยจะช่วยให้ผิวหน้าของ ผู้ใช้ดูกระชับ เส้นบางๆ และริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าและอารมณ์ต่างๆ ดูเลือนจางลง ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

ปัจจัยสำคัญอีกประการ คือ การสนับสนุนผู้นำ โดยเน้นให้สมาชิกต้องพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ซึ่งในปีนี้บริษัทจะเน้นการสื่อสารร่วมกันกับ ทุกฝ่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ผู้นำ สมาชิก และรวมถึงองค์กรภายนอก อย่าง เช่น ภาครัฐบาล”

ส่วนแผนงานเชิงรุกของบริษัทในปีนี้ มร.คริสโตเฟอร์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีเป้าหมายใหญ่ คือการกำหนดให้ยูนิซิตี้ภาคพื้น เอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 55% นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนว่า จะมี การเปิดตลาดใหม่ในเอเชียอย่างแน่นอน โดยประเทศแรกที่เตรียมการอยู่ในขณะนี้ คือ ประเทศอินโดนีเซียซึ่งจะเปิดในเดือนเมษายน ประเทศถัดไปคือ ลาว กัมพูชาและพม่าตามลำดับ เนื่องจากผู้นำของประเทศไทยมีสมาชิกเป็นจำนวนมากในประเทศเหล่านี้

ในส่วนของเมืองไทย บริษัทกำลังเตรียมขยายพื้นที่สำนักงานใหญ่ให้มีชั้นแกลอรี่ จัดแสดงประวัติของยูนิซิตี้ทั่วโลก และมีห้อง VIP สำหรับสมาชิกระดับสูงได้ เข้ามาพักผ่อน ซึ่งคล้ายกับห้อง VIP ของ การบินไทย โดยแผนทั้งหมดคาดว่าจะแล้ว เสร็จในเดือนเมษายนนี้ นอกจากนี้ เกี่ยวกับโปรโมชั่น ตนคาดว่า ปีนี้ยูนิซิตี้จะมีการ จัดโปรโมชั่นท่องเที่ยวในหลายประเทศด้วยกัน เช่น ประเทศอิตาลี เกาหลี มัลดีฟส์ และมีการจัดทริปสุดพิเศษสำหรับผู้นำในระดับไดมอนด์ คือ การจัดทริปไปอลาสกา เป็นต้น

สุดท้ายมร.คริสโตเฟอร์ ได้กล่าวถึง การเตรียมตัวรองรับการเปิดเสรีอาเซียน ว่า “เมื่อมองเศรษฐกิจทั่วโลก ถือว่าอาเซียน เป็นตลาดสำคัญในปัจจุบัน เพราะจะเห็นได้ว่าหลังจากยุโรป และอเมริกา มีปัญหา ทางการเงิน พบว่ากลับฟื้นตัวได้ช้ามาก ต่างจากประเทศในแถบเอเชียที่เคยอยู่ในภาวะดังกล่าวมาก่อน แต่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้เร็ว ตอนนี้ตนจึงคิดว่าบริษัททั่วโลกน่าจะมองตลาดในเอเชียอยู่เช่นกัน ซึ่งสิ่งสำคัญในขณะนี้ ก็คือ สมาชิกในเอเชียต้องทำงานร่วมกัน ปรึกษากันมากขึ้น เพื่อสร้างฐานอำนาจของเศรษฐกิจแห่ง ใหม่ในโลก”

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1274 ประจำวันที่ 11-2-2012 ถึง 14-2-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น